น้ำสูงระดับไหน? ที่รถยังไหว

น้ำสูงระดับไหน? ที่รถยังไหว

12/09/2022

   การขับรถลุยน้ำไม่ว่าระดับน้ำจะสูงแค่ไหน ผู้ขับขี่ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักนะครับ หากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและเพื่อความปลอดภัยต่อตัวเราเองนะครับ แต่ถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ให้ทำการประเมินระดับน้ำก่อน เพื่อเช็คว่ารถของเรานั้นสามารถลุยน้ำได้ถึงแค่ไหนนั่นเองครับ 

 

ระดับน้ำ 5-10 เซนติเมตร

ระดับน้ำ 10-20 เซนติเมตร

ซึ่งอยู่ในระดับที่ปลอดภัยสามารถขับผ่านไปได้ เพราะน้ำระดับนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ ด้วยความสูงของน้ำจะพบเห็นได้ตามถนนทั่วไปที่เกิดจากน้ำท่วมขัง แต่ต้องระวังเรื่องการเหินน้ำหากขับมาเร็วๆระดับน้ำประมาณครึ่งฟุตยังถือว่าปลอดภัยต่อรถยนต์สามารถขับผ่านไปได้ตามปกติ แต่จะส่งผลกับรถเล็กอาจจะได้ยินเสียงน้ำกระเพื่อมอยู่ใต้ท้องรถในกรณีที่มีรถขับสวนกัน

ดีอย่างไร? หากนำรถเข้าเช็คระยะตามที่กำหนด คลิก

 

ระดับน้ำ 20-40 เซนติเมตร

ระดับน้ำ 40-60 เซนติเมตร

สำหรับรถเล็กเริ่มมีความเสี่ยงเพราะอาจจะส่งผลให้ท่อไอเสียจมน้ำได้ แต่ถ้าหากเดินทางในระยะสั้นๆ สามารถขับผ่านได้แต่ถ้าเป็นระยะทางยาว แนะนำว่าไม่ควรนะครับ และน้ำระดับนี้อาจส่งผลให้น้ำเริ่มซึมเข้ามาในพรมด้านในได้ สำหรับรถกระบะทั่วไปยังสามารถขับผ่านไปได้ตามปกติเลยครับประมาณระดับน้ำนี้ถือว่าเป็นอันตรายต่อรถเล็กได้ครับ ไม่ควรขับผ่านอย่างเด็ดขาด สำหรับรถกระบะสามารถขับผ่านไปได้เรื่อยๆ เลยนะครับ แต่แนะนำให้ปิดระบบเครื่องปรับอากาศด้วยนะ แต่ถ้าเป็นรถกระบะยกสูงสามารถขับผ่านไปได้สบายๆ เลยครับ

 

ระดับน้ำ 60-80 เซนติเมตร

ระดับน้ำสูงกว่า 80 เซนติเมตร

ระดับนี้ถือว่าเป็นระดับที่อันตรายสำหรับรถทุกประเภท และไม่ควรขับผ่านเป็นอันขาด เนื่องจากน้ำอาจไหลเข้าไปถึงเครื่องกรองอากาศได้ ส่งผลทำให้เครื่องยนต์ไม่ทำงาน หยุดชะงัก และสร้างความเสียหายต่อระบบต่างๆ แต่หากต้องการผ่านเข้าไปจริงๆ ควรใช้รถกระบะยกสูงและผู้ขับขี่จะต้องมีความชำนาญสูงนั่นเองครับเป็นระดับที่มีความเสี่ยงมากๆ ไม่ว่าจะเป็นรถประเภทใดก็ไม่ควรขับเข้าไปนะครับ เพราะทำให้รถไม่ยึดเกาะกับพื้นถนน อาจถูกระแสน้ำพัดพาได้ง่าย และยังทำให้ระบบต่างๆ ได้รับความเสียหายอีกด้วย แต่ถ้าต้องการลุยหรือผ่านเส้นทางนั้นจริงๆ ให้เลือกรถที่มีการปรับแต่งยกสูงประมาณ 2-3 นิ้ว เพื่อความปลอดภัยของรถยนต์และผู้ขับขี่ครับ

