ร่องยางและดอกยาง ลดการเหินน้ำเพิ่มการเกาะถนน

ร่องยางและดอกยาง ลดการเหินน้ำเพิ่มการเกาะถนน

12/03/2020

   การขับรถบนถนนที่แห้งในฤดูร้อน ผู้ขับขี่อาจไม่ต้องคิดอะไรมากเกี่ยวกับสภาพของยางรถยนต์ แต่หากเกิดพายุ ฝนฟ้าคะนอง หรือในฤดูร้อนที่ยาวนาวและฝนเพิ่งตกมาครั้งแรก ฝนที่ตกลงมาจะผสมกับคราบน้ำมัน และฝุ่นละอองที่ตกค้างอยู่บนถนน ทำให้รถลื่น และเกิด Aquaplaning หรือ Hydroplaning ที่เรียกกันว่า “อาการเหินน้ำ”

 

ช่วงเวลา

   ช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงจะเกิดอาการรถเหินน้ำ คือ 10 นาทีแรกหลังฝนตก น้ำจะผสมกับคราบน้ำมัน และฝุ่น เกิดเป็นชั้นน้ำระหว่างพื้นถนนกับยางรถยนต์ ซึ่งทำให้ยางรถยนต์ไม่สามารถยึดเกาะพื้นถนน เป็นสาเหตุทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถควบคุมบังคับรถ หรือแม่กระทั่งเบรกได้ ทำให้รถหมุน หรือไม่ก็ลื่นไถลไปตามถนน ก่อให้เปิดอุบัติเหตุตามมาได้

 

สาเหตุ

   สาเหตุของปัญหานี้ เกิดจากยางไม่สามารถรีดน้ำออกจากถนนได้ คือการที่ล้อรถไม่สามารถกำจัดน้ำออกจากทางได้รวดเร็วพอ เพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นถนน ซึ่งยางที่มีคุณภาพดีจะสามารถกำจัดน้ำได้ประมาณ 1 ถัง ออกจากพื้นถนนได้ทุกๆ 7 วินาที ผู้ขับขี่จะรับรู้ได้ทันทีเมื่อเกิดการเหินน้ำ ทิศทางของรถจะผิดปกติ เครื่องยนต์จะส่งเสียงดังขึ้น พวงมาลัยจะเบาขึ้น และช่วงท้ายของรถจะปัด ส่วนใหญ่ผู้ใช้รถจะตื่นตระหนกกับเหตุการณ์นี้ และสัญชาตญาณจะสั่งให้เหยียบเบรก แต่การเหยียบเบรกนั้นจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีกนะครับ

 

วิธีแก้

   วิธีแก้ไขคือต้องค่อยๆ ถอนคันเร่ง และประคองพวงมาลัยจนกว่าล้อรถจะจับพื้นถนนได้อีกครั้ง ซึ่งเมื่อเกิดเหตุแล้วก็ยากที่จะแก้ไขสถานการณ์ แม้ว่าคุณจะมีฝีมือในการขับรถเก่งขนาดไหนก็ตาม ทางที่ดีที่สุดคือ การป้องกันก่อนที่จะเกิดเหตุ

 

1. ขับอย่างระมัดระวัง

   ควรขับรถช้าลงอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะช่วงที่ฝนเริ่มตกใหม่ๆ ยิ่งมีน้ำบนพื้นถนนมากเท่าไร ก็ต้องยิงขับช้าลงเท่านั้น เพราะถ้าเราขับรถเร็วบนพื้นที่มีน้ำมาก จะยิ่งทำให้ยางรถยนต์ไม่สามารถรีดน้ำออกจากดอกยางได้ทัน

 

2. หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำ

   หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำขัง จะต้องคอยสังเกตมองทางข้างหน้าว่ามีแอ่งน้ำขังหรือไม่ ถ้าเห็นแอ่งน้ำขังสิ่งที่ควรปฏิบัติคือการลดความเร็วลง

 

