ติดตั้งคาร์ซีทเพื่อให้ปลอดภัยต่อตัวลูกน้อย กับ 5 วิธีการติดตั้ง

ติดตั้งคาร์ซีทเพื่อให้ปลอดภัยต่อตัวลูกน้อย กับ 5 วิธีการติดตั้ง

23/05/2022

   การเลือกซื้อคาร์ซีทให้ถูกต้องและปลอดภัยต่อตัวลูกน้อยนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากนะครับ เพราะถ้าหากเลือกซื้อไม่เหมาะสมกับช่วงอายุในแต่ละวัย เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นหรืออุบัติเหตุ อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้นั่นเองครับ สำหรับคาร์ซีทเป็นเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เมื่อต้องออกเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ก็ต้องใช้คาร์ซีทเพื่อช่วยปกป้องลูกน้อย และช่วยลดระดับความรุนแรงจากการเกิดอุบัติได้ รวมถึงลดการบาดเจ็บของร่างกายได้อีกด้วยครับ

   ส่วนใหญ่แล้วรถยนต์ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระของเด็ก ซึ่งเข็มขัดนิรภัยทั่วไปที่ติดตั้งมาให้ในรถยนต์นั้นจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีส่วนสูงเกิน 140 เซนติเมตรขึ้นไป ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นลูกน้อยอาจได้รับบาดเจ็บจากการใช้อุปกรณ์ที่ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายได้ เพราะการเกิดอุบัติเหตุอาจทำให้กระดูกต้นคอหัก ทำให้เสี่ยงเลือดออกในกะโหลกศีรษะ ปอด รวมถึงตับ และม้ามแตกได้ การเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้งมีความรุนแรงไม่เท่ากัน ฉะนั้นหากป้องกันให้ดีพอจะช่วยลดความรุนแรงได้นั่นเองครับ

   และเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ราชกิจจานุเบกษา ได้มีประกาศพระราชบัญญัติ จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) ซึ่งเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ถนน มีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 กันยายน 2565 โดยสาระสำคัญมีดังนี้

  • ผู้โดยสารที่นั่งข้างหน้า และข้างหลัง จะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดในการเดินทาง
  • เด็กที่มีอายุไม่เกิน 6 ขวบ จะต้องจัดให้นั่งใน “คาร์ซีท” เพื่อป้องกันอันตราย
  • ผู้โดยสารที่สูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร จะต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ไม่ว่าจะนั่งข้างหน้าหรือข้างหลัง

   ในกรณีที่ผู้โดยสารหรือผู้ขับขี่มีปัญหาด้านสุขภาพที่ไม่สามารถคาดเข็มขัดนิรภัยได้ จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตาม 

และหากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

 

อ่านพระราชกิจจานุเบกษา คลิก

 

   แล้วสงสัยไหมครับว่า ซื้อคาร์ซีทมาแล้วพอนำมาใช้จริงกลับไม่ได้ป้องกันอะไรหรือไม่สามารถล็อคตัวลูกน้อยของท่านได้เป็นเพราะอะไรกัน และสำหรับวิธีการติดตั้งคาร์ซีทให้ปลอดภัยจะมีอะไรบ้าง ยูไนเต็ด ฮอนด้า นำข้อมูลดีๆ มาฝากกันครับ

 

1. เลือกคาร์ซีทให้เหมาะสมกับลูกน้อย

   คาร์ซีทมีหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละแบบจะถูกแบ่งเป็นช่วงอายุตามความเหมาะสมของแต่ละวัย ซึ่งแต่ละประเภทจะถูกออกแบบมาให้รองรับกับวัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนัก ส่วนสูง สัดส่วนในแต่ละวัย สำหรับรูปแบบคาร์ซีทแต่ละประเภทมีดังนี้ครับ

  • คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้า สำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิด-2 ปี เหมาะกับเด็กที่มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 10 กิโลกรัม ซึ่งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าจะสามารถปกป้องหัวของเด็ก ลำคอ และกระดูกสันหลังได้ดี แล้วยังสามารถปรับเอนไปกับที่นั่งได้อีกด้วย

 

  • คาร์ซีทแบบหันหน้าออก สำหรับเด็กช่วงอายุตั้งแต่ 2-7 ปี โดยน้ำหนักตัวไม่เกิน 9 กิโลกรัม ซึ่งคาร์ทแบบหันหน้าออกจะหันไปทิศทางเดียวกับเบาะนั่นเองครับ

 

  • บูสเตอร์ซีท สำหรับเด็กช่วงอายุตั้งแต่ 4-12 ปี เหมาะกับเด็กที่มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 15-18 กิโลกรัม คาร์ซีทแบบนี้จะเป็นการเสริมความสูง เพื่อให้ลำตัวพิงไปกับพนักพิงด้านหลัง

 

  • และสำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไป จะใช้เข็มขัดนิรภัยที่ติดมากับรถยนต์

 

2.ติดตั้งไว้เบาะหลัง

   เพราะเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นถุงลมนิรภัยที่ติดมากับตัวรถยนต์ที่อยู่ด้านหน้านั้นจะกระแทกโดนเด็ก ฉะนั้นควรติดตั้งที่นั่งนิรภัยไว้ข้างหลังจะดีกว่านะครับ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงให้ถุงลมนิรภัยไม่ทำอันตรายต่อตัวลูกน้อยนั่นเอง

 

3. ติดตั้งแบบหันหน้าเข้าเบาะ

   การติดตั้งแบบหันหน้าเข้าเบาะจะเป็นการลดแรงกระแทกบริเวณตำแหน่งศีรษะได้เป็นอย่างดีครับ เพราะหากรถเกิดการเบรคกะทันหันจะทำให้โดนตัวลูกน้อยได้ง่าย และอาจเป็นอันตรายได้ครับ 

