ใช้รถต้องระวัง! หากพบว่ายางรถยนต์เป็นแบบนี้ต้องเปลี่ยนด่วน

ใช้รถต้องระวัง! หากพบว่ายางรถยนต์เป็นแบบนี้ต้องเปลี่ยนด่วน

29/07/2022

   ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับขี่บนท้องถนน ซึ่งสำหรับยางรถยนต์จะต้องดูแลเอาใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะอุปกรณ์ภายในรถยนต์อย่างพวกแอร์หรือหน้าจอเสียเราก็ยังคงขับรถต่อไปได้ แต่ถ้ายางรถยนต์มีปัญหาอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้นั่นเองครับ

   และสำหรับการตรวจสภาพยางรถยนต์ของเราว่ายังมีสภาพที่ยังใช้งานได้ปกติหรือไม่นั้นก็ง่ายๆ เลยครับ สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลย จะมีวิธีสังเกตอย่างไรบ้าง

 

พฤติกรรมที่ทำให้รถพังโดยไม่รู้ตัว คลิก

 

ความลึกของดอกยาง

   การตรวจสอบความลึกของดอกยางว่าถึงระดับที่ควรเปลี่ยนหรือยัง ซึ่งความลึกของร่องยางสามารถแบ่งได้ตามนี้เลยครับ

  • 6-8 มม. หรือมากกว่า 8 มม. นั้น เป็นความลึกของร่องยางที่เหมาะสม ปลอดภัยแน่นอนครับ
  • 4-5 มม. เป็นลักษณะที่ดอกยางหมดไปแล้วประมาณ 50% ซึ่งยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่แนะนำให้คอยหมั่นตรวจเช็คเป็นประจำด้วยนะครับ
  • 3 มม. เป็นความลึกของดอกยางที่สมควรเปลี่ยนนั่นเองครับ และจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากในการขับขี่บนถนนที่เปียก (ซึ่งจะขึ้นอยู่กับยางแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นด้วยครับ)
  • 1.6 มม. สภาพความลึกที่เหลือเพียงเท่านี้คือดอกยางหมดเกือบ 100% แล้วนั่นเอง ไม่ควรใช้งานต่อครับก็เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเมื่อขับขี่บนถนนที่เปียกหรือเจอแอ่งน้ำขังครับ

 

ยางบวม

   สำหรับยางที่มีลักษณะบวมเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่เป็นอันตรายอย่างมาก โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบริเวณแก้มยางซึ่งสาเหตุมาจากการขับตกหลุมอยู่บ่อยๆ หรือการเสียดสีอย่างรุนแรง รวมไปถึงอาจจะเกิดจากข้อบกพร่องเกี่ยวกับกระบวนการผลิตด้วยครับ 

 

เนื้อยางแข็งกระด้าง

   เนื้อยางแข็งกระด้างสามารถแบ่งได้ 2 กรณี

  • หมดสภาพก่อนที่ดอกยางจะหมด ซึ่งสาเหตุมาจากรถไม่ค่อยได้ใช้งาน ไม่ค่อยได้วิ่ง ใช้งานน้อย
  • ดอกยางหมดก่อนที่ยางจะแข็ง เป็นการใช้งานรถเป็นประจำ วิ่งไกลและใช้งานบ่อยครั้ง

   วิธีการสังเกตว่ายางรถยนต์ของเรานั้นจะมีอาการเนื้อยางแข็งเมื่อไรหรือดูได้อย่างไร สามารถสังเกตได้จากผิวยางล้อรถยนต์เริ่มมีการแตกลายงา ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จะเริ่มแตกลุกลามไปเรื่อยๆ แต่ถ้าสงสัยว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ บอกได้เลยครับว่ายังสามารถใช้งานได้ตามปกติเพียงแต่ประสิทธิภาพของยางจะขาดความนิ่มและความยืดหยุด จะทำให้มีความรู้สึกถึงความแข็งกระด้างของยาง ยึดเกาะถนนน้อยลง เสียงยางขณะขับขี่บนถนนจะดังมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเองครับ

 

