ปรับจริง! อยู่ในรถมากกว่า 1 คนขึ้นไป ต้องสวมแมสก์ ฝ่าฝืนปรับสูงสุด 20,000 บาท

ปรับจริง! อยู่ในรถมากกว่า 1 คนขึ้นไป ต้องสวมแมสก์ ฝ่าฝืนปรับสูงสุด 20,000 บาท

04/05/2021

ปรับจริง! ถ้าหากอยู่ในรถมากกว่า 1 คนขึ้นไป แล้วไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากาผ้า ไม่มีการยกเว้นแม้จะเป็นครอบครัวเดียวกัน 

 

   เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 กทม. ได้ออกประกาศเรื่อง ให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถานหรือสถานที่พำนัก ผู้ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาเมื่อออกจากบ้านหรืออยู่ในที่สาธารณะ มีความผิดตามมาตรา 51 ของ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งได้ระบุถึงโทษไว้ว่า

 

“มาตรา 51 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (1) (2) (5) หรือ (6), มาตรา 39 (1) (2) (3) หรือ (5), มาตรา 40 (5) หรือไม่อํานวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 39 (5) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

 

โดยมีการจำแนกอัตราค่าปรับใน 2 แบบ แบบที่ 1 มาตรา 34 (5) หรือ (6) ครั้งที่ 1 จำนวน  6,000 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 12,000 บาท และตั้งแต่ครั้งที่ 3 เป็นต้นไป 20,000 บาท 

 

และมาตรา 34 (1) (2), มาตรา 39 (1) (2) (3) หรือ (5), มาตรา 40 (5) และมาตรา 39 (4) ปรับในอัตราเดียว 20,000 บาท”

 

   ที่ต้องออกประกาศแบบนี้เพื่อเป็นการป้องกันการติดต่อของเชื้อไวรัสจากบุคคลไปสู่อีกบุคคล ดังนั้นเมื่อมีบุคคลอื่นอยู่ในรถด้วยจึงต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าโดยไม่มียกเว้นแม้เป็นครอบครัวเดียวกัน

   แต่ในกรณีที่นั่งมาคนเดียวจึงอนุโลมว่าไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก็ได้ และสำหรับการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในอาคารหรือที่ต่างๆ จะต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา รวมถึงการอยู่ในที่สาธารณะคนเดียวก็ต้องสวมนะครับเพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีผู้ที่ติดเชื้อมาใช้สถานที่ที่นั้นหรือไม่

   สำหรับเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ทางการแพทย์ไม่แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากาผ้า เพราะเด็กยังไม่รู้วิธีที่จะถอดหน้ากากออกรวมถึงอาจขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิตได้ จึงเข้าข่ายอนุโลมไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย แต่ให้หลีกเลี่ยงการพาเด็กเล็กไปในสถานที่แออัดหรือพื้นที่เสี่ยงต่อเชื้อไวรัสโควิด-19

 

   หากสนใจรถยนต์ฮอนด้าสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ

บทความอื่นๆ

จอดรถอยู่เฉยๆ แล้วโดนชน! ต้องทำอย่างไรและใครเป็นคนรับผิดชอบ? ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง

จอดรถอยู่เฉยๆ แล้วโดนชน! ต้องทำอย่างไรและใครเป็นคนรับผิดชอบ? ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง

18/04/2025

รถเราจอดอยู่เฉยๆ แต่ดันโดนชนซะงั้น! ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรอยขูด รอยบุบหรือชนจนพังเสียหาย หลายท่านอาจไม่แน่ใจหรือไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ และยิ่งถ้าเราไม่ทราบว่าใครเป็นคนชนแล้วแบบนี้ประกันสามารถช่วยอะไรเราได้บ้างหรือไม่? แต่ถ้ามีแค่ พ.ร.บ. จะไม่สามารถเคลมได้ เพราะ พ.ร.บ. จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อชีวิตและร่างกาย จะไม่ครอบคลุมการซ่อมรถ ฉะนั้นควรทำประกันภาคสมัครใจด้วยนะครับ เพื่อจะได้คุ้มครองในกรณีที่จอดรถไว้แล้วโดนชน

อ่านต่อ
รถสตาร์ทไม่ติด เกิดจากอะไร? รวมสาเหตุ พร้อมวิธีแก้ไขด้วยตัวเองแบบละเอียด

รถสตาร์ทไม่ติด เกิดจากอะไร? รวมสาเหตุ พร้อมวิธีแก้ไขด้วยตัวเองแบบละเอียด

17/04/2025

รถเจ้ากรรม! ตื่นเช้ามากำลังรีบไปทำงานแต่เจ้ากรรมดันสตาร์ทไม่ติด เชื่อเลยครับว่าหลายๆ ท่านต้องเคยเจอสถานการณ์แบบนี้แน่ๆ แล้วเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเลยทีเดียวเพราะอาการเหล่านี้ทำให้เราไปทำงานสายนั่นเอง ซึ่งจริงๆ แล้วสาเหตุหรือปัญหาที่รถสตาร์ทไม่ติดมีหลายสาเหตุ และหลายอย่างที่เราสามารถตรวจเช็กหรือแก้ไขได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องโทรหาช่างเสมอไปครับ เราจะได้รู้เท่าทันปัญหาของการสตาร์ทรถไม่ติด และสามารถตรวจเช็กเบื้องต้นได้ด้วยตนเองได้อย่างมั่นใจเพราะในบางครั้งอาการที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงแค่อาการเล็กน้อยที่ไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องเสียเงินหรือเสียเวลานั่นเองครับ

อ่านต่อ
ไขข้อสงสัย ต่อประกันล่วงหน้ากี่วันถึงจะดี? พร้อมเคล็ดลับเลือกต่อให้คุ้มที่สุด

ไขข้อสงสัย ต่อประกันล่วงหน้ากี่วันถึงจะดี? พร้อมเคล็ดลับเลือกต่อให้คุ้มที่สุด

11/04/2025

การต่อประกันภัยรถยนต์ล่วงหน้าเป็นเรื่องที่สำคัญที่หลายๆ ท่านอาจมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยให้เราไม่ขาดความคุ้มครองแล้วยังมีผลประโยชน์อื่นๆ อีกด้วย และในเรื่องการต่อประกันภัยรถยนต์ควรต่อประกันล่วงหน้ากี่วันถึงจะดี? พร้อมกับเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้เราวางแผนได้อย่างเหมาะสม 1-3 เดือน เหมาะสม ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเพราะมีโอกาสที่ได้เลือกได้ตามใจและอาจต่อ พ.ร.บ. และภาษีได้พร้อมกันทีเดียว 7 วัน ค่อนข้างกระชั้นชิด อาจทำให้เราไม่ได้ประกันภัยรถยนต์ที่ตรงใจมากที่สุด 1 วัน เสี่ยงเกินไป ถือเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้าง “เสี่ยงเกินไป” เพราะประกันภัยรถยนต์ส่วนใหญ่จะให้คุ้มครองถึงแค่เวลา 16.30 น. ของวันหมดอายุตามเอกสารกรมธรรม์ระบุไว้

อ่านต่อ
Uto