4 เทคนิค ล้างรถหน้าฝนให้รถดูเหมือนใหม่

4 เทคนิค ล้างรถหน้าฝนให้รถดูเหมือนใหม่

10/08/2021

   คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าไม่จำเป็นต้องล้างรถในหน้าฝนเพราะล้างไปเดี๋ยวฝนก็ตกอีกสุดท้ายก็กลับมาเปื้อนเหมือนเดิม ซึ่งจริงๆ แล้วการล้างรถในหน้าฝนก็เป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกันนะครับ เพราะเมื่อเราขับรถในหน้าฝนก็จะมีเม็ดฝนมาเกาะติดและเมื่อแห้งระเหยไปจะทำให้เกิดเป็นคราบน้ำที่ติดแน่นได้หากปล่อยไว้นาน และหากใช้รถในขณะที่ฝนตกซึ่งรถยนต์ของเราก็จะได้รับความชื้น หากปล่อยไว้อาจเกิดความเสี่ยงที่จะเป็นสนิมได้นั่นเองครับ

   และสำหรับวิธีการดูแลรักษารถในหน้าฝนก็คือการล้างรถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดคราบน้ำรวมถึงลดการเกิดคราบฝังแน่นที่ผิวรถ แต่ถ้าไม่สามารถล้างรถได้ก็ใช้วิธีฉีดน้ำเพื่อล้างแทนก็ได้นะครับแล้วค่อยใช้ผ้าแห้งเช็ด ซึ่งการเช็คด้วยผ้าแห้งควรเช็ดเมื่อล้างน้ำฝนออกไปแล้วนะครับเพราะไม่อย่างนั้นพวกเศษดิน ทราย เศษไม้ต่างๆ ที่ติดอยู่บนรถเมื่อใช้ผ้าแห้งเช็ดอาจทำให้เกิดรอยได้ครับ และถ้าหากรถโดนฝนมาไม่ควรจอดรถตากแดดเพราะแสงแดดจะทำให้น้ำฝนระเหยจนแห้งเป็นคราบน้ำที่ฝังแน่นได้

 

   เคล็ดลับในการล้างรถในหน้าฝนเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย

  • ล้างกระจกทุกบาน ใช้น้ำยาฉีดทำความสะอาด และใช้ผ้าเช็ดอีกครั้ง
  • ล้างถนอมสี และตัวถัง ควรใช้น้ำฉีดล้างไล่เม็ดฝุ่นละออง กรวดทรายที่ยึดเกาะติดแน่นออกก่อน จากนั้นใช้น้ำสะอาดผสมน้ำยาล้างรถ ชุบล้างตัวถังให้ทั่วด้วยฟองน้ำสะอาด จากนั้นให้ใช้ผ้าชามัวร์เช็ด
  • ล้างโคมไฟหน้า ใช้ยาขัดชนิดครีม และใช้ผ้านุ่มสะอาดเช็คอีกครั้ง
  • ล้างล้ออัลลอย และยาง ควรใช้น้ำฉีดบริเวณล้อ และยาง เพื่อล้างเม็ดฝุ่นทรายออกก่อน แล้วใช้ฟองน้ำจุ่มกับน้ำผสมน้ำยาล้างรถเช็ดให้ทั่วล้อ หากพบคราบดินโคลนติดแน่น ให้ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มนำมาถูได้ และใช้น้ำสะอาดล้างอีกครั้ง จากนั้นใช้ผ้านุ่มเช็ดคราบน้ำ สำหรับยาง หากมีคราบดินโคลนยึดเกาะติดแน่นที่แก้มยาง ก็ให้ใช้ฟองน้ำหรือแปรงขนาดใหญ่ ชุบน้ำยาล้างรถทำความสะอาด จากนั้นให้ลงแว๊กซี่เคลือบเงาที่ยาง

 

   เม็ดฝนเป็นกรดที่สามารถทำให้สีรถมีอายุการใช้งานที่สั้นลง และมีโอกาสที่จะเกิดสนิมได้ รวมถึงสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อน ซึ่งทำให้รถดูหมอง ไม่เงางาม ดังนั้น การล้างรถเป็นหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยรักษาสภาพรถให้ใหม่อยู่เสมอ

   หากสนใจรถยนต์ฮอนด้าสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ


NEW HONDA CITY TURBO

เริ่มต้น 629,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 6,900 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

