ปรับจริง! ถ้าหากอยู่ในรถมากกว่า 1 คนขึ้นไป แล้วไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากาผ้า ไม่มีการยกเว้นแม้จะเป็นครอบครัวเดียวกัน
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 กทม. ได้ออกประกาศเรื่อง ให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถานหรือสถานที่พำนัก ผู้ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาเมื่อออกจากบ้านหรืออยู่ในที่สาธารณะ มีความผิดตามมาตรา 51 ของ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งได้ระบุถึงโทษไว้ว่า
“มาตรา 51 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (1) (2) (5) หรือ (6), มาตรา 39 (1) (2) (3) หรือ (5), มาตรา 40 (5) หรือไม่อํานวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 39 (5) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
โดยมีการจำแนกอัตราค่าปรับใน 2 แบบ แบบที่ 1 มาตรา 34 (5) หรือ (6) ครั้งที่ 1 จำนวน 6,000 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 12,000 บาท และตั้งแต่ครั้งที่ 3 เป็นต้นไป 20,000 บาท
และมาตรา 34 (1) (2), มาตรา 39 (1) (2) (3) หรือ (5), มาตรา 40 (5) และมาตรา 39 (4) ปรับในอัตราเดียว 20,000 บาท”
ที่ต้องออกประกาศแบบนี้เพื่อเป็นการป้องกันการติดต่อของเชื้อไวรัสจากบุคคลไปสู่อีกบุคคล ดังนั้นเมื่อมีบุคคลอื่นอยู่ในรถด้วยจึงต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าโดยไม่มียกเว้นแม้เป็นครอบครัวเดียวกัน
แต่ในกรณีที่นั่งมาคนเดียวจึงอนุโลมว่าไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก็ได้ และสำหรับการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในอาคารหรือที่ต่างๆ จะต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา รวมถึงการอยู่ในที่สาธารณะคนเดียวก็ต้องสวมนะครับเพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีผู้ที่ติดเชื้อมาใช้สถานที่ที่นั้นหรือไม่
สำหรับเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ทางการแพทย์ไม่แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากาผ้า เพราะเด็กยังไม่รู้วิธีที่จะถอดหน้ากากออกรวมถึงอาจขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิตได้ จึงเข้าข่ายอนุโลมไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย แต่ให้หลีกเลี่ยงการพาเด็กเล็กไปในสถานที่แออัดหรือพื้นที่เสี่ยงต่อเชื้อไวรัสโควิด-19
หากสนใจรถยนต์ฮอนด้าสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