สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนอกจากการเมาแล้วขับนั้นมีอีกสาเหตุหนึ่งก็คือการง่วงแล้วขับ ซึ่งเป็นสาเหตุที่อันตรายมากไม่แพ้กันเลยครับ ถ้าหากผู้ขับขี่นอนน้อยกว่าปกตินั้นเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุนั้นเอง สำหรับวิธีเอาชนะกับอาการง่วงนอนในขณะขับขี่นั้นจะมีอะไรบ้าง มาดูกันครับ
นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนพักผ่อนให้เพียงพอนั้นเป็นการแนะนำที่ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว สำหรับเวลาที่ควรนอนพักผ่อนนั้นอย่างน้อย 7 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางไกล เพราะจะทำให้คุณตื่นตัวและรู้สึกกระชับกระเฉง ไม่ทำให้เกิดอาการหลับใน แต่ถ้ารู้สึกว่าเหมือนยังนอนไม่เพียงพอ ให้งีบหลับอีกสักพักนะครับเพื่อรีเฟรชตัวเอง
การรับประทานอาหาร
ไม่ว่าจะก่อนหรืออยู่ระหว่างการเดินทาง ควรมีอาหารจำพวก ธัญพืช ผัก ผลไม้ หรือเนื้อที่ไม่ติดมัน เพราะอาหารเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความตื่นตัว แต่ถ้าเป็นอาหารพวกฟาสต์ฟู้ดที่มีไขมัน เกลือ และน้ำตาลจะทำให้คุณเกิดอาหารง่วงนอนได้ ฉะนั้นควรหลีกลเยงและเลือกรับประทานอาหารให้ถูกนะครับ
พักระหว่างทาง
หากรู้สึกว่าเริ่มมีอาการเหนื่อยล้าจากการขับรถเป็นเวลานานหลายชั่วโมง แนะนำให้แวะพักระหว่างทางเพื่อยืดเส้นยืดสายก่อนนะครับ หรือจะเดินเล่นสักพักก่อนแล้วค่อยออกเดินทางต่อ เพราะการนั่งเป็นเวลานานจะทำให้เลือดไม่ไหลไปที่ขาและส่วนอื่นๆ ของร่างกาย หรืออาจะไปเลี้ยงไม่เพียงพอครับ
เปิดเพลง
การฟังเพลงเป็นการลดระดับความเหนื่อยล้าได้ด้วยเช่นกันนะครับ เพราะเพลงจะส่งผลกระทบในเชิงบวกต่ออารมณ์ ดังนั้นควรเปิดเพลงระหว่างออกเดินทางด้วยก็จะเป็นการดี หรือเป็นไปได้คุณก็สามารถร้องตามไปด้วยก็ได้นะครับ
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ควรมีขวดน้ำอยู่ข้างๆ สำหรับจิบเป็นระยะๆ นะครับ ช่วยลดความเหนื่อยล้าได้เช่นกัน
สลับกันขับ
หากเดินทางไกลและไปกันหลายๆ คน สามารถสลับกับขับได้นะครับ หรือจะเป็นการชวนเล่นเกมสนุกๆ แทน เพราะจะทำให้คุณรู้สึกตื่นตัวในขณะที่ขับขี่
ระบบในรถยนต์
การเลือกรถยนต์ก็สามารถช่วยผู้ขับขี่ได้เหมือนกันนะครับ เพราะถ้ารถยนต์คันนั้นมีระบบที่ช่วยคุณได้อย่าง Driver Attention Monitor ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ซึ่งระบบจะตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ผ่านการควบคุมพวงมาลัย เมื่อพบว่าประสิทธิภาพในการควบคุมรถของผู้ขับขี่ลดน้อยลง ระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอ TFT และเมื่อตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากความเหนื่อยล้า ระบบจะทำการสั่นเตือนที่พวงมาลัย โดยเฉพาะใครที่ต้องขับรถคนเดียวบ่อยๆ แนะนำเลยนะครับ
ซึ่งในรถยนต์ Honda CR-V ได้มีระบบ Driver Attention Monitor ที่ช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ และที่สำคัญนะครับมีเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะจากฮอนด้าอย่าง Honda SENSING อีกด้วย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้น นอกจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว ยังมีดีไซน์ที่หรู กว้างขวาง ครบครันด้วยฟังก์ชั่นล้ำสมัยด้วยนะครับ จะเป็นอย่างไรมาชมคลิปกันครับ
ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี หรือต้องการทดลองขับสามารถติดต่อได้ที่ช่องทางของ ยูไนเต็ด ฮอนด้า ได้เลยนะครับ