ยางระเบิดนั้นไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่ดูแลเอาใจใส่ยางรถยนต์มาแค่ไหน เพรานอกจากเครื่องยนต์แล้วยังมียางรถยนต์ด้วยนะครับที่สำคัญ และถ้าผู้ขับขี่ดูแลไม่ดีพอหรือขาดการดูแลยางรถยนต์ก็อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นก็ได้ นอกจากเราเจ็บตัวแล้วผู้อื่นก็เกิดความเสียหายจากรถยนต์ของเราด้วยเช่นกัน
อาการเตือน
อาการเตือนก่อนที่ยางจะระเบิด ในขณะที่ขับรถอยู่ถ้ารู้สึกว่าพวงมาลัยเริ่มสั่นสะเทือนผิดปกติและบังคับรถได้ยากโดยเฉพาะในขณะเลี้ยว ทั้งๆ ที่ไม่มีปัญหาเรื่องถ่วงล้อและศูนย์ล้อหน้าปกติ ลูกหมากไม่หลวม และขณะขับมาระยะแรกๆ พวงมาลัยไม่สั่น อาการนี้เป็นสิ่งบอกเหตุว่ายางรถยนต์เริ่มบวมพร้อมที่จะระเบิดแล้ว
แต่หากไม่ได้เฉลียวใจยังคงขับต่อไปก็มีข้อสังเกตเมื่อยางระเบิด คือ ไม่ว่ายางด้านใดจะระเบิด ล้อหน้าหรือล้อหลังก็ตาม เมื่อระเบิดด้านซ้ายรถจะแฉลบไปด้านซ้าย แล้วจะสะบัดกลับและสะบัดไปด้านซ้ายอีกสลับกันไป และในทำนองตรงกันข้าม หากระเบิดด้านขวาอาการจะกลับเป็นตรงกันข้าม อุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดจากกรณีนี้จะสร้างความเสียหายที่รุนแรง ส่วนมากเป็นเพราะขณะยางระเบิดรถวิ่งอยู่ที่ความเร็วสูง พอยางระเบิดขึ้นมารถก็จะกลิ้งทันที ผู้ขับจึงไม่มีเวลาและโอกาสที่จะทำอะไรได้เลย ดังนั้นการขับรถที่ใช้ความเร็วสูงๆ จึงมักจะแก้ไขอะไรในเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงที่จะเกิดขึ้น จึงไม่ควรขับรถเร็วเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการยางระเบิดนั้น มีอะไรบ้างมาดูกันครับ
ยางร้อนจัด

อาการของยางรถยนต์ที่ร้อนจัดนั้นเนื่องมาจากเบรกติดที่ล้อใดล้อหนึ่ง กรณีนี้อาจทำให้เกิดไฟไหม้รถได้เลยนะครับ สาเหตุที่เกิดคือการเลือกใช้ยางรถยนต์ที่ไม่ถูกขนาด หรือไม่ถูกประเภท เช่น เอายางรถเก๋งไปใส่รถปิกอัพ เป็นต้น หรือแก้มยางเสียดสีกับขอบถนน
ลมยางอ่อน

การสูบลมยางที่ไม่ถูกต้องทำให้ยางรถยนต์นั้นอ่อนจนเกินไป นอกจากจะทำให้เปลืองน้ำมันแล้วเมื่อรถวิ่งเป็นเวลานานๆ อาจเกิดความร้อนได้ ซึ่งความร้อนที่เกิดนั้นร้อนเกินจนบริเวณแก้มยางฉีกขาดได้ ทำให้เกิดอุบัติตามมาได้นะครับ
บรรทุกน้ำหนักเกิน

การบรรทุกของที่มีน้ำหนักเกินค่าที่กำหนดไว้นั้น จะทำให้ยางรับไม่ไหว อาจส่งผลให้ยางระเบิดได้เช่นกันนะครับ
ใช้ความเร็วเกิดพิกัด

ยิ่งขับรถเร็วมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ความร้อนของยางสูงขึ้นตามมากเท่านั้น และเมื่อเกิดยางระเบิดขึ้นโดยมีความเร็วที่สูง ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะเสียหลักในการควบคุมรถได้เลยนะ อันนี้อันตรายมากๆ ครับ
ยางหมดอายุ

ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานด้วยนะครับ ต้องควรสังเกตและระวังครับ เช่น แก้มยางมีรอยแตกลายงา บวม ฉีกขาด ดอกยางหมดสภาพ เป็นต้น
เมื่อเกิดยางระเบิดขึ้นในขณะที่กำลังขับรถอยู่ไม่ว่าเป็นยางล้อหน้า หรือล้อหลังก็ตาม สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือ ตั้งสติ และควบคุมสติให้ดี มือทั้งสองข้างต้องจับพวงมาลัยให้แน่น ค่อยๆ ถอนคันเร่งออก และพยายามประคองพวงมาลัยให้รถอยู่บนเส้นทาง จากนั้นมองกระจกหลัง และกระจกมองข้างว่ามีรถมากน้อยแค่ไหน แตะเบรกอย่างเบาๆ และแตะเบรกให้ถี่ที่สุด
แต่สิ่งที่ห้ามทำในขณะที่เกิดยางระเบิดอยู่นั่น คือ ห้ามกระทืบเบรกแรงๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้รถของคุณหมุนได้ ห้ามเหยียบคลัตช์ เพราะถ้าเหยียบคลัตช์รถจะไม่เกาะถนน และทำให้รถเกิดการลอยตัว และบังคับรถยากอีกต่างหาก และห้ามดึงเบรกมือด้วยนะครับ
สิ่งที่ควรทำก็คือการชะลอความเร็วและจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย ลงจากรถแล้วรีบตรวจสภาพยางทันที ซึ่งโดยส่วนมากจะพบว่ายางร้อนจัดและบวมเนื่องจากยางรถยนต์เสื่อมสภาพนั้นเอง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าผู้ขับขี่หมั่นตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์เป็นประจำทุกครั้งก่อนเดินทาง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางนะครับ