ตอกย้ำการเป็นสปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีด้วยเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนฟลูไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังพร้อมประหยัดน้ำมัน นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่มีมาให้ทุกรุ่นย่อย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเป็นรถเอสยูวีที่ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคน
ด้วยดีไซน์ที่ลงตัวกับความอเนกประสงค์ซึ่งสะท้อนสไตล์เอสยูวีได้อย่างชัดเจน เพราะด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่! สีเดียวกับตัวรถ (มีในรุ่น e:HEV EL) และกระจังหน้าสีดำเงา (มีในรุ่น e:HEV E) ที่เชื่อมต่อกับไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (มีในรุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ซึ่งมาพร้อมกับไฟท้ายแบบ LED Light Strip ที่เชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาวที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งสปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต เสาอากาศครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ซึ่งมีขนาด 17 นิ้ว (มีในรุ่น e:HEV E และรุ่น e:HEV EL) ที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นยนตรกรรมไฮบริดด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้าและสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย
สำหรับในรุ่น RS ที่ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์สปอร์ตเอกลักษณ์แบบเอกซ์คลูซีฟ ที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตมาพร้อมกับสัญลักษณ์ RS แบบ AMP UP บนกันชนหน้าด้านล่าง กันชนหน้า-หลัง พร้อมชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ต ตกแต่งด้วยโครเมียม ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว และหลังคาเป็นแบบกระจกพาโนรามา ให้ความพิเศษยิ่งขึ้นกับสีภายนอกสีแดงอิกไนต์ที่หลังคาเป็นสีดำสไตล์ทูโทน นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงและแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางพร้อมฟังก์ชันที่ครบครันที่ยังคงประโยชน์สไตล์เอสยูวีไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ที่โดดเด่นด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่มาพร้อมกับระบบ Air Diffusion System โดยช่องปรับอากาศดีไซน์ใหม่ที่สามารถหมุนเวียนทิศทางลมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกระจายลมได้อย่างเหมาะสมทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร พร้อมกับช่องปรับอากาศตอนหลัง โดยทุกรุ่นมาพร้อมกับเบาะหนังดีไซน์ใหม่สีดำ และเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ อีกทั้งห้องสัมภาระท้ายที่มีขนาดใหญ่
- Utility Mode : เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลังซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอนด้าที่เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับลงแนวราบได้เรียบ เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย
- Long Mode : เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
- Tall Mode : เอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ที่โดดเด่นของฮอนด้าที่สามารถพับเบาะด้านหลังขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง ซึ่งมีเพียงฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ รุ่นเดียวในเซกเมนต์ที่สามารถพับเบาะในโหมดนี้ได้นะครับ
นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ในส่วนของสมาร์ตไลฟ์สไตล์ด้วยเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกสบายที่ล้ำสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน อาทิเช่น
- ใหม่! ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วแบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และยังรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
- ลำโพงสูงสุด 8 ตำแหน่ง
- ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด-ปิดแบบสัมผัส
- เบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง
- ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมกับปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ รวมถึงปุ่มควบคุมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และ Honda CONNECT ที่เป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกับรถยนต์โดยทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
- ดีไซน์และเทคโนโลยีที่มีในรถยนต์ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ที่สปอร์ตและพรีเมียมแล้วในทุกรุ่นยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนฟลูไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว คือ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive)
ทั้งนี้ เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มีน้ำหนักเบาและขนาดที่กะทัดรัด ซึ่งสามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟฟ้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า โดยตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบ/นาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และยังมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร
โดยระบบขับเคลื่อนฟลูไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ โดยมีทั้งหมด 3 โหมดด้วยกัน
- โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
- โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด
- โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์
นอกจากนั้น ในทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมกับสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการเลยครับ ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 3 โหมด
- SPORT Mode : โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่ช่วยการทำงานของเครื่องยนต์ให้พร้อมตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่ที่สนุกมากขึ้น
- NORMAL Mode : โหมดการขับขี่แบบปกติ ในโหมดนี้ใช้สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการการใช้งานโดยทั่วไป
- ECON Mode : โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น
สำหรับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะที่มีมาในทุกรุ่นนั้นก็คือ Honda SENSING นั่นเอง ซึ่งการทำงานจะทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ที่ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดมี 6 ระบบ
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System : CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System : LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam : AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow : ACC with LSF)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System : LCDN)
ในรถยนต์ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
- รุ่น e:HEV RS
- รุ่น e:HEV EL
- รุ่น e:HEV E
และสำหรับสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี
- สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมกับหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน
- สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
- สีขาวแพลทินัม (มุก)
- สีดำคริสตัล (มุก)
- ใหม่! สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก)
และสำหรับการใช้งานรถยนต์ The All-new Honda HR-V e:HEV จะเป็นอย่างไรมาชมกันครับ
หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี หรือรถยนต์ฮอนด้ารุ่นอื่นๆ สามารถติดต่อได้ที่ Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