7 วิธีรับมือกับไวรัสโคโรนา

7 วิธีรับมือกับไวรัสโคโรนา

17/04/2020

   ตั้งแต่เข้าสู่ปี 2020 สถานการณ์ที่ทำให้ทั่วโลกรวมถึงภายในประเทศไทยกำลังจับตามองและเฝ้าระวังคงไม่พ้นเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากอู่ฮั่น หรือชื่อเรียกที่เป็นทางการจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่า โคโรนาไวรัส (COVID-19) ทำให้หลายประเทศในตอนนี้ได้รับผลกระทบในหลายๆ ด้านทั้งสุขภาพ เศรษฐกิจ รวมไปถึงการท่องเที่ยว นักเดินทางก็อาจจะมีความกังวล เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อก็มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

   ไวรัสชนิดนี้รับเชื้อได้ง่ายจากระบบทางเดินหายใจ แพร่จากคนสู่คนโดยการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อที่แสดงอาการแล้ว 1 คน สามารถแพร่ให้คนอื่นได้ราว 2-6 คน เชื้อไวรัสนี้เมื่อได้รับเข้าไปจะไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบ ความรุนแรงของโรคนี้ก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล แต่สำหรับคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ และ มีโรคประจำตัว จะมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตมากกว่า อาทิเช่น โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดหัวใจ และสมอง เชื้อไวรัสจะทำให้หัวใจทำงานผิดปกติ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดผิดปกติ ตลอดจนไตวาย และถึงแก่ชีวิต

   แต่จะทำอย่างไร เมื่อมีความจำเป็นต้องเดินทางไปไหนมาไหนอยู่ทุกวันในช่วงนี้ เรามีวิธีดูแลตัวเองให้ปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสนี้มาแนะนำ โดย 7 ข้อง่ายๆ ปฏิบัติตามได้ไม่ยาก ดังนี้
 

รับประทานอาหารปรุงสุก

ปรุงสุก
รับประทานอาหารที่ปรุงสุกเท่านั้น

   หลีกเลี่ยงการทางอาหารดิบ และยึดหลักกินร้อนใช้ช้อนกลางโดยช้อนกลางอาจจะเป็นช้อนของตัวเราเองด้วยนะ เชื้อไวรัสจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในอุณหภูมิที่สูงกว่า 56 องศาเซลเซียส และอย่าลืมล้างมือก่อน-หลังรับประทานอาหารเพราะมือเป็นอวัยวะที่สัมผัสกับเชื้อโรคได้ง่ายที่สุด การล้างมือเป็นการช่วยลดความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสได้ แล้วยังช่วยป้องกันโรคติดเชื้ออีกจำนวนมากที่สามารถติดต่อผ่านการสัมผัส และควรล้างมือให้ถูกต้องด้วยนะครับ ขั้นตอนการล้างมือที่ถูกต้องมีอะไรบ้างมาดูกัน

 

ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับของผู้อื่น

ของส่วนตัวร่วมกัน
ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับของผู้อื่น

   สิ่งที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ เป็นต้น เพราะการใช้ของที่ร่วมกับผู้อื่นนั้นอาจจะเกิดการติดเชื้อไวรัสได้ง่ายยิ่งขึ้น อย่างผ้าเช็ดหน้าที่เราใช้เช็ดเหงื่อ เช็ดที่ใบหน้า ซึ่งเหงื่อสามารถติดต่อได้เหมือนกันและยิ่งโดนตาด้วยแล้วนั้น อาจจะเกิดการติดเชื้อได้

 

สวมใส่หน้ากากอนามัย 

สวมใส่หน้ากาก
ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการรับเชื้อ

   เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้าน และต้องสวมอย่างถูกต้อง โดยสีเข้มไว้ด้านนอก สีอ่อนไว้ด้านใน คลุมทั้งปากและจมูก เพราะละอองฝอยในอากาศที่เราสูดดมเข้าไปอาจจะมีเชื้อไวรัสปะปนอยู่ แต่อายุการใช้งานนั้นสั้นควรใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งนะครับ ถ้าใช้ซ้ำกันหลายๆ ครั้ง อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้

 

หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด

สถานที่แออัด
หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่แออัด

   ด้วยมลภาวะที่เป็นพิษ และอากาศถ่ายเทไม่สะดวกอย่างศูนย์การค้า ศูนย์อาหาร โรงภาพยนตร์ สถานีรถไฟฟ้า สถานีขนส่ง ชุมชนแออัด ล้วนเป็นแหล่งที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้เราสามารถป้องกันได้โดยก่อนที่จะสัมผัสกับสิ่งของตามที่สาธารณะ เช่น ราวบันได ลิฟต์ ประตู ตู้ ATM ควรฆ่าเชื้อก่อนโดยใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ฉีด และหลังจากที่เราสัมผัสแล้วให้ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ร่วมถึงเสื้อผ้าที่เราใส่เมื่อกลับจากข้างนอกแล้วให้นำไปซักทำความสะอาดทันที เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่ติดมากับเสื้อผ้านั่นเองครับ

 

ไม่อยู่ใกล้กับผู้ป่วย

ไม่อยู่ใกล้ผู้ป่วย
ไม่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ไอ หรือจาม