3. ลมยาง

   เติมลมยางให้เหมาะสม ลมยางรถยนต์ทุกคันจะลดน้อยลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นควรตรวจเช็คลมยางด้วยสายตา โดยการมองดูยางรถทุกเช้าก่อนออกจากบ้าน วัดและเติมลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง ปกติเวลารถวิ่งด้วยความเร็ว ความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำให้มีแรงดันลมยางที่เพิ่มขึ้น แต่เมื่อฝนตกอุณหภูมิของยางจะลดลง แรงดันลมยางก็จะลดลงน้อยกว่าการขับรถในทางธรรมดา ถ้ายางอ่อนจะมีประสิทธิภาพในการรีดน้ำน้อยกว่าปกติ และเหินน้ำได้ง่ายกว่ายางรถที่มีแรงดันลมยางปกติ

 

4. การเบรก

   ใช้เบรกอย่างระมัดระวัง ถ้าเห็นแอ่งน้ำควรรีบเหยียบเบรกเพื่อลดความเร็ว แต่ไม่ควรเหยียบเบรกแรงๆ ขณะที่กำลังผ่านแอ่งน้ำนะครับ ในกรณีที่รถยนต์ที่มีมีเบรก ABS ผู้ขับขี่ควรเบรกอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นล้อรถอาจล็อคได้ และทำให้รถเสียการควบคุมได้นะ ต้องค่อยๆ กดเบรก เมื่อต้องการลดความเร็ว หากรู้สึกว่าล้อจะล็อคก็ปล่อยเบรก แล้วค่อยกดเบรกใหม่

 

5. ตั้งสติ

   ตั้งสติ ไม่ตกใจ หากเกิดอาการเหินน้ำขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งแรกที่ควรทำคือ ลดความเร็วลง อย่าเหยียบคันเร่ง หรือเบรกกะทันหัน เพราะจะยิ่งทำให้รถเสียการควบคุม และพยายามควบคุมพวงมาลัยและประคองรถไว้ จนกว่าอาการเหินน้ำจะหายไป

 

6. ยางรถยนต์

   ตรวจสอบยางรถยนต์ ถ้ายางรถยนต์ดอกยางตื้นมาก หรือเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ เพื่อประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนและรีดน้ำ และเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ในฤดูฝน เมื่อมีดอกยางน้อยกว่า 4 มม. คุณสมบัติการยึดเกาะถนนเปียก และสมรรถะของยางจะแย่ลง ความเสี่ยงของการเกิด Aquaplaning จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น ระยะเบรกจะนานขึ้น และรถจะลื่นไถลได้ง่ายขึ้น

 

ดอกยาง และ ร่องยาง

   เป็นส่วนหนึ่งของหน้ายางที่สัมผัสกับพื้นถนน มีหน้าที่หลักในการยึดเกาะถนน ส่วนร่องยาง จะอยู่ระหว่างดอกยางนั้น ไม่ได้สัมผัสกับพื้นถนน จึงไม่ได้ทำหน้าที่ในการยึดเกาะถนน แต่ทำหน้าที่รีดน้ำออกจากหน้ายาง เพื่อลดการเหินน้ำ และช่วยให้ดอกยางสัมผัสกับพื้นถนนได้ดีเมื่อต้องขับขี่บนถนนเปียก

   ดังนั้น ยางที่ไม่มีทั้งดอกยางและร่องยาง จะเกาะถนนได้ดีเฉพาะบนถนนที่เรียบและแห้งเท่านั้น แต่ถ้าเป็นสภาพถนนเปียกจะลื่นมากนะครับ เพราะหน้ายางที่ไม่มีดอกยาง และร่องยางจะไม่สามารถรีดน้ำออกจากหน้ายางได้อย่างรวดเร็ว น้ำจะกลายเป็นชั้นฟิล์มคั่นอยู่ระหว่างยางกับผิวถนน ทำให้เกิดการเหินน้ำได้ เนื่องจากหน้ายางสัมผัสพื้นไม่เต็มที่ หรือไม่สัมผัสพื้นเลย ทำให้เกิดการลื่นไถลได้ครับ

