ทำไมต้องถ่วงล้อ

ทำไมต้องถ่วงล้อ

12/03/2020

   หลายๆ ท่าน คงสงสัยว่าทำไมต้อง “ตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ” เมื่อไหร่จะถึงเวลาอันสมควรที่ต้องดำเนินการ และถ้าไม่ทำจะเกิดอะไรขึ้น โดยเริ่มที่“ตั้งศูนย์” คือการตั้งมุมต่างๆ ของล้อรถยนต์โดยเฉพาะล้อหน้า และในล้อหลังบางรุ่น ให้ถูกต้องตามค่าที่ผู้ผลิตกำหนดมาจากโรงงานเพื่อประโยชน์ในการขับขี่ที่สมดุล-เกาะถนน แล้วทำไมถึงต้องตั้งล่ะ ในเมื่อถูกกำหนดมาจากโรงงานแล้ว กล่าวคือเมื่อเราใช้รถมาเป็นเวลาหลายหมื่นกิโลเมตร ต้องประสบพบเจอกับสภาพถนน หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งการตกหลุมบ่อต่างๆ ย่อมบั่นทอนทำให้ ค่าของมุมล้อที่ถูกกำหนดมาจากโรงงาน ผิดเพี้ยนไปได้ จะมากหรือน้อยแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตัวแปรที่กล่าวไว้ข้างต้น

   มุมล้อหน้าที่ต้องตั้ง -มุมโท คือมุมที่จะช่วยให้รถวิ่งได้ตรง นิ่ง และสามารถควบคุมรถในทางตรงได้ง่าย เราสามารถสังเกต

 

มุมโท

   มุมโท ได้จาก ถ้าล้อหน้าซ้ายและขวาขนานกันนั้น “มุมโท” จะมีค่าเป็น “0” แต่ถ้า ด้านหน้าของล้อหุบและด้านหลังถ่างออกเรียกว่า “โทอิน” และในทางตรงข้ามถ้าด้านหน้าของล้อถ่างและด้านหลังหุบเข้าเรียกว่า “โทเอาต์”

 

มุมแคสเตอร์

   มุมแคสเตอร์ ในระบบช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท จะเป็นมุมเอียงของโช้คอัพ และในระบบช่วงล่างหน้าแบบปีกนกสองชั้นจะเป็นมุมของคอม้า มีหน้าที่ ช่วยให้รถวิ่งตรง การหักเลี้ยวและคืนตัวของพวงมาลัยทำได้อย่างคล่องตัว สำหรับรถตลาดโดยทั่วไป “มุมแคสเตอร์” จะกำหนดตายตัวไม่สามารถปรับตั้งได้

 

มุมแคมเบอร์

   มุมแคมเบอร์ เป็นมุมเอียงจากแนวดิ่ง โดยถ้าล้อซ้ายและขวาขนานกันในแนวดิ่ง เรียกว่าค่า แคมเบอร์เป็น “0” แต่ถ้าล้อด้านบนถ่างออกและด้านล่างหุบเข้าเรียกว่า แคมเบอร์บวก ถ้าล้อด้านบนหุบเข้าและด้านล่างถ่างออกเรียกว่า แคมเบอร์ลบ ปกติ ค่าแคมเบอร์ ของล้อจะเป็นลบเล็กน้อย เพื่อช่วยให้ทรงตัวได้ดีในการเข้าโค้ง แต่ถ้ามุม แคมเบอร์ มีค่าเป็นลบมากเกินไปจะทำให้กินยางด้านในมากกว่าด้านนอก

 

การถ่วงล้อ

   คือการทำให้ล้อเกิดสมดุลในขณะหมุนโดยการใช้ตะกั่วถ่วงน้ำหนัก เพื่อป้องกันการสั่นขณะรถวิ่ง ทั้งนี้การถ่วงล้อมีด้วยกัน 2 แบบ

  1. ถอดล้อถ่วง ช่างจะถอดล้อออกมาเข้าเครื่องถ่วง โดยเครื่องจะหมุนล้อและประมวลผลออกมาว่า จะต้องถ่วงตะกั่วน้ำหนักเท่าไหร่ตรงจุดไหน เพื่อให้การหมุดสมดุลที่สุด
  2. ถ่วงจี้ การถ่วงลักษณะนี้ไม่ต้องถอดล้อ มักจะใช้กับรถที่ ถอดล้อถ่วง แล้วยังมีอาการสั่น ข้อดีคือสามารถสร้างสมดุลให้ล้อและยาง ลูกปืนล้อ เพลาขับ จานดิสก์เบรก