 

4. อ่านคู่มือการติดตั้ง

   เพราะคาร์ซีทแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกันออกไป รวมถึงการใช้งานก็จะไม่เหมือนกันทั้งหมด ฉะนั้น ผู้ปกครองควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการติดตั้งให้เรียบร้อยเสียก่อนนะครับ เพื่อความปลอดภัยต่อตัวลูกน้อยของท่านเอง

 

5. คาดเข็มขัดนิรภัยให้เหมาะสม

   การคาดเข็มขัดนิรภัยก็ควรคาดให้ถูกต้องเช่นกันนะครับ โดยจะต้องคาดให้พอดีกับตัวลูกน้อย ไม่หลวม หรือไม่แน่นจนเกินไป เพื่อที่จะได้ประคองตัวลูกน้อยให้อยู่ติดกับคาร์ซีทนั่นเอง และหากเกิดอุบัติหรือเหตุการณ์ที่เราไม่ได้คาดคิดจะได้ช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บได้ครับ

 

   สำหรับการเลือกซื้อคาร์ซีทนั้นจะมีราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่น แนะนำให้เลือกศูนย์บริการที่ครอบคลุมในประเทศไทยนะครับ เพราะหากคาร์ซีทเกิดความเสียหายหรือต้องซ่อมบำรุงเมื่อไรจะได้หาอะไหล่ได้ง่ายนั่นเองครับ เรื่องการเซอร์วิสก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกันนะค้าบบ

 

   และมีอีกอย่างที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองเกิดความกังวลก็คือ การที่ลูกน้อยไม่ยอมนั่งคาร์ซีท ใช่หรือไม่ครับ? สำหรับวิธีการรับมือเมื่อลูกน้อยงอแงไม่ยอมนั่งคาร์ซีทนั้น อาจจะใช้วิธีการใช้ของเล่นหรือกากิจกรรมเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของลูกน้อยเพื่อให้เล่นของเล่นแบบเพลินๆ ในขณะที่นั่งคาร์ซีท หรือในบางครั้งพ่อแม่หรือผู้ปกครองสามารถย้ายไปนั่งที่เบาะหลังข้างๆ คาร์ซีทแทนก็ได้ครับ เพื่อทำให้ลูกน้อยรู้สึกว่ามีเพื่อนและไม่งอแงนั่นเอง 

   แต่ถ้าให้ลูกน้อยมานั่งตักของผู้ปกครองโดยไม่นั่งที่คาร์ซีท อาจเกิดความเสี่ยงสูงได้ครับ ซึ่งอาจจะเสียชีวิตได้ทั้งผู้ปกครองและลูกน้อยเพราะด้วยแรงกระแทกการชนของรถอาจทำให้ร่างของผู้ปกครองหรือลูกน้อยพุ่งชนเบาะหน้าหรือพุ่งออกจากรถได้นั่นเองครับ ดังนั้น ควรใช้ความอดทนหากลูกน้อยงอแง แต่ถ้าเมื่อลูกน้อยเริ่มชินกับการนั่งคาร์ซีทแล้วก็จะสบายและปลอดภัยในภายภาคหน้าครับ


All-new Honda CR-V

เริ่มต้น 1,419,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 17,000 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

ระวัง! เคลมเท็จประกันไม่จ่าย เสี่ยงหมดสิทธิ์คุ้มครองรถ อย่าคิดว่าบริษัทประกันไม่รู้

ระวัง! เคลมเท็จประกันไม่จ่าย เสี่ยงหมดสิทธิ์คุ้มครองรถ อย่าคิดว่าบริษัทประกันไม่รู้

02/08/2025

อย่าคิดว่า 'แกล้งลืม' จะไม่เป็นไร... เพราะการเคลมเท็จ อาจทำให้คุณ หมดสิทธิ์ได้รับความคุ้มครอง จากบริษัทประกันทันที! “รถเฉี่ยวแค่นิดเดียว เดี๋ยวค่อยแจ้งทีเดียวตอนชนครั้งหน้า หรือ รถชนเองนิดหน่อย เดี๋ยวแต่งเรื่องให้เป็นฝั่งตรงข้ามผิด จะได้ไม่ต้องเสียค่าซ่อมเอง” เคลมเท็จไม่ใช่เรื่องเล็ก เสี่ยงทั้งไม่ได้เงินและโดนดำเนินคดี อย่าคิดว่า “บริษัทประกันไม่รู้” เพราะทุกข้อมูลสามารถตรวจสอบได้ การเคลมอย่างโปร่งใส คือการดูแลตัวคุณเองในระยะยาว และหากอยากเริ่มต้นใหม่อย่างมั่นใจ เลือกรถยนต์ฮอนด้าจาก ยูไนเต็ด ฮอนด้า วันนี้ พร้อมดูแลคุณทุกขั้นตอน

อ่านต่อ
คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

18/06/2025

การมีรถยนต์ส่วนตัวสักคันหนึ่ง นอกจากเรื่องของการขับขี่ที่ปลอดภัยแล้วสิ่งที่เจ้าของรถทุกท่านต้องรู้เลยก็คือ วิธีเคลมประกันภัยรถยนต์ ให้เร็วและไม่โดนเทจากบริษัทประกัน เพราะในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ ความรวดเร็วและความเข้าใจในขั้นตอนการเคลมเป็นสิ่งที่จะช่วยให้สถานการณ์ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้นั่นเองครับ

อ่านต่อ
รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

17/06/2025

อีกหนึ่งระบบในความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ แต่หลายท่านมักจะมองข้ามไปหรือรอจนเกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลังเมื่อสายไปแล้ว ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเราและเพื่อนร่วมทางควรทำอย่างไรบ้างมาดูกันเลยครับ

อ่านต่อ
Uto