"โรคตาแดง" ต้องระวัง! ในช่วงหน้าฝนหรือสถานการณ์น้ำท่วมก็เสี่ยง

"โรคตาแดง" ต้องระวัง! ในช่วงหน้าฝนหรือสถานการณ์น้ำท่วมก็เสี่ยง

04/09/2024

   โรคตาแดงจะมาจากหน้าฝน ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่มีพายุใต้ฝุ่นเข้ามาอีกด้วยทำให้หลายๆ ที่อาจเกิดน้ำท่วมขังได้ การที่เป็นโรคตาแดงที่เกิดจากการติดเชื้อของไวรัสชนิดนึง โดยส่วนใหญ่ที่มีการระบาดในช่วงหน้าฝนมักจะเป็นเกือบทุกปี สำหรับโรคนี้พบในทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งการติดต่อของโรคจะเกิดจากการสัมผัสขี้ตาหรือน้ำตาของผู้ป่วยโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ของร่วมกัน การไอ จาม หายใจรดกัน

 

อาการจะเป็นอย่างไร

   เมื่อได้รับเชื้อและภายใน 2-14 วัน จะมีอาการเคืองตา น้ำตาไหล มีจำนวนขี้ตาเยอะ มีอาการบวมที่เปลือกตา เยื่อตาจะค่อยๆ แดงขึ้นเรื่อยๆ และในบางรายอาจพบอาการของเยื่อตาเป็นลักษณะบวมและมีน้ำใสๆ บริเวณเปลือกตาด้านในจะพบลักษณะเป็นเม็ดใสๆ กระจายอยู่ทั่วโดยจะเริ่มจากตาข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งภายใน 2-3 วัน ในบางรายอาจมีอาการอักเสบของกระจกตาร่วมด้วย เนื่องจากเชื้อไวรัสลามไปที่กระจกตาหรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดตาและสายตามัวได้

ใกล้เข้ามาแล้วกับสถานการณ์ "น้ำท่วม" เตรียมรับมืออย่างไร? คลิก

 

โรคนี้จะหายเองได้หรือไม่?

   สำหรับโรคตาแดงเป็นโรคที่สามารถหายเองได้ โดยส่วนใหญ่จะหายภายใน 1-3 สัปดาห์ ซึ่งจะไม่มีอาหารแทรกซ้อนใดๆ เลยครับ เนื่องจากความรุนแรงของโรคนี้มีหลายระดับ ผู้ที่มีอาการควรได้รับการตรวจตั้งแต่เริ่มมีอาการ

  • อาการไม่รุนแรง : ดูที่กระจกตาดูปกติ อาจจะใช้เพียงการประคบเย็นร่วมกับการหยอดน้ำตาเทียมช่วย เพื่อหล่อลื่นในตา
  • อาการรุนแรง : ตาแดงมากหรือมีการอักเสบที่กระจกตาจากเชื้อไวรัส แนะนำให้หยอดยาในกลุ่มสเตียรอยด์เฉพาะตาข้างที่เป็น เพื่อลดอาการระคายเคืองของตานั่นเองครับ และจะช่วยให้การอักเสบหายเร็วขึ้น *ไม่ควรใช้ยาหยอดตาสเตียรอยด์ติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาจมีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงได้อย่าง การติดเชื้อแบคทีเรียและความดันตาสูง หรือในบางรายอาจมีอาการเจ็บตา เคืองตาได้

   นอกจากนี้ ประมาณร้อยละ 20-50 ของผู้ป่วยที่เกิดจุดขาวๆ ที่กระจกตานานเป็นเดือน ทำให้มีอาการสายตามัวลงหรือเห็นแสงรบกวนได้ และมีน้อยรายนักที่โรคจะรุนแรงจนเกิดเป็นพังผืดดึงรั้งที่เยื่อตา

เล็กจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เสี่ยงต่อสุขภาพ! ฝุ่น PM 2.5 คลิก

 

จะทำอย่างไรไม่ให้เป็น “โรคตาแดง”

   โรคนี้จะติดต่อกันได้ง่ายมากๆ จะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นติดโรคได้ง่าย

  1. ล้างมือให้สะอาด ล้างมือบ่อยๆ
  2. หากต้องการจับตาหรือขยี้ตา ให้ล้างมือก่อนทุกครั้ง
  3. ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดตัวร่วมกับใคร ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นโรคตาแดงหรือไม่เป็นก็ตามเพื่อป้องกันตัวเองครับ

 

ผู้ที่เป็นโรคตาแดง ต้องทำอย่างไร

  1. ให้หยุดพักการเรียนหรือพักงานอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  2. ไม่อยู่ในพื้นที่ชุมชนหรือพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก
  3. ใช้กระดาษที่นุ่มซับน้ำตาหรือใช้สำลีชุบน้ำสะอาดเช็ดขี้ตาและบริเวณเปลือกตา
  4. ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้า เนื่องจากผ้าเช็ดหน้าจะเก็บสะสมของเชื้อไว้และอาจติดต่อไปยังผู้อื่น
  5. ใส่แว่นกันแดดเพื่อลดการระคายเคือง
  6. ไม่ควรใช้ผ้าปิดตา เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการติดเชื้อมากขึ้น
  7. งดการใส่คอนแทคเลนส์จนกว่าจะหายสนิท

