ขับรถให้ปลอดภัย เริ่มจากพวงมาลัย! ปรับง่ายใน 1 นาที

ขับรถให้ปลอดภัย เริ่มจากพวงมาลัย! ปรับง่ายใน 1 นาที

13/06/2025

   รู้หรือไม่? การปรับพวงมาลัยให้เหมาะสมกับสรีระของร่างกายของผู้ขับขี่ ไม่ใช่แค่เรื่องของความสบายแต่ยังส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยในขณะที่กำลังขับขี่อีกด้วย ไม่ว่าเราจะเพิ่งอออกรถมาใหม่หรือใช้รถคู่ใจมานานแล้วก็ตาม สำหรับเคล็ดไม่ลับของคนที่มีรถต้องรู้เกี่ยวกับการปรับพวงมาลัย ปรับง่ายหรือยากแค่ไหนมาดูกันครับ

เลี่ยงด่วน 6 พฤติกรรมเสี่ยง! ทำรถพังเร็วที่เจ้าของรถมักพลาด พร้อมวิธีแก้ง่ายๆ คลิก

 

ทำไมต้องปรับ?

   การปรับพวงมาลัยไม่ใช่เป็นเรื่องเพียงเล็กน้อยนะครับ เพราะสามารถส่งผลกระทบต่อในหลายๆ เรื่อง

  • ท่าทางการขับขี่ที่ถูกต้อง หากเราปรับพวงมาลัยให้เข้ากับสรีระร่างกายแล้วจะสามารถช่วยลดความปวดเมื่อยจากการขับรถนานๆ ได้
  • ความสามารถในการควบคุมรถ จะสามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
  • ความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นเราสามารถบังคับหรือหักหลบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ปรับอย่างไรให้พอดี!

 

ปรับเบาะ

   ก่อนที่จะปรับพวงมาลัยควรเริ่มจากการปรับเบาะของผู้ขับขี่ก่อนเสมอนะครับ โดยจะต้องปรับให้เหมาะกับสรีระของเราก่อน

  • นั่งให้หลังแนบพนักพิง
  • ลองวางขาเหยียบที่คันเร่งและเบรกได้เต็มที่ โดยที่ไม่ต้องยืดขาจนสุด
  • เข่าควรงอเล็กน้อยในขณะที่เหยียบแป้นเบรก

ไม่หวั่น! เมื่อขับ Honda CR-V e:HEV รถไฮบริด SUV ขับขี่มั่นใจทั้งถนนเปียกหรือแห้ง พร้อมความปลอดภัยและประหยัด คลิก

Honda CR-V e:HEV

ปลดล็อกพวงมาลัย

  • ลองมองที่คันโยกหรือปลดล็อกพวงมาลัยที่ด้านล่าง
  • ดึงคันโยกลงเพื่อปลดล็อกพวงมาลัย
  • เมื่อปรับเสร็จแล้วอย่าลืมล็อกกลับให้แน่น

 

ปรับระดับของพวงมาลัย

  • ระดับของพวงมาลัยจะอยู่ในระดับอก อย่าปรับสูงเกินไปจนอยู่ในระดับหน้า
  • จับที่พวงมาลัยในตำแหน่ง 9 และ 3 นาฬิกา
  • ข้อมือควรวางบนพวงมาลัยได้โดยไม่ต้องเหยียดแขนจนตึง
  • ระยะห่างระหว่างอกกับพวงมาลัยควรอยู่ที่ประมาณ 25-30 เซนติเมตร เพื่อป้องกันอันตรายจากถุงลมนิรภัย

รถชน รถเสีย น้ำท่วม ประกันให้บริการลารถฟรีหรือไม่? เจาะลึกทุกเรื่องของคนใช้รถที่ต้องรู้ คลิก

 

ทดสอบ

  • เมื่อปรับเรียบร้อยแล้วให้ลองหมุนพวงมาลัยซ้าย-ขวา
  • จะต้องไม่มีเสียงฝืดหรือติดขัด
  • การนั่งจะต้องนั่งสบายและไม่รู้สึกเกร็ง

 

ข้อควรระวัง!