ทำอย่างไร? หากเกิดฝ้าขึ้นที่กระจกรถ คลิก

 

   การขับรถลุยน้ำส่งผลให้เครื่องยนต์ดับกลางทางเนื่องจากน้ำเข้าภายในรถได้ แต่ถ้าเส้นทางนั้นมันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ให้ประเมินระดับน้ำก่อนว่ารถของเรานั้นสามารถขับผ่านไปได้หรือไม่ และนอกจากนี้แนะนำว่าควรปิดเครื่องปรับอากาศ ใช้เกียร์ต่ำ ความเร็วต่ำ เร่งรอบเครื่องให้คงที่ รวมถึงคอยสังเกตระดับน้ำจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้ดีด้วยนะครับ แต่ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนขับรถไม่แข็งหรือไม่ชินกับเส้นทาง อย่าลงไปลุยเด็ดขาดเลยนะครับ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ เลยนะ 

ยางรถยนต์ควรเปลี่ยนเมื่อไร เช็คเลย! คลิก

บทความอื่นๆ

ประมาทร่วม! คู่กรณีชนแล้วหนีหรือไม่มีประกัน ควรทำอย่างไรและประกันจะจ่ายให้เราไหม?

ประมาทร่วม! คู่กรณีชนแล้วหนีหรือไม่มีประกัน ควรทำอย่างไรและประกันจะจ่ายให้เราไหม?

12/11/2024

การประมาทร่วม เป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากการความประมาทของทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการขับขี่ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดการประมาทร่วมมักจะมาจากความประมาทเลินเล่อไม่ว่าจะเป็นการไม่ระวัง การขาดสมาธิ ความเร่งรีบ การไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างการขับรถเร็วเกินที่กำหนด ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ขับฝ่าสัญญาณไฟแดงหรือแม้กระทั่งสภาพแวดล้อมก็สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้อย่างป้ายจราจรที่ไม่ชัดเจน รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้โทรศัพท์ในขณะที่กำลังขับขี่ ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือการขับขี่ที่เป็นเวลานาน

อ่านต่อ
ระวัง! ขับรถป้ายแดงในเวลากลางคืนโดนปรับไม่รู้ตัว ยิ่งมือใหม่ที่เพิ่งออกรถขับป้ายแดงยังไงไม่ให้ผิดกฎหมาย

ระวัง! ขับรถป้ายแดงในเวลากลางคืนโดนปรับไม่รู้ตัว ยิ่งมือใหม่ที่เพิ่งออกรถขับป้ายแดงยังไงไม่ให้ผิดกฎหมาย

11/11/2024

การขับรถป้ายแดงในเวลากลางคืนอาจมีผลต่อความปลอดภัย เนื่องจากรถป้ายแดงหมายถึงรถใหม่ที่ยังไม่ผ่านการจดทะเบียนเต็มตัว ผู้ขับขี่อาจมีความไม่คุ้นชินกับรถหรือสภาพถนนในเวลากลางคืน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การมองเห็นและความชัดเจนในการมองก็อาจลดลง ทำให้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม รถป้ายแดงจะต้องมีแสงไฟและอุปกรณ์ความปลอดภัยที่จำเป็นซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้เช่นกัน

อ่านต่อ
จุดบอด... อันตรายใกล้ตัวที่คุณอาจมองข้าม

จุดบอด... อันตรายใกล้ตัวที่คุณอาจมองข้าม

04/11/2024

จุดบอดเป็นพื้นที่ที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นยานพาหนะหรือวัตถุรอบข้างได้ ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว จุดบอดมีความอันตรายสูงโดยเฉพาะในพื้นที่การจราจรหนาแน่น เทคนิคในการลดจุดบอดมีหลายอย่าง เช่น การใช้กระจกมองข้างที่มีขนาดใหญ่ขึ้น การติดตั้งเซ็นเซอร์ช่วยเตือน รวมถึงการปรับระยะการขับขี่ให้เหมาะสมและสังเกตสภาพแวดล้อมรอบๆ อย่างสม่ำเสมอ

อ่านต่อ
Uto