รถโดนล็อคล้อ! ต้องทำยังไง? จ่ายค่าปรับเท่าไหร่? เช็กที่นี่!
การโดนล็อคล้อเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะนอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังต้องเสียค่าปรับอีกด้วย บทความนี้จะสรุปขั้นตอนที่ถูกต้องและข้อมูลค่าปรับเบื้องต้นมาให้คุณเตรียมพร้อมรับมือ
1.ตรวจสอบสาเหตุและข้อมูลติดต่อ
สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อพบว่ารถโดนล็อคล้อคือ:
ตรวจสอบใบสั่ง/ใบนัด: เจ้าหน้าที่จะทิ้งใบสั่ง หรือใบนัดให้ไปชำระค่าปรับพร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อของหน่วยงานที่ทำการล็อคล้อเอาไว้ที่กระจกรถ
ห้ามทำลายอุปกรณ์: ห้าม พยายามงัด, ทำลาย, หรือตัดอุปกรณ์ล็อคล้อโดยเด็ดขาด เพราะอาจมีความผิดตามกฎหมายฐานทำให้เสียทรัพย์ และมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ตามมาตรา 358 ประมวลกฎหมายอาญา)
2.ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อปลดล็อค
โทรแจ้งเจ้าหน้าที่: โทรศัพท์ไปยังเบอร์ที่ระบุในใบสั่งหรือใบนัด เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าคุณพร้อมจะไปชำระค่าปรับ
สอบถามจุดชำระค่าปรับ: สอบถามว่าจุดชำระค่าปรับอยู่ที่ใด ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นสถานีตำรวจจราจรในพื้นที่ หรือจุดบริการรับชำระค่าปรับที่กำหนด
3. การจ่ายค่าปรับและปลดล็อคล้อ
ค่าปรับเท่าไหร่?
ค่าปรับสำหรับการจอดรถในที่ห้ามจอดและโดนล็อคล้อ จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ:
ค่าปรับตามกฎหมายจราจร:
โทษปรับฐานจอดรถในที่ห้ามจอด: โดยทั่วไปตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 57 และ 59 กำหนดให้มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท แต่ในทางปฏิบัติอาจมีการกำหนดอัตราค่าปรับที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ขึ้นอยู่กับข้อหาและดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่
ค่าเคลื่อนย้ายรถ (กรณีมีการยกรถ):
หากมีการยกรถไปด้วย จะมีค่าเคลื่อนย้ายรถเพิ่มเข้ามา ซึ่งอัตราค่าปรับจะแตกต่างกันไป แต่โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 500 - 1,000 บาท (แต่ถ้าเพียงแค่ล็อคล้อ มักจะไม่มีค่าส่วนนี้)
ข้อแนะนำ: ให้สอบถามค่าปรับที่ต้องชำระทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อความถูกต้องที่สุด
ขั้นตอนการชำระ:
นำเอกสารที่ได้รับ (ใบนัด/ใบสั่ง) และหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของรถ/ผู้ครอบครองรถ ไปยังจุดชำระค่าปรับ
ชำระเงินค่าปรับทั้งหมดที่เคาน์เตอร์
รับใบเสร็จรับเงิน และแจ้งหมายเลขทะเบียนรถให้เจ้าหน้าที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่จราจรมาทำการปลดล็อคล้อให้
4. สรุปสิ่งที่คุณจะได้รับและขั้นตอนสุดท้าย
เมื่อชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้ว:
คุณจะได้รับ ใบเสร็จรับเงิน เป็นหลักฐาน
เจ้าหน้าที่จราจรจะเดินทางมาถึงจุดที่รถคุณจอดอยู่และดำเนินการ ปลดล็อคล้อ ให้
คุณสามารถขับรถออกไปได้ตามปกติ และควรจดจำไว้เป็นบทเรียนเพื่อไม่ให้จอดรถในที่ห้ามจอดอีก
การจอดรถในที่ห้ามจอดถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและสร้างปัญหาการจราจร ดังนั้น การปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์รถโดนล็อคล้อค