หน้าที่ของแบตเตอรี่จะมีหน้าที่ป้อนกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องยนต์ เพื่อการทำงานจะได้มีประสิทธิภาพ เพราะแบตเตอรี่เป็นแหล่งที่เก็บกระแสไฟฟ้าสำรอง เพื่อเอาไว้สตาร์ทเครื่องยนต์หรือจ่ายไฟสำรองในขณะที่ไดร์ชาร์จผลิตกระแสไฟไม่ทัน ซึ่งแบตเตอรี่ทั่วไปจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 1.5 – 2 ปี (ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคล)
ประเภทของแบตเตอรี่
- แบตเตอรี่ชนิดน้ำ ก็คือแบตเตอรี่ที่ต้องมีการเติมน้ำกลั่นอยู่บ่อยๆ เพราะเนื่องจากมีการระเหยตัวของน้ำกลั่นในแบตเตอรี่สูง สำหรับแบตเตอรี่ชนิดนี้จะต้องมีการบำรุงรักษาอย่างน้อย 1 ครั้งต่อ 2 สัปดาห์
- แบตเตอรี่ชนิดบำรุงรักษาน้อย จะเป็นแบตเตอรี่ที่จะต้องเติมน้ำกลั่นแต่จะไม่ต้องเติมบ่อยมากเท่ากับชนิดน้ำ เพราะแบตเตอรี่ชนิดนี้มีการระเหยตัวของน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ต่ำ ทำให้ไม่ต้องบำรุงรักษาอยู่บ่อยๆ อย่างน้อยเพียง 1 ครั้งต่อ 3 สัปดาห์ครับ
- แบตเตอรี่ชนิดไม่ต้องบำรุงรักษา ลักษณะของแบตเตอรี่จะไม่มีรูให้เติมน้ำกลั่น ซึ่งจะเป็นแบตเตอรี่แบบที่ปิดสนิท สำหรับแบตเตอรี่ชนิดนี้จะมีการบำรุงรักษาน้อยกว่าชนิดอื่นๆ เพราะการระเหยของน้ำกลั่นจะต่ำมากๆ ทำให้ไม่ต้องค่อยเติมน้ำกลั่น
และในปัจจุบันได้มีการนำแบตเตอรี่ไฮบริดมาใช้กับรถยนต์หลายๆ ยี่ห้อ สำหรับแบตเตอรี่ไฮบริดนี้เป็นแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ที่ถูกออกมาในลักษณะการผสมผสาน โดยใช้จุดที่เด่นระหว่างแบตเตอรี่ห้องเติมน้ำกลั่นและแบตเตอรี่กึ่งแห้งเข้าด้วยกัน ซึ่งความคุ้มค่าของการใช้แบตเตอรี่ของระบบไฮบริดนั้นมักจะเด่นในเรื่องการประหยัดน้ำมัน รวมถึงดูแลรักษาง่ายนั่นเองครับ
สำหรับรถยนต์ของฮอนด้า ได้นำเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อน Sport Hybrid i-MMD ระบบ Full Hybrid ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ เพื่อสร้างสมรรถนะที่ทรงพลัง และสมบูรณ์แบบ ที่ได้มีการนำแบตเตอรี่เข้ามาใช้กับรถยนต์ของฮอนด้า
e:HEV Powerful Hybrid ระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid i-MMD
เป็นระบบ Full Hybrid ที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว พร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน (Lithium-ion) ซึ่งทำงานร่วมกันได้อย่างชาญฉลาดตั้งแต่การออกตัว การขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ การใช้ความเร็วสูง และระหว่างลดความเร็ว โดยระบบจะเลือก และปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่อย่างอัจฉริยะ ทั้งโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
- โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
มอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และในขณะลดความเร็วจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดจากการลดความเร็วนั้น ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าและชาร์ตกลับไปยังแบตเตอรี่ ซึ่งในระบบนี้จะให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมและความเงียบเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง
- โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
เป็นระบบขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว มีอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ และในขณะลดความเร็ว เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน และชาร์จไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในขณะเร่งความเร็ว
- โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
พลังขับเคลื่อนจะมาจากเครื่องยนต์ โดยชุดล็อกอัพคลัชท์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์ และส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อโดยตรง ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงและแรงเสียดทานต่ำ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่
รุ่นรถยนต์ฮอนด้าที่ใช้เทคโนโลยีมีดังนี้
หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ฮอนด้า สามารถติดต่อได้ที่ Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ นอกจากนี้ที่ ยูไนเต็ด ฮอนด้า ยังมีโปรโมชั่นสุดพิเศษอีกมากมายรอคุณดูนะค้าบบ