เติมลมยางบ่อยแค่ไหนถึงดี

เติมลมยางบ่อยแค่ไหนถึงดี

12/03/2020

   หน้าร้อนแบบนี้ หลายๆ คนคงกำลังวางแผนขับรถไปท่องเที่ยวเพื่อคลายร้อน แต่ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางแบบใกล้ๆ หรือเดินทางแบบไกลๆ การตรวจเช็คยานพาหนะให้พร้อมก่อนออกเดินทาง โดยเฉพาะการตรวจเช็คลมยางรถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การขับขี่มีความปลอดภัย

 

ลมยางรถยนต์

   ลมยางรถยนต์นั้นมีประโยชน์มากมายถ้าหากใช้อย่างถูกต้อง ทั้งช่วยประหยัดน้ำมันช่วยรับน้ำหนักบรรทุกของรถคุณ อีกทั้งยังช่วยให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ดีขึ้นอีกด้วย จึงเป็นการช่วยลดอุบัติเหตุให้น้อยลงการเติมลมยางน้อยกว่าความเหมาะสมนั้น มีผลทำให้อายุยางลดลง บริเวณไหล่ยางจะสึกหรอเร็วกว่าส่วนอื่น เกิดความร้อนสูงบริเวณไหล่ยางทำให้เนื้อยางไหม้ และโครงสร้างยางแยกตัวออกจาก กันส่งผลให้ยางบวมล่อนและระเบิด นอกจากนั้น อาจทำให้โครงยางบริเวณแก้มยางฉีกขาด หรือหักได้ รวมไปถึงการสิ้นเปลืองน้ำมัน อีกด้วย

   ส่วนการเติมลมยางที่มากเกินไปนั้น ก็ไม่เป็นผลดีเช่นกัน เพราะอาจทำให้เกิดการลื่นไถลได้ง่ายเนื่องจากพื้นที่การยึดเกาะถนนลดลง โครงยางระเบิดได้ง่ายเมื่อได้รับแรงกระแทก หรือถูกตำเนื่องจากโครงยางเบ่งตัวเต็มที่เกิดการยืดหยุ่นตัวได้น้อยอายุยางก็จะลดน้อยลง เนื่องจากดอกยางจะสึกบริเวณ ตอนกลางมากกว่าส่วนอื่นและทำให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ลดลง ดังนั้น เราจึงควรหันมาใส่ใจ และให้ความสำคัญกับลมยางให้มากขึ้น

   โดยปกติลมยางจะลดลง ด้วยตัวเองประมาณ 2-3 ปอนด์ ต่อตารางนิ้วต่อเดือน (ตัวอย่าง เช่น ตอนเติมอยู่ที่ 32 ปอนด์ ก็อาจจะลดลงมาเหลือประมาณ 29-30 ปอนด์) เพราะฉะนั้นผู้ขับขี่รถยนต์ควรเช็ค และเติมลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง และต้องเช็คทุกครั้งก่อนเดินทางไกล แนะนำให้เช็คขณะที่ยางยังเย็นอยู่นะครับ (หรือวิ่งมาไม่เกิน 2 กิโลเมตร) เพราะจะได้ค่าความดันลมยางที่คงที

 

การสังเกต

   หมั่นสังเกตว่าจุ๊บเติมลม หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ยังอยู่ในสภาพดีไม่มีสนิม หรือสิ่งสกปรก ควรทำการเปลี่ยนจุ๊บเติมลมใหม่ทุกครั้ง หากมีการเปลี่ยนยาง และการที่แรงดันลมยางอ่อนเกินไป หรือบรรทุกน้ำหนักที่มากเกินไป จะส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มอุณหภูมิของยาง ซึ่งนับเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ยางเกิดข้อผิดพลาดต่างๆ จนอาจมีผลทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือบาดเจ็บสาหัส จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

   ทั้งนี้ การตรวจเช็คลมยางให้มีความเหมาะสมและสมบูรณ์ก่อนออกเดินทาง นอกจากจะช่วยให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้เกิดความนุ่มนวลในการขับขี่ และช่วยยืดอายุการใช้งานของยางให้ยาวนานขึ้นได้ด้วย