   สิ่งที่สำคัญ จะต้องหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ หากจะจับบริเวณใบหน้าหรือตาให้ล้างมือก่อนเสมอ เพราะเชื้อไวรัสสามารถติดต่อได้โดยการสัมผัส การที่ล้างมือจะช่วยตัดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้นั่นเองครับ

บทความอื่นๆ

ทำไม? ยังมีอาการเวียนหัวไม่หายหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว อาการแบบนี้ปกติหรือไม่และวิธีแก้ต้องทำอย่างไร

ทำไม? ยังมีอาการเวียนหัวไม่หายหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว อาการแบบนี้ปกติหรือไม่และวิธีแก้ต้องทำอย่างไร

31/03/2025

เกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศไทยในหลายจังหวัดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนมาถึงกรุงเทพฯ สร้างความตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีตึกและตามอาคารบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตามหากท่านใดที่มีอาการเวียนหัวหรืออาการเมาหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว สิ่งแรกที่ต้องปฏิบัติก็คือหลีกเลี่ยงการเดินหรือการเคลื่อนไหวเร็วก่อนนะครับ หาที่นั่งพักในที่ที่ปลอดภัย พร้อมกับดื่มน้ำเพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถปรับสมดุล แต่ถ้าหากมีอาการเป็นเวลานานเกิน 1 สัปดาห์ หรือมีอาการรุนแรงเช่น เวียนหัวจนล้ม คลื่นไส้อาเจียนตลอดเวลา ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการเพิ่มเติมนะครับ หากมีข้อสงสัยหรือมีอาการผิดปกติ สามารถขอคำปรึกษาจากแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สามธารณสุขได้ทันทีที่ สายด่วนสุขภาพ 1669 และสายด่วนสุขภาพจิต 1323

อ่านต่อ
แผ่นดินไหว! เกิดขึ้นที่ประเทศไทยได้อย่างไร? และแรงสั่นสะเทือนส่งผลอะไรกับประเทศไทยบ้าง

แผ่นดินไหว! เกิดขึ้นที่ประเทศไทยได้อย่างไร? และแรงสั่นสะเทือนส่งผลอะไรกับประเทศไทยบ้าง

29/03/2025

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ช่วงเวลาบ่ายโมงตามเวลาไทย ผู้คนในหลากหลายจังหวัดและหลายพื้นที่ต่างก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน โดยคนส่วนใหญ่แล้วจะคิดว่า ตัวเองไม่สบายหรือเปล่า ทำไมมีความรู้สึกบ้านหมุน แต่เมื่อสังเกตในบริเวณรอบๆ แล้วจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟ เก้าอี้ สระน้ำหรือน้ำในห้องน้ำของเรานั้นมีการเคลื่อนไหวผิดปกติ โดยจุดเริ่มต้นมาจากการสั่นสะเทือนในเมียนมา ตามรายงานของศูนย์สำรวจทางภูมิศาสตร์ของสหรัฐฯ ได้มีรายงานว่า เป็นแผ่นดินไหวในเมียนมาที่มีขนาดถึง 7.7 แมกนิจูด ที่มีศูนย์กลางแผ่นดินไหวลึกลงไปในใต้ดินถึง 10 กิโลเมตร ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ สร้างความเสียหายรุนแรงทั้งในเมียนมาและขยายผลกระทบไปถึงกรุงเทพฯ ของประเทศไทย ซึ่งอยู่ห่างออกไปว่า 1,000 กิโลเมตร

อ่านต่อ
เกิดแผ่นดินไหวที่เมียนมาขนาด 7.7 สะเทือนถึงไทย กทม. เป็นพื้นที่เสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

เกิดแผ่นดินไหวที่เมียนมาขนาด 7.7 สะเทือนถึงไทย กทม. เป็นพื้นที่เสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

29/03/2025

เกิดแผ่นดินไหวที่เมียนมาขนาด 7.7 สะเทือนถึงไทย กทม. เป็นพื้นที่เสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้มีการเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมาสะเทือนมาถึงประเทศไทยในช่วงเวลาประมาณ 13.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย เป็นแผ่นดินไหวในเมียนมาที่มีขนาดถึง 7.7 แมกนิจูด ที่มีศูนย์กลางแผ่นดินไหวลึกลงไปในใต้ดินถึง 10 กิโลเมตร ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ สร้างความเสียหายรุนแรงทั้งในเมียนมาและขยายผลกระทบไปถึงกรุงเทพฯ ของประเทศไทย ซึ่งอยู่ห่างออกไปว่า 1,000 กิโลเมตร แผ่นดินไหวครั้งนี้! รุนแรงสุดในรอบ 100 ปี

อ่านต่อ
Uto