บริเวณไหล่ยางมีความสึก

   เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไหล่ยางสึกไปด้านใดด้านหนึ่งหรือดอกยางสึกไม่เสมอเท่ากันทั้งเส้น ให้เช็คที่ระบบช่วงล่าง การตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ แต่ถ้าหากพบว่าไหล่ยางทั้งด้านในและด้านนอนสึกมากกว่าหน้ายาง ให้ตรวจสอบในเรื่องความดันลมยาง โดยสาเหตุอาจเกิดจากความดันลมยางที่ต่ำเกินกำหนด การขับขี่รถที่มีความดันลมยางต่ำจะทำให้รถกินน้ำมันและมีความเสี่ยงสูงมากที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้นะครับ

   และเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนควรทำการเปลี่ยนตามระยะเวลาที่ระยะกิโลเมตรที่ได้กำหนดไว้ หรือถ้าหากยังไม่ถึงกำหนดเปลี่ยนแต่ถ้ายางรถยนต์ของเรามีอาการผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการใช้งานหรือสภาพถนนที่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล สาเหตุเหล่านี้ทำให้มีผลต่อการใช้งานของยางรถยนต์ทั้งสิ้น

 

   ยูไนเต็ด ฮอนด้า ได้นำขั้นตอนการเปลี่ยนยางอะไหล่ง่ายๆ เพียง 5 ขั้นตอนเท่านั้น ที่ทุกท่านสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ในกรณีฉุกเฉิน จะมีอุปกรณ์และขั้นตอนอะไรบ้างไปชมกันเลยค้าบบ

 

   หากต้องการนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการที่ ยูไนเต็ด ฮอนด้า Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ


NEW HONDA CITY e:HEV

เริ่มต้น 729,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 7,400 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

วิธีใช้ประกันรถยนต์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุครั้งแรก ต้องโทรหาใครก่อน?

วิธีใช้ประกันรถยนต์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุครั้งแรก ต้องโทรหาใครก่อน?

24/09/2025

ผู้ขับขี่หลายคน โดยเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งมีรถคันแรก อาจเกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุครั้งแรก เราควรโทรหาใครก่อน? รวมถึงขั้นตอนการใช้ประกันรถยนต์ต้องทำอย่างไร บทความนี้จะมาแนะนำทีละขั้นตอน เพื่อให้คุณรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ

อ่านต่อ
5 สิ่งสำคัญที่ทำให้ขายรถยนต์ได้ราคาดี

5 สิ่งสำคัญที่ทำให้ขายรถยนต์ได้ราคาดี

18/09/2025

บทความนี้จะพาคุณไปดู 5 สิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณ ขายรถยนต์ได้ราคาดี พร้อมคำแนะนำที่ทำได้จริง ไม่ว่ารถของคุณจะใหม่หรือใช้มาหลายปีแล้วก็ตาม

อ่านต่อ
ไขความจริง! กล้องติดรถยนต์ช่วยยืนยันเหตุการณ์และลดเบี้ยประกันได้อย่างไร

ไขความจริง! กล้องติดรถยนต์ช่วยยืนยันเหตุการณ์และลดเบี้ยประกันได้อย่างไร

17/09/2025

หากพูดถึงการขับรถในยุคปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่หลายคนเห็นตรงกันก็คือ “ความเสี่ยงบนท้องถนนมีมากขึ้น” ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ การเฉี่ยวชนเล็กน้อย หรือแม้แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การมีกล้องติดรถยนต์ (Dash Cam) จึงไม่ใช่เพียงอุปกรณ์เสริมอีกต่อไป แต่กลายเป็น สิ่งจำเป็น สำหรับผู้ขับขี่ทุกคน หลายคนอาจคิดว่าการขับรถระมัดระวังที่สุดก็คือคำตอบ แต่ในความจริงแล้ว แม้เราจะขับอย่างปลอดภัยแค่ไหน หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นโดยไม่มีหลักฐาน อาจทำให้เราเสียเปรียบได้ง่าย ๆ ดังนั้นการติดตั้งกล้องติดรถยนต์จึงเปรียบเสมือน เกราะป้องกันตัวเอง ทั้งในเรื่องกฎหมาย การเคลมประกัน และความอุ่นใจในการเดินทาง

อ่านต่อ
Uto