   ในปัจจุบันได้มีการนำก๊าซไนโตรเจนมาใช้เติมยางรถยนต์แทนอากาศที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ด้วยคุณสมบัติของก๊าซไนโตรเจนที่เป็นก๊าซที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่กว่า และมีความว่องไวในการเกิดปฏิกิริยาน้อยกว่าก๊าซออกซิเจน เมื่อใช้เติมเข้าไปในยางรถยนต์แทนอากาศปกติ จะมีข้อดีดังนี้

  • การซึมออกของลมยางลดลง จึงไม่ต้องเติมลมยางบ่อยๆ
  • ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของโครงยางและกระทะล้อ
  • คงความนุ่มนวลของยางแม้วิ่งระยะทางไกล เนื่องจากการขยายตัวของก๊าซไนโตรเจนมีต่ำ

 

    อย่างไรก็ตาม แม้การเติมลมยางด้วยก๊าซไนโตรเจนจะช่วยให้ไม่ต้องเติมลมยางบ่อยๆ แต่ขอแนะนำให้ตรวจเช็คลมยางอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจในระหว่างการใช้งาน


NEW HONDA CITY TURBO

เริ่มต้น 629,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 6,900 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

ยางอึดขึ้นและคุ้มค่ากับการลงทุนจริงหรือไม่? เมื่อเติมลมยางไนโตรเจน

ยางอึดขึ้นและคุ้มค่ากับการลงทุนจริงหรือไม่? เมื่อเติมลมยางไนโตรเจน

20/12/2024

เติมลมไนโตรเจน เป็นการเติมก๊าซไนโตรเจนที่มีความบริสุทธิ์สูงเกือบ 100% เข้าไปในยางรถยนต์แทนที่ลมธรรมดาทั่วไป ซึ่งการเติมลมไนโตรเจนได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีข้อดีหลายๆ อย่าง และยังส่งผลต่อประสิทธิภาพรวมไปถึงอายุการใช้งานของยางรถยนต์อีกด้วยนะครับ ควรตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำ ไม่ว่าจะเติมลมยางด้วยชนิดใดก็ตามก็ควรมีการตรวจสอบแรงดันลมยางนะครับ และหากเป็นเราที่เติมลมยางเองควรเลือกปั๊มลมทีได้มาตรฐานและมีเกจวัดแรงดันลมที่แม่นยำ

อ่านต่อ
ภัยร้ายจากการจอดรถผิดที่ จอดรถแบบไหนถึงจะไม่สร้างปัญหาให้ใคร?

ภัยร้ายจากการจอดรถผิดที่ จอดรถแบบไหนถึงจะไม่สร้างปัญหาให้ใคร?

13/12/2024

การจอดรถเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน แต่หลายๆ ครั้งพฤติกรรมการจอดรถที่ไม่เหมาะสมมักจะสร้างปัญหาให้กับผู้อื่นและสังคมได้ ซึ่งการจอดรถให้ถูกที่ถูกทางไม่ใช่เพียงแค่แสดงถึงความมีมารยาทที่ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยลดปัญหาการจราจรและอุบัติเหตุได้อีกด้วยนะครับ

อ่านต่อ
เรื่องไฟเลี้ยวอย่าประมาท? สัญญาณเล็กๆ ที่ช่วยชีวิตได้

เรื่องไฟเลี้ยวอย่าประมาท? สัญญาณเล็กๆ ที่ช่วยชีวิตได้

09/12/2024

สัญญาณไฟเลี้ยวรถยนต์เป็นเรื่องที่ทุกท่านต้องเข้าใจเพราะเป็นการสื่อสารที่สำคัญในการใช้รถใช้ถนน ช่วยให้ผู้ขับขี่ท่านอื่นๆ ได้รับทราบถึงเจตนาในการขับขี่ของเราไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาหรือเปลี่ยนเลน ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและทำให้การจราจรเป็นไปอย่างราบรื่นนั่นเองครับ ซึ่งการเปิดไฟเลี้ยวจะต้องเปิดล่วงหน้าเพื่อให้ผู้ขับขี่ท่านอื่นได้มีเวลาเตรียมตัวและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการขับขี่ ทำให้ลดโอกาสเกิดการชนกันได้

อ่านต่อ
Uto