จอดรถอยู่เฉยๆ แล้วโดนชน! ต้องทำอย่างไรและใครเป็นคนรับผิดชอบ? ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง

จอดรถอยู่เฉยๆ แล้วโดนชน! ต้องทำอย่างไรและใครเป็นคนรับผิดชอบ? ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง

18/04/2025

รถเราจอดอยู่เฉยๆ แต่ดันโดนชนซะงั้น! ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรอยขูด รอยบุบหรือชนจนพังเสียหาย หลายท่านอาจไม่แน่ใจหรือไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ และยิ่งถ้าเราไม่ทราบว่าใครเป็นคนชนแล้วแบบนี้ประกันสามารถช่วยอะไรเราได้บ้างหรือไม่? แต่ถ้ามีแค่ พ.ร.บ. จะไม่สามารถเคลมได้ เพราะ พ.ร.บ. จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อชีวิตและร่างกาย จะไม่ครอบคลุมการซ่อมรถ ฉะนั้นควรทำประกันภาคสมัครใจด้วยนะครับ เพื่อจะได้คุ้มครองในกรณีที่จอดรถไว้แล้วโดนชน

อ่านต่อ
รถสตาร์ทไม่ติด เกิดจากอะไร? รวมสาเหตุ พร้อมวิธีแก้ไขด้วยตัวเองแบบละเอียด

รถสตาร์ทไม่ติด เกิดจากอะไร? รวมสาเหตุ พร้อมวิธีแก้ไขด้วยตัวเองแบบละเอียด

17/04/2025

รถเจ้ากรรม! ตื่นเช้ามากำลังรีบไปทำงานแต่เจ้ากรรมดันสตาร์ทไม่ติด เชื่อเลยครับว่าหลายๆ ท่านต้องเคยเจอสถานการณ์แบบนี้แน่ๆ แล้วเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเลยทีเดียวเพราะอาการเหล่านี้ทำให้เราไปทำงานสายนั่นเอง ซึ่งจริงๆ แล้วสาเหตุหรือปัญหาที่รถสตาร์ทไม่ติดมีหลายสาเหตุ และหลายอย่างที่เราสามารถตรวจเช็กหรือแก้ไขได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องโทรหาช่างเสมอไปครับ เราจะได้รู้เท่าทันปัญหาของการสตาร์ทรถไม่ติด และสามารถตรวจเช็กเบื้องต้นได้ด้วยตนเองได้อย่างมั่นใจเพราะในบางครั้งอาการที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงแค่อาการเล็กน้อยที่ไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องเสียเงินหรือเสียเวลานั่นเองครับ

อ่านต่อ
ไขข้อสงสัย ต่อประกันล่วงหน้ากี่วันถึงจะดี? พร้อมเคล็ดลับเลือกต่อให้คุ้มที่สุด

ไขข้อสงสัย ต่อประกันล่วงหน้ากี่วันถึงจะดี? พร้อมเคล็ดลับเลือกต่อให้คุ้มที่สุด

11/04/2025

การต่อประกันภัยรถยนต์ล่วงหน้าเป็นเรื่องที่สำคัญที่หลายๆ ท่านอาจมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยให้เราไม่ขาดความคุ้มครองแล้วยังมีผลประโยชน์อื่นๆ อีกด้วย และในเรื่องการต่อประกันภัยรถยนต์ควรต่อประกันล่วงหน้ากี่วันถึงจะดี? พร้อมกับเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้เราวางแผนได้อย่างเหมาะสม 1-3 เดือน เหมาะสม ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเพราะมีโอกาสที่ได้เลือกได้ตามใจและอาจต่อ พ.ร.บ. และภาษีได้พร้อมกันทีเดียว 7 วัน ค่อนข้างกระชั้นชิด อาจทำให้เราไม่ได้ประกันภัยรถยนต์ที่ตรงใจมากที่สุด 1 วัน เสี่ยงเกินไป ถือเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้าง “เสี่ยงเกินไป” เพราะประกันภัยรถยนต์ส่วนใหญ่จะให้คุ้มครองถึงแค่เวลา 16.30 น. ของวันหมดอายุตามเอกสารกรมธรรม์ระบุไว้

อ่านต่อ
Uto