Pride Mouth ทำไมถึงต้องตรงกับเดือนมิถุนายน และสัญลักษณ์ทำไมถึงเป็นธงสีรุ้งด้วยนะ ซึ่งหลังจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เข้าร่วมกิจกรรมแคมเปญ “The Road to Bangkok Pride 2023” เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความภูมิใจ พร้อมปักธงประกาศความพร้อมเป็นเจ้าภาพ “WorldPride 2028”
Pride Mouth เดือนแห่งความภาคภูมิใจ
จุดเริ่มต้นเริ่มตั้งแต่ครั้งแรกในปี 1960 ซึ่งเป็นยุคที่สังคมยังไม่ค่อยเปิดรับผู้ที่มีความหลากหลายเพศเหมือนกับในปัจจุบันนี้ ส่งผลให้เกิดการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ บางท่านอาจถึงขั้นถูกขับไล่ออกจากบ้าน ทำให้พวกเขาจำต้องหลบและปิดบังความเป็นตัวตนเพื่อไม่ให้ใครรู้ ในยุคนั้นจะมีสถานที่ที่ปลอดภัยอยู่ที่หนึ่งก็คือ บาร์เกย์ เป็นที่ที่เอาไว้นัดรวมตัวกันสังสรรค์ เป็นที่พักสำหรับท่านที่ถูกขับไล่ออกจากบ้าน
บาร์เกย์ในยุคนั้นจึงยังไม่ได้รับการยอมรับทางกฎหมาย พอจะไปจดทะเบียนเจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้จดเพียงเพราะว่าเป็นเกย์ จึงทำให้เกิดบาร์เถื่อนขึ้น จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 28 มิถุนายน 1969 มีตำรวจบุกจับกุมผู้ใช้บริการในบาร์เกย์ “สโตวอลล์ อิน” เป็นแหล่งรวมตัวของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ แต่พวกเขาก็ไม่ยอมให้จับ จนสุดท้ายเกิดเหตุการณ์บานปลายขึ้น ทำให้มีการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามนั่นเองครับ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้กลายเป็นชนวนให้ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิ ความเท่าเทียม และต่อสู้เพื่อเสรีภาพในการแสดงออกทางตัวตน
แต่ตำรวจยิ่งปราบปรามเท่าไร ก็ยิ่งมีคนออกมารวมตัวกันมากยิ่งขึ้น จึงนำไปสู่การเดินขบวนประท้วง ขบวนพาเหรด และการจัดกิจกรรมต่างๆ โดยพวกเขาได้เริ่มจากการเคลื่อนไหวในมหานครนิวยอร์ก ก่อนที่จะขยายไปยังเมืองอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกา จนได้มีการกระจายไปทั่วโลก
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาในทุกวันที่ 28 มิถุนายน ได้เป็นวันที่รำลึกถึงเหตุการณ์นี้ขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิ และความเท่าเทียมให้แก่กลุ่มความหลากหลายทางเพศจนถึงในปัจจุบัน
และเหตุการณ์ในวันนั้นได้มีการขยายใหญ่ออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสุดท้ายได้กลายเป็นการเรียกร้องแบบนี้ทั้งเดือนยาวอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงถึงตัวตนของกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ จึงทำให้เป็นที่มาของเทศกาล “Pride Month” เดือนแห่งความภาคภูมิใวจที่ยาวนานตลอดทั้งเดือนมิถุนายนนั่นเองครับ
ความหมาย LGBTQIAN+
ได้นำตัวย่อมาจากการเรียกคำของเพศวิถีต่างๆ ที่มีความหลากหลาย จากเดิมที่มีเพียง 4 ตัว “LGBT” แต่ต่อมาได้มีการเพิ่ม + เข้าไป เพื่อเป็นการสื่อความหมายที่มีความหลากหลายที่ได้เพิ่มเข้ามา ปัจจุบันได้มีตัวย่อทั้งหมด 8 ตัว “LGBTQIAN+” ซึ่งแต่ละคำนำมาจากคำดังนี้
- Lesbian เลสเบี้ยน : ผู้หญิงที่ชื่นชอบในบุคคลที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน
- Gay เกย์ : บุคคลที่ชื่นชอบในบุคคลที่มีอัตลักษณ์ทางเพศ และรสนิยมทางเพศที่ตรงกับตนเองหรือที่เข้าใจกันง่ายๆ ก็คือ เพศชายที่ชื่นชอบในบุคคลที่เป็นเพศชายด้วยกัน
- Bisexual คนรักสองเพศ : คนที่ชื่นชอบได้ทั้งเพศเดียวกัน และเพศตรงข้าม
- Transgender คนข้ามเพศ : คนที่มีการแสดงอัตลักษณ์ทางเพศตรงข้าม และแตกต่างไปจากเพศกำเนิดของตัวเอง
- Queer เควียร์ : เป็นคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่แสดงให้เห็นถึงความไม่มีกรอบในการเข้ามากำหนดเกี่ยวกับเรื่องเพศ
- Intersex คนที่มีเพศกำกวม : คนที่มีสรีระทางเพศหรือแบบโครโมโซมที่มีลักษณ์กำกวม ไม่ตรงกับสรีระชายหรือหญิง ซึ่งอาจจะมีลักษณ์ทั้งชายและหญิง
- Asexual คนไม่ฝักใฝ่ทางเพศ : คนที่ไม่มีแรงดึงดูดทางเพศต่อบุคคลอื่น ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ตาม
- Non-Binary นอนไบนารี่ : การแสดงออกทางเพศที่อยู่นอกเหนือการจัดหมวดเรื่องเพศที่มีเพียงเพศชายปละเพศหญิงนอกจากนี้ยังเป็นคำที่ทลายการจัดระเบียบบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศว่าจะดำรงชีวิต โดยมีแนวทางในการปฏิบัติให้สอดคล้องกับเพศหญิงหรือเพศชายเท่านั้น
ธงสีรุ้ง
การที่ธงเป็นสีรุ้งเป็นการรวมตัวของหลายๆ เฉดสีมาเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อสร้างสีสัน เหมือนกับความหลากหลายทางเพศนั่นเองครับ จึงได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมกันของกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ภายใต้การออกแบบของ “กิลเบิร์ต เบเกอร์” ศิลปินชาวอเมริกา และนับขับเคลื่อนสิทธิมนุษย์ชนของเกย์ในปี 1978 สำหรับความหมายของแต่ละสีนั้นมีดังนี้
- สีแดง : การต่อสู้หรือชีวิต
- สีส้ม : การเยียวยา
- สีเหลือง : พระอาทิตย์
- สีเขียว : ธรรมชาติ
- สีฟ้า สีคราม : ศิลปะ ความผสานกลมกลืน
- สีม่วง : จิตวิญญาณของ LGBTQ+
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : PPTV HB 36
สำหรับในประเทศไทยก็ได้มีการยอมรับในวงสังคมเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าจะเพศไหนก็เป็นมนุษย์เหมือนกันนะครับ