 

สัญญาณเตือนที่ควรตั้งศูนย์

  • รู้สึกผิดปกติขณะขับรถ รถวิ่งไม่ตรง รถเกิดการเลื้อย แฉลบดึง ซ้าย-ขวา ไม่ว่าจะขณะวิ่งหรือเบรก
  • มีเสียงดังขณะเข้าโค้ง
  • วงเลี้ยวซ้าย-ขวาไม่เท่ากัน
  • ทุกครั้งเมื่อมีการซ่อมเปลี่ยนชิ้นส่วนระบบบังคับเลี้ยวและช่วงล่าง

 

แล้วเมื่อไหร่ต้องถ่วงล้อ

  •  พวงมาลัยสั่น ไม่ว่าจะสั่นทุกช่วงความเร็วหรือ สั่น ณ ความเร็วใดความเร็วหนึ่ง อาทิ สั่นที่ความเร็ว 100 กิโลเมตร/ต่อชั่วโมง ถ้าเร็วหรือช้ากว่านั้นไม่สั่น
  • เมื่อสลับยางวิ่งแล้วเกิดอาการสั่น
  • ทุกครั้งที่เปลี่ยนยางใหม่ โดยควรถ่วงทั้ง 4 ล้อเสมอ

 

   อย่างไรก็ตามก่อนการตั้งศูนย์ทุกครั้งควรตรวจสอบระบบช่วงล่างต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้เสมอ แต่ถ้าไม่มั่นใจสามารถนำรถยนต์เข้ามาเช็คได้ที่ศูนย์บริการ ยูไนเต็ด ฮอนด้า ได้นะครับ


ALL-NEW HONDA ACCORD e:HEV

เริ่มต้น 1,529,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 16,000 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

จอดพักรถก่อนที่จะเกิดอันตราย! ยิ่งขับไกลยิ่งต้องจอดพัก

จอดพักรถก่อนที่จะเกิดอันตราย! ยิ่งขับไกลยิ่งต้องจอดพัก

12/04/2024

ช่วงเทศกาลเป็นช่วงที่ผู้คนต่างเดินทางไกลกันไม่ว่าจะเดินทางไปเที่ยวเพื่อพักผ่อนหรือเดินทางกลับบ้าน แต่การเดินทางจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการขับขี่ จะต้องเตรียมความพร้อมทั้งตัวผู้ขับขี่รวมไปถึงการเตรียมสภาพรถให้พร้อมก่อนออกเดินทาง สิ่งที่สำคัญสำหรับการเดินทางไกลๆ ก็คือการจอดพักรถ เพราะเป็นการถนอมเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดความร้อนที่สูงจนเกินไป

อ่านต่อ
มือใหม่ต้องทำอย่างไร? หากเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องเคลมประกันครั้งแรกต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

มือใหม่ต้องทำอย่างไร? หากเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องเคลมประกันครั้งแรกต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

23/03/2024

สำหรับท่านใดที่เป็นมือใหม่ต้องไม่พลาดเกี่ยวกับรายละเอียดการเคลมประกันในครั้งแรกว่าจะต้องทำอย่างไร และใช้เอกสารอะไรบ้าง เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วมั่นใจว่าตัวเองได้ทำประกันรถยนต์เอาไว้ก็ไม่ต้องกังวลไป แค่ตั้งสติก็พอครับ เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

อ่านต่อ
ร้อนระอุ! เจออากาศร้อนๆ แบบนี้ แอร์รถยนต์จะช่วยได้แค่ไหน?

ร้อนระอุ! เจออากาศร้อนๆ แบบนี้ แอร์รถยนต์จะช่วยได้แค่ไหน?

21/03/2024

บ้านเราไม่ว่าจะเดือนไหนก็ร้อน โดยปกติแล้วเราจะชินกับอากาศร้อนอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าจะเดือนไหนก็ร้อนจริงไหมล่ะครับ แต่ในปี 2567 นี้จะร้อนกว่าปกติ โดยทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้เตือนในเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ ทุกภาคของไทยมีโอกาสที่อุณหภูมิร้อนจัดเกิน 40 องศาฯ และมีบางจังหวัดร้อนจัดจะทะลุ 44 องศาฯ เลย

อ่านต่อ
Uto