   เนื่องจากเราไม่สามารถทราบได้ว่าใครบ้างที่ได้รับเชื้อไวรัส เมื่อเจอให้อยู่ให้ห่างประมาณ 180 เซนติเมตร เพื่อให้พ้นจากรัศมีน้ำลาย และน้ำมูกที่กระจายออกมา 

 

หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ที่ป่วย หรือตาย

เลี่ยงสัมผัสสัตว์
หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ที่ป่วย หรือตาย

   เนื่องจากกลุ่มผู้ที่ติดเชื้อกลุ่มแรกมาจากสัตว์สู่คน ดังนั้น เราไม่สามารถรู้ได้ว่าสัตว์ตัวนั้นมีเชื้อไวรัสหรือไม่ 

 

พักผ่อนให้เพียงพอ 

นอนพักผ่อน
พักผ่อนให้เพียงพอ

   ควรหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรงจากภายใน เป็นการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ โดยเริ่มจากการพักผ่อนให้เพียงพอ และที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายด้วยนะครับ

 

   สถานการณ์ช่วงนี้...ต้องดูแลเป็นพิเศษนะครับ และการล้างมือเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะถ้ามือของเราไม่สะอาดแล้วสัมผัสที่หน้า เชื้อไวรัสอาจจะปะปนอยู่ที่มือของเรา ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสได้นะครับ 

บทความอื่นๆ

ประกันรถยนต์ มีความจำเป็นขนาดไหน ประกันภัยไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่คือความจำเป็น

ประกันรถยนต์ มีความจำเป็นขนาดไหน ประกันภัยไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่คือความจำเป็น

17/12/2025

ชนจริง เจ็บจริง ชีวิตจริงไม่ใช่คอนเทนต์ ในโลกออนไลน์ เราอาจเห็นคลิปอุบัติเหตุผ่านตาอยู่บ่อยครั้ง บางคลิปถูกตัดต่อให้ดูเหมือนเรื่องไกลตัว เป็นเพียงคอนเทนต์ที่เลื่อนผ่านแล้วก็จบ แต่ในชีวิตจริง… อุบัติเหตุไม่เคยเลือกเวลา ไม่เลือกสถานที่ และไม่เลือกใคร แค่เสี้ยววินาทีจากความประมาท รถเฉี่ยว ชน ล้ม หรือพลาดพลั้งเพียงนิดเดียว อาจเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตได้ทันที ไม่ใช่แค่รถพัง แต่หมายถึง ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียเวลา ค่าซ่อม ค่าชดเชย และความกังวลที่ตามมา

อ่านต่อ
พายุวิภามาแล้ว! ส่งผลกระทบกับเราหรือไม่ พร้อมวิธีรับมือแบบไม่ประมาท

พายุวิภามาแล้ว! ส่งผลกระทบกับเราหรือไม่ พร้อมวิธีรับมือแบบไม่ประมาท

23/07/2025

ช่วงฤดูฝนในประเทศไทย มักมาพร้อมกับพายุที่อาจสร้างผลกระทบทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน หนึ่งในพายุที่หลายคนเริ่มได้ยินชื่อกันบ่อยขึ้นในข่าว คือ “พายุวิภา” ซึ่งแม้ไม่ใช่พายุขนาดใหญ่ที่สุด แต่ก็สามารถสร้างความเสียหายได้หากไม่เตรียมพร้อม มารู้จักพายุวิภาให้มากขึ้น พร้อมวิธีรับมือและคำแนะนำสำคัญ เพื่อความปลอดภัยทั้งของคุณและรถยนต์ของคุณ “พายุวิภา” เป็นพายุโซนร้อนที่มีชื่อจากประเทศไทย โดยคำว่า “วิภา” หมายถึง “แสงสว่าง” หรือ “ผู้มีปัญญา” แม้ชื่อจะฟังดูดี แต่พายุลูกนี้อาจส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวันของเราไม่น้อย…

อ่านต่อ
ทำไม? ยังมีอาการเวียนหัวไม่หายหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว อาการแบบนี้ปกติหรือไม่และวิธีแก้ต้องทำอย่างไร

ทำไม? ยังมีอาการเวียนหัวไม่หายหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว อาการแบบนี้ปกติหรือไม่และวิธีแก้ต้องทำอย่างไร

31/03/2025

เกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศไทยในหลายจังหวัดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนมาถึงกรุงเทพฯ สร้างความตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีตึกและตามอาคารบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตามหากท่านใดที่มีอาการเวียนหัวหรืออาการเมาหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว สิ่งแรกที่ต้องปฏิบัติก็คือหลีกเลี่ยงการเดินหรือการเคลื่อนไหวเร็วก่อนนะครับ หาที่นั่งพักในที่ที่ปลอดภัย พร้อมกับดื่มน้ำเพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถปรับสมดุล แต่ถ้าหากมีอาการเป็นเวลานานเกิน 1 สัปดาห์ หรือมีอาการรุนแรงเช่น เวียนหัวจนล้ม คลื่นไส้อาเจียนตลอดเวลา ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการเพิ่มเติมนะครับ หากมีข้อสงสัยหรือมีอาการผิดปกติ สามารถขอคำปรึกษาจากแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สามธารณสุขได้ทันทีที่ สายด่วนสุขภาพ 1669 และสายด่วนสุขภาพจิต 1323

อ่านต่อ
Uto