 

   สำหรับท่านใดต้องการเปลี่ยนยางรถยนต์ สามารถนัดหมายได้ทุกช่องทางของ ยูไนเต็ด ฮอนด้า ได้เลยนะครับ

บทความอื่นๆ

ประกันรถ = เคลมได้ทุกอย่าง? 5 ความเข้าใจผิดยอดฮิต ที่อาจทำให้คุณเสียเงินโดยไม่รู้ตัว

ประกันรถ = เคลมได้ทุกอย่าง? 5 ความเข้าใจผิดยอดฮิต ที่อาจทำให้คุณเสียเงินโดยไม่รู้ตัว

13/08/2025

เวลาซื้อประกันรถ หลายคนมักคิดว่า “มีประกันแล้ว เคลมได้ทุกอย่าง” แต่ความจริงแล้วเงื่อนไขของประกันไม่ได้ครอบคลุมทุกเหตุการณ์นะครับ มีเจ้าของรถจำนวนที่ไม่น้อยเลยที่ต้องควักเงินเองเพราะไม่เข้าเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ มีบางเคสที่คิดว่าจะเคลมได้ แต่สุดท้ายถูกปฏิเสธหรือได้ค่าซ่อมไม่เต็มจำนวน สำหรับในบทความนี้จะพามารู้จัก 5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์พร้อมกับเหตุการณ์ตัวอย่างที่มักพบกันได้บ่อยๆ

อ่านต่อ
รู้ทันมิจฉาชีพประกันภัย 5 เทคนิคเช็กข้อมูลก่อนโอน ป้องกันเสียเงินฟรี

รู้ทันมิจฉาชีพประกันภัย 5 เทคนิคเช็กข้อมูลก่อนโอน ป้องกันเสียเงินฟรี

08/08/2025

ในยุคที่การซื้อประกันทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว มิจฉาชีพก็ใช้โอกาสนี้ปลอมตัวเป็นตัวแทนประกัน เสนอโปรโมชั่นราคาถูกเกินจริง และหลอกให้โอนเงินก่อนจะหายไป เหยื่อหลายคนเสียทั้งเงินและสิทธิความคุ้มครอง โดยไม่รู้ตัว

อ่านต่อ
ระวัง! เคลมเท็จประกันไม่จ่าย เสี่ยงหมดสิทธิ์คุ้มครองรถ อย่าคิดว่าบริษัทประกันไม่รู้

ระวัง! เคลมเท็จประกันไม่จ่าย เสี่ยงหมดสิทธิ์คุ้มครองรถ อย่าคิดว่าบริษัทประกันไม่รู้

02/08/2025

อย่าคิดว่า 'แกล้งลืม' จะไม่เป็นไร... เพราะการเคลมเท็จ อาจทำให้คุณ หมดสิทธิ์ได้รับความคุ้มครอง จากบริษัทประกันทันที! “รถเฉี่ยวแค่นิดเดียว เดี๋ยวค่อยแจ้งทีเดียวตอนชนครั้งหน้า หรือ รถชนเองนิดหน่อย เดี๋ยวแต่งเรื่องให้เป็นฝั่งตรงข้ามผิด จะได้ไม่ต้องเสียค่าซ่อมเอง” เคลมเท็จไม่ใช่เรื่องเล็ก เสี่ยงทั้งไม่ได้เงินและโดนดำเนินคดี อย่าคิดว่า “บริษัทประกันไม่รู้” เพราะทุกข้อมูลสามารถตรวจสอบได้ การเคลมอย่างโปร่งใส คือการดูแลตัวคุณเองในระยะยาว และหากอยากเริ่มต้นใหม่อย่างมั่นใจ เลือกรถยนต์ฮอนด้าจาก ยูไนเต็ด ฮอนด้า วันนี้ พร้อมดูแลคุณทุกขั้นตอน

อ่านต่อ
Uto