  • ห้ามปรับพวงมาลัยในขณะที่กำลังขับขี่เด็ดขาด
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าล็อกพวงมาลัยแน่นแล้วก่อนที่จะออกตัว
  • หากรู้สึกว่าพวงมาลัยมีเสียงแปลกๆ หรือขยับผิดปกติ แนะนำให้นำเข้าศูนย์บริการทันที และในขณะที่ขับให้ขับขี่อย่างระมัดระวัง

 

   ตัวอย่างสถานการณ์การขับขี่ที่ยังไม่ได้มีการปรับพวงมาลัยมาก่อนหรือปรับให้เหมาะสมก่อนที่จะขับขี่ ซึ่งสถานการณ์แบบนี้อาจพบได้บ่อย และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

 

   สถานการณ์ที่ 1 : นั่งแล้วแขนตึง ต้องเหยียดแขนจนสุดแขนเพื่อหมุนพวงมาลัย

   ผู้ขับขี่รู้สึกว่าการหมุนพวงมาลัยในแต่ละครั้งจะต้องเอื้อมมือออกไปจนสุดแขน ทำให้การควบคุมไม่แม่นยำอย่างที่ควร

ผลที่ตามมา : เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น ต้องหักหลบอย่างกะทันหัน ทำให้หมุนพวงมาลัยเร็วไม่ได้เท่าที่ควร

 

   สถานการณ์ที่ 2 : พวงมาลัยบังหน้าปัด มองไม่เห็นความเร็วหรือไฟเตือน

   หากเราไม่ได้ปรับความสูงของพวงมาลัย จะทำให้พวงมาลัยบังหน้าปัดหรือไฟเตือน

ผลที่ตามมา : อาจพลาดการมองเห็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ เช่น ไฟเครื่องยนต์ ขับด้วยความเร็วเกิน

หรู เงียบ สบาย! เปิดประสบการณ์ใหม่กับ Honda Accord e:HEV ที่มี Ambient Light สร้างบรรยากาศ ต้องลอง! คลิก

Honda Accord e:HEV

   สถานการณ์ที่ 3 : นั่งใกล้พวงมาลัยเกินไป ทำให้ร่างกายเกร็ง

   ขับรถในท่าที่ต้องก้มหน้า แขนงอเกินไป หลังไม่แนบพนักพิง

ผลที่ตามมา : ปวดคอ ปวดหลังง่าย เมื่อเกิดอุบัติเหตุถุงลมนิรภัยอาจทำอันตรายต่อเราได้

 

   สถานการณ์ที่ 4 : ต้องยกไหล่หรือยืดแขนตลอดเวลา

   พวงมาลัยอยู่ต่ำเกินไป ทำให้เราต้องเกร็งไหล่ในตอนที่จับพวงมาลัย

ผลที่ตามมา : เกิดอาการเมื่อยล้าง่าย ขับรถนานๆ ทำให้ไม่รู้สึกสบายตัว และมีโอกาสควบคุมรถผิดพลาดได้

อัปเดตล่าสุด! ประกันภัยรถยนต์ ปี 2568 เปลี่ยนกฎใหม่ บังคับระบุชื่อผู้ขับขี่เริ่มใช้เมื่อไหร่? คลิก

   สถานการณ์ที่ 5 : รู้สึกควบคุมรถไม่ถนัดตอนเลี้ยวหรือจอด

   ท่าจับพวงมาลัยไม่ถูกต้อง อาจทำให้การเลี้ยวรถไม่แม่น ยิ่งโดยเฉพาะเวลาจอดรถเข้าซอง

ผลที่ตามมา : เสี่ยงเกิดการเฉี่ยวชน ใช้เวลาในการจอดรถนานกว่าปกติ

 

   อย่ามองข้ามเรื่องการปรับพวงมาลัย เพราะการปรับพวงมาลัยให้ถูกต้องไม่เพียงแค่ให้เราขับขี่ได้อย่างสบายใจขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยทั้งต่อตัวเราและเพื่อนร่วมทางอีกด้วย การปรับพวงมาลัยใช้เวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตามอย่ามองข้ามสิ่งเหล่านี้เลยครับ เพราะนี้คือการช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้นั่นเอง

ปรับกระจกมองข้างอย่างโปร! เทคนิคง่ายๆ ที่ทั้งมือใหม่แล้วมือเก่าต้องรู้ คลิก


NEW CITY HATCHBACK e:HEV

เริ่มต้น 729,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 7,400 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

17/06/2025

อีกหนึ่งระบบในความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ แต่หลายท่านมักจะมองข้ามไปหรือรอจนเกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลังเมื่อสายไปแล้ว ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเราและเพื่อนร่วมทางควรทำอย่างไรบ้างมาดูกันเลยครับ

อ่านต่อ
ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

14/06/2025

ข้อเท็จจริงที่คนมีรถต้องรู้ ก่อนที่จะตัดสินใจไม่ซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 การมีรถยนต์ส่วนตัวในยุคนี้แทบจะกลายเป็นปัจจัย 5 ของชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความสะดวกสบายของตัวเราเองทั้งในการเดินทาง ช่วยประหยัดเวลา ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่คำถามที่ตามมาสำหรับเจ้าของรถก็คือ จำเป็นต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือไม่? ยิ่งในปัจจัยนี้ที่ต้องประหยัดทุกบาททุกสตางค์ สำหรับคำตอบที่เข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งข้อดีและข้อเสีย และสิ่งที่ควรพิจราณก่อนตัดสินใจมีอะไรบ้าง แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายบังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่กฎหมายบังคับเฉพาะ พ.ร.บ. เท่านั้น แต่การตัดสินใจทำหรือไม่ทำก็ขึ้นอยู่กับบความเสี่ยงและความพร้อมในการรับผิดชอบของเจ้าของรถนั่นเองครับ

อ่านต่อ
อัปเดตล่าสุด! ประกันภัยรถยนต์ ปี 2568 เปลี่ยนกฎใหม่ บังคับระบุชื่อผู้ขับขี่เริ่มใช้เมื่อไหร่?

อัปเดตล่าสุด! ประกันภัยรถยนต์ ปี 2568 เปลี่ยนกฎใหม่ บังคับระบุชื่อผู้ขับขี่เริ่มใช้เมื่อไหร่?

09/06/2025

ในปี 2568 นี้ ประกันภัยรถยนต์ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เจ้าของมีรถทุกคนจะต้องรู้และไม่ควรมองข้าม เพราะกฎใหม่กำลังจะเปลี่ยนวิธีการทำประกันภัยให้แม่นยำ ยุติธรรม และปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการระบุของชื่อผู้ขับขี่ และส่วนลดเบี่ยประกันตามพฤติกรรมการขับขี่ ซึ่งจะมีผลใช้จริงทั้งกับรถป้ายแดงและรถยนต์ทั่วไป และก่อนจะออกรถใหม่ในปี 2568 ควรศึกษาระบบนี้ให้ละเอียดก่อน พร้อมกับวางแผนร่วมกับโบรกเกอร์หรือบริษัทประกันให้เหมาะกับพฤติกรรม และที่สำคัญอย่าลืมอัปเดตใบขับขี่ ตรวจสอบข้อมูลในระบบของกรมการขนส่งทางบก หากอยากประหยัดค่าใช้จ่ายในปีถัดไป อย่ารอให้กฎเริ่มใช้ก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนนะครับ เริ่มปรับพฤติกรรมการขับขี่ตั้งแต่วันนี้เลยครับ!

อ่านต่อ
Uto