สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการขับรถก็คือ “ใบขับขี่” และข้อควรรู้! ก่อนทำใบขับขี่

สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการขับรถก็คือ “ใบขับขี่” และข้อควรรู้! ก่อนทำใบขับขี่

22/11/2022

   ใบขับขี่ เป็นบัตรที่ยืนยันว่าตัวเองนั้นเป็นบุคคลที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะขับยานพาหนะดังกล่าวได้ ซึ่งใบขับขี่มีหลายประเภทและแตกต่างกันออกไปตามการใช้งาน หากไม่มีใบขับขี่หรือไม่มีการต่อใบขับขี่ (ใบขับขี่หมดอายุ) ถือว่าผิดกฎจราจร สำหรับใบขับขี่มีกี่ประเภท และแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไรนะ

   โดยปกติแล้วใบขับขี่จะถูกแยกออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ 

  • ใบขับขี่ประเภท บ. (ส่วนบุคคล) คือใบอนุญาตให้ขับขี่ขนส่งสำหรับการใช้งานแบบส่วนบุคคลรวมถึงสามารถใช้เคลื่อนย้ายหรือทำการขนส่งเพื่อการค้าได้เช่นเดียวกัน (เฉพาะธุรกิจ) แต่จะถูกจำกัดน้ำหนักการขนส่งไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม และจะต้องไม่ใช่การจ้างครับ
  • ใบขับขี่ประเภท ท. (ทุกประเภท) คือใบอนุญาตให้ขับขี่ขนส่งสำหรับการใช้งานได้ทุกประเภท สามารถใช้เคลื่อนย้ายหรือทำการขนส่งเพื่อการค้าได้โดยไม่จำกัดน้ำหนักการขนส่ง รวมถึงใช้เพื่อการรับจ้างได้นั่นเองครับ

 

เป็นใครก็อยากได้เลขทะเบียนที่ถูกใจ แล้วจะเคลมได้หรือไม่? หากเปลี่ยนเลขทะเบียนใหม่แล้วลืมแจ้งประกัน คลิก

 

   และใบขับขี่สามารถแยกย่อยประเภทตามชนิดของยานพาหนะ และรูปแบบการใช้งาน สามารถแยกได้ดังนี้

  • ใบขับขี่รถยนต์ชนิดชั่วคราว ในครั้งแรกที่ไปทำใบขับขี่ผู้ที่ขอทำใบขับขี่ไม่ว่าจะเป็นรถชนิดใดก็ตาม จะได้รับเพียงใบขับขี่แบบชั่วคราวก่อน ซึ่งจะอยู่ 3 ประเภท
  1. ใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว
  2. ใบขับขี่รถยนต์สามล้อชั่วคราว
  3. ใบขับขี่รถยนต์จักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว

   โดยใบขับขี่ประเภทนี้มีอายุการใช้งาน 2 ปี สามารถทำได้เมื่อมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปครับ

 

  • ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล หากได้ใช้งานใบขับขี่รถยนต์ประเภทชั่วคราวจนครบอายุการใช้งานแล้ว ในครั้งต่อไปที่ทำการต่ออายุใบขับขี่จะได้รับใบขับขี่รถยนต์แบบใช้งานแบบยาวๆ เลยครับก็คือ 5 ปีนั่นเอง
  • ใบขับขี่รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล สำหรับรถยนต์สามล้อหรือที่เรียกกันว่า รถตุ๊กตุ๊ก มีเงื่อนไขเช่นเดียวกับใบขับขี่รถยนต์ เมื่อคุณใช้งานใบขับขี่ประเภทชั่วคราวจนครบอายุการใช้งานแล้ว ในครั้งต่อไปที่ทำการต่ออายุจะได้รับใบขับขี่แบบใช้งานยาวๆ 5 ปีครับ

 

ทำอย่างไรดี? หากป้ายภาษีหรือป้ายวงกลมหาย และถ้าไม่ได้หายแต่ชำรุดต้องขอใหม่หรือไม่ คลิก

 

  • ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล สำหรับรถจักรยานยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ มีเงื่อนไขเช่นเดียวกันกับใบขับขี่รถยนต์ ก็คือเมื่อใช้งานใบขับขี่ชั่วคราวครบอายุการใช้งานแล้ว ในครั้งต่อไปที่ทำกรต่ออายุจะได้รับใบขับขี่แบบใช้งานได้ยาวๆ ครับ

 

  • ใบขับขี่รถระหว่างประเทศ เป็นใบขับขี่รถระหว่างประเทศหรือที่เรียกว่า ใบขับขี่สากล จะเป็นใบอนุญาตให้สามารถใช้ขับขี่ยาพาหนะนอกปะเทศไทยได้ครับ โดยผู้ที่ยื่นขอใบขับขี่สากลจำเป็นต้องมีใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลร่วมด้วยจึงจะได้รับการอนุมัตินั่นเองครับ ใบขับขี่ชนิดนี้จะมีอายุ 1 ปี สามารถใช้ได้ในประเทศที่ยอมรับใบขับขี่สากลด้วยนะครับ
  • ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ เป็นใบขับขี่สำหรับคนที่ประกอบอาชีพขับรถสาธารณะอย่างเช่น ขับแท็กซี่ บริการรถยนต์ส่วนตัว คนขับรถส่งของ เป็นต้น โดยต้องได้รับใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราวมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือมีใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลอยู่แล้ว และสามารถทำได้เมื่อมีอายุ 22 ปีขึ้นไป

 

  • ใบขับขี่รถยนต์สามล้อสาธารณะ ใบขับขี่รถสามล้อหรือที่รู้จักกันก็คือ รถตุ๊กตุ๊ก มีเงื่อนไขว่าจะต้องทำใบขับขี่แบบชั่วคราวก่อน เช่นเดียวกันกับใบขับขี่รถยนต์ และจะมีอายุการใช้งานได้ 5 ปีเช่นกันครับ
  • ใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ สำหรับท่านที่จะทำใบขับขี่ประเภทนี้จะต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ และมีใบขับขี่จักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราวมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยใบขับขี่จะมีอายุการใช้งาน 3 ปี

 

  • ใบขับขี่รถบดถนน สำหรับใบขับขี่รถบดถนนั้น ผู้ขับขี่จะต้องผ่านการอบรมหลักสูตรพิเศษต่างๆ เพื่อให้สามารถใช้งานรถบดถนนที่มีความอันตรายสูงได้อย่างปลอดภัยนั่นเองครับ โดยใบขับขี่ประเภทนี้สามารถทำได้เมื่อมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์

 

  • ใบขับขี่รