สิ่งที่ผู้ใช้รถทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุกๆ ปี คือการต่อภาษีหรือต่อทะเบียน หากมีรถยนต์ก็จะเสียค่าต่อหลักพันขึ้นไป รถจักรยานยนต์ก็จะจ่ายถูกหน่อย หน้าที่ของเราก็คือ ต้องจ่ายตามที่บิลระบุมา ซึ่งจ่ายกันไปตลอดจนเป็นเรื่องกิจวัตรประจำปีไปแล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนไม่ทราบว่าจำนวนเงินที่เราต้องจ่ายกรมการขนส่งทางบกมีสูตรคิดอย่างไรเราจึงรวบรวมข้อมูลมาให้คนที่สงสัยได้กระจ่างขึ้นครับ
สำหรับอัตราการเสียภาษีรถขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ ประเภทรถ รุ่นรถ ขนาดเครื่องยนต์ (ซีซี) น้ำหนักรถ หรืออายุรถ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำมาเป็นตัวกำหนดว่าเราต้องเสียภาษีประจำปีเท่าไร
รถยนต์ส่วนบุคคล
โดยรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 ที่นั่ง เช่น รถเก๋ง, รถกระบะ 4 ประตู, รถ SUV คิดภาษีตามจำนวนเครื่องยนต์ หรือ ซีซีรถ
- 1-600 ซีซีแรก ค่าต่อภาษีรถยนต์คิดซีซีละ 0.50 บาท
- 601 - 1,800 ซีซี ค่าต่อภาษีรถยนต์คิดซีซีละ 1.50 บาท
- 1,800 ซีซี ค่าต่อภาษีรถยนต์คิดซีซีละ 4.00 บาท
รถยนต์ที่จดทะเบียนเกิน 5 ปี
แต่ถ้าหากรถยนต์ของเราจดทะเบียนเกิน 5 ปี จะได้รับการลดหย่อนภาษีรถยนต์ประจำปี ในปีถัดไป ดังนี้
- ปีที่ 6 ลดหย่อน ร้อยละ 10%
- ปีที่ 7 ลดหย่อน ร้อยละ 20%
- ปีที่ 8 ลดหย่อน ร้อยละ 30%
- ปีที่ 9 ลดหย่อน ร้อยละ 40%
- ปีที่ 10 ลดหย่อน ร้อยละ 50%
นอกจากนี้ คุณสามารถดำเนินการเสียภาษีประจำปีได้ล่วงหน้า 3 เดือนก่อนที่ทะเบียนจะขาด หากปล่อยให้ทะเบียนขาดไปแล้ว จะมีค่าปรับเดือนละ 1% ที่เลยกำหนด และถ้าหากทะเบียนขาดเกิน 3 ปี รถจะถูกระงับการใช้งานทันที ต้องเสียค่าปรับย้อนหลังและทำเรื่องจดทะเบียนใหม่ ที่จะทำให้คุณเสียเวลาเป็นอย่างมาก และถ้าหากถูกเจ้าหน้าที่จับระหว่างที่ทะเบียนขาด จะถูกดำเนินคดีและมีค่าปรับตามมาหลักหมื่นบาท เพราะเหตุนี้เราจึงแนะนำให้หมั่นต่อภาษีทุกปี อย่าให้ทะเบียนขาดจะเป็นการดีกว่าครับ
เอกสารที่ต้องเตรียม
และในส่วนของเอกสารที่ต้องเตรียมนั้น มีแค่ 3 อย่างเท่านั้น
- สมุดเล่มทะเบียนรถ
- หลักฐานการทำ พ.ร.บ.
- ใบรับรองการตรวจสภาพรถ
เมื่อเตรียมพร้อมแล้วสามารถไปที่ขนส่งเพื่อยื่นเรื่องขอต่อภาษีรถยนต์ได้เลยนะครับ