เพราะรัก...ฮอนด้าจึงอยากมอบให้

เพราะรัก...ฮอนด้าจึงอยากมอบให้

08/10/2021

   เพราะด้วยความมุ่งมั่นในการนำเสนอยนตรกรรมที่ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ เพื่อความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ จึงเป็นแรงผลักดันในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นยังได้รับการผลิตที่มีคุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยเฉพาะด้ายความปลอดภัยจากโรงงาน 

 

เพราะรัก...จึงมอบความปลอดภัยด้วยระบบ Honda SENSING 

   ในรถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค เจเนอเรชันที่ 11 นี้ ได้มีเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ซึ่งมีทั้งหมด 6 ระบบด้วยกัน

 

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)

   เป็นระบบช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนเดินถนนที่อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย และเมื่อมีความเสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ

 

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)

   เป็นระบบช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้ และระบบจะปรับความเร็วอัตโนมัติ โดยมีกล้องตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม และในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยปรับความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้า รวมถึงเบรกและหยุดตามอัตโนมัติ ระบบจะเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มที่พวงมาลัยหรือเหยียบคันเร่ง

 

  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)

   ซึ่งกล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางการเดินรถ ระบบนี้จะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัย เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมให้อยู่ในช่องทางปกติ และลดอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่

 

  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)

   เป็นระบบจะใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางจราจร หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัย และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัย เพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทางปกติ ช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะออกนอกช่องทางจราจร

 

  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

   เป็นระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง โดยจะปรับไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนทางหรือรถยนต์ด้านหน้า

 

  • ใหม่! ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

   เป็นระบบที่ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถคันหน้า โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง เพื่อให้ผู้ขับขี่เคลื่อนที่ตามคันหน้า

 

เพราะรัก...จึงอยากให้สบาย ด้วยเบาะนั่งอัลตราซีทปรับได้ 4 โหมด 

   ในรถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ได้มีเบาะนั่งด้านหลังที่เป็นแบบอัลตราซีท ที่สามารถพับแยกได้แบบ 60:40 ซึ่งปรับได้ทั้งหมด 4 โหมด

 

  • Utility Mode เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง
Utility Mode

 

  • Long Mode เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
Long Mode 

 

  • Tall Mode เบาะด้านหลังพับขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง
Tall Mode

 

  • Refresh Mode เบาะด้านหน้าพับเชื่อมต่อกับเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด
Refresh Mode

 

เพราะรัก...จึงอยากให้การขับเคลื่อนที่ POWERFUL และประหยัดน้ำมัน 

   รถยนต์ ฮอนด้า แอคคอร์ด ในรุ่น อี:เอชอีวี ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนฟลูไฮบริด Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ที่เป็นการทำงานของพลังเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ 

  • มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) 
  • มอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) 

   ซึ่งมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมอยู่ที่ 24.4 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 97 กรัม/กิโลเมตรอีกด้วยนะครับ

   และสำหรับในรุ่น EL ก็ประหยัดน้ำมันไม่แพ้กันเลยครับ โดยอัตราการประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 16.4 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยังรองรับน้ำมัน E85 อีกด้วยนะ ในรุ่นนี้จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 243 นิวตัน-เมตรนั่นเองครับ

 

เพราะรัก...จึงอยากมอบความสปอร์ต ที่เข้มเต็มสไตล์ BLACK EDITION ดีไซน์แบบเอกซ์คลูซีฟ

   ด้วยความเข้มแบบ BLACK EDITION จะต้องยกให้รถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี เลยครับ ที่ยกระดับความสปอร์ตเข้มด้วยดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน ด้วยดีไซน์ภายนอกโทนสีดำแบบเอกซ์คลูซีฟ

  • ราวหลังคาสีดำใหม่
  • ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว เป็นสีดำแบบสปอร์ต 
  • กระจังหน้าโครเมียมรมดำ
  • กันชนหน้าสีดำแบบสปอร์ตพร้อมคิ้วตกแต่งโครเมียมรมดำ และกันชนหลังสีดำแบบสปอร์ต 
  • เอกลักษณ์ความแกร่งด้วยสัญลักษณ์พิเศษ BLACK EDITION 
  • เปิดมุมมองใหม่ด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) 
  • ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ความเรียบหรูในดีไซน์โทนสีดำ มาพร้อมแผงคอนโซลขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้สีดำและสีดำ Piano Black 
  • เบาะหนังปักโลโก้ BLACK EDITION

 

   หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ฮอนด้า สามารถติดต่อได้ที่ Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ


NEW CIVIC e:HEV

เริ่มต้น 1,129,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 12,600 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

รุ่นแรกของฮอนด้า! Honda e:N1 ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% เทคโนโลยีที่เหมาะกับปัจจุบัน

รุ่นแรกของฮอนด้า! Honda e:N1 ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% เทคโนโลยีที่เหมาะกับปัจจุบัน

09/04/2024

ฮอนด้าครองอับดับ 1 ในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะกับการใช้งานในปัจจุบัน ด้วยการผสมผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ขึ้นชื่อในเรื่องการประหยัดน้ำมันและในการเติมน้ำมันใน 1 ถัง สามารถขับไปได้ในระยะทางที่ไกลกว่า ล่าสุดฮอนด้าได้นะเสนอกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) อย่าง Honda e:N1 ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้าที่ผลิตในประเทศไทย

อ่านต่อ
ต่างกันอย่างไร? ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไมเนอร์เชนจ์ 2024 ทั้งรุ่นฟูลไฮบริด e:HEV และเครื่องยนต์ VTEC TURBO

ต่างกันอย่างไร? ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไมเนอร์เชนจ์ 2024 ทั้งรุ่นฟูลไฮบริด e:HEV และเครื่องยนต์ VTEC TURBO

20/02/2024

ฮอนด้าได้มีการปรับโฉมฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ โดยการปรับให้ดูสปอร์ตมากกว่าเดิม ทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยและสิ่งที่อำนวยความสะดวกที่มากยิ่ง ห้องโดยสารกว้างนั่งสบายที่มาพร้อมกับเบาะนั่งอัลตราซีท ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ตรงกับความต้องการได้ และตัวไมเนอร์เชนจ์ 2024 นี้ยังปรับราคาให้ลุกค้าได้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

อ่านต่อ
รุ่น VTEC TURBO อัปเกรดความปลอดภัยอีกขั้นกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย

รุ่น VTEC TURBO อัปเกรดความปลอดภัยอีกขั้นกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย

13/02/2024

สำหรับรุ่น TURBO เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว ที่มาพร้อม Turbocharger ที่ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) อีกทั้งประหยัดน้ำมันเกินคาดด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่สูงถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 100 กรัม/กิโลเมตร และรองรับน้ำมัน E20

อ่านต่อ
Uto