ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับขี่บนท้องถนน ซึ่งสำหรับยางรถยนต์จะต้องดูแลเอาใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะอุปกรณ์ภายในรถยนต์อย่างพวกแอร์หรือหน้าจอเสียเราก็ยังคงขับรถต่อไปได้ แต่ถ้ายางรถยนต์มีปัญหาอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้นั่นเองครับ
และสำหรับการตรวจสภาพยางรถยนต์ของเราว่ายังมีสภาพที่ยังใช้งานได้ปกติหรือไม่นั้นก็ง่ายๆ เลยครับ สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลย จะมีวิธีสังเกตอย่างไรบ้าง
พฤติกรรมที่ทำให้รถพังโดยไม่รู้ตัว คลิก
ความลึกของดอกยาง
การตรวจสอบความลึกของดอกยางว่าถึงระดับที่ควรเปลี่ยนหรือยัง ซึ่งความลึกของร่องยางสามารถแบ่งได้ตามนี้เลยครับ
- 6-8 มม. หรือมากกว่า 8 มม. นั้น เป็นความลึกของร่องยางที่เหมาะสม ปลอดภัยแน่นอนครับ
- 4-5 มม. เป็นลักษณะที่ดอกยางหมดไปแล้วประมาณ 50% ซึ่งยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่แนะนำให้คอยหมั่นตรวจเช็คเป็นประจำด้วยนะครับ
- 3 มม. เป็นความลึกของดอกยางที่สมควรเปลี่ยนนั่นเองครับ และจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากในการขับขี่บนถนนที่เปียก (ซึ่งจะขึ้นอยู่กับยางแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นด้วยครับ)
- 1.6 มม. สภาพความลึกที่เหลือเพียงเท่านี้คือดอกยางหมดเกือบ 100% แล้วนั่นเอง ไม่ควรใช้งานต่อครับก็เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเมื่อขับขี่บนถนนที่เปียกหรือเจอแอ่งน้ำขังครับ
ยางบวม
สำหรับยางที่มีลักษณะบวมเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่เป็นอันตรายอย่างมาก โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบริเวณแก้มยางซึ่งสาเหตุมาจากการขับตกหลุมอยู่บ่อยๆ หรือการเสียดสีอย่างรุนแรง รวมไปถึงอาจจะเกิดจากข้อบกพร่องเกี่ยวกับกระบวนการผลิตด้วยครับ
เนื้อยางแข็งกระด้าง
เนื้อยางแข็งกระด้างสามารถแบ่งได้ 2 กรณี
- หมดสภาพก่อนที่ดอกยางจะหมด ซึ่งสาเหตุมาจากรถไม่ค่อยได้ใช้งาน ไม่ค่อยได้วิ่ง ใช้งานน้อย
- ดอกยางหมดก่อนที่ยางจะแข็ง เป็นการใช้งานรถเป็นประจำ วิ่งไกลและใช้งานบ่อยครั้ง
วิธีการสังเกตว่ายางรถยนต์ของเรานั้นจะมีอาการเนื้อยางแข็งเมื่อไรหรือดูได้อย่างไร สามารถสังเกตได้จากผิวยางล้อรถยนต์เริ่มมีการแตกลายงา ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จะเริ่มแตกลุกลามไปเรื่อยๆ แต่ถ้าสงสัยว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ บอกได้เลยครับว่ายังสามารถใช้งานได้ตามปกติเพียงแต่ประสิทธิภาพของยางจะขาดความนิ่มและความยืดหยุด จะทำให้มีความรู้สึกถึงความแข็งกระด้างของยาง ยึดเกาะถนนน้อยลง เสียงยางขณะขับขี่บนถนนจะดังมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเองครับ
บริเวณไหล่ยางมีความสึก
เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไหล่ยางสึกไปด้านใดด้านหนึ่งหรือดอกยางสึกไม่เสมอเท่ากันทั้งเส้น ให้เช็คที่ระบบช่วงล่าง การตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ แต่ถ้าหากพบว่าไหล่ยางทั้งด้านในและด้านนอนสึกมากกว่าหน้ายาง ให้ตรวจสอบในเรื่องความดันลมยาง โดยสาเหตุอาจเกิดจากความดันลมยางที่ต่ำเกินกำหนด การขับขี่รถที่มีความดันลมยางต่ำจะทำให้รถกินน้ำมันและมีความเสี่ยงสูงมากที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้นะครับ
และเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนควรทำการเปลี่ยนตามระยะเวลาที่ระยะกิโลเมตรที่ได้กำหนดไว้ หรือถ้าหากยังไม่ถึงกำหนดเปลี่ยนแต่ถ้ายางรถยนต์ของเรามีอาการผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการใช้งานหรือสภาพถนนที่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล สาเหตุเหล่านี้ทำให้มีผลต่อการใช้งานของยางรถยนต์ทั้งสิ้น
ยูไนเต็ด ฮอนด้า ได้นำขั้นตอนการเปลี่ยนยางอะไหล่ง่ายๆ เพียง 5 ขั้นตอนเท่านั้น ที่ทุกท่านสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ในกรณีฉุกเฉิน จะมีอุปกรณ์และขั้นตอนอะไรบ้างไปชมกันเลยค้าบบ
หากต้องการนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการที่ ยูไนเต็ด ฮอนด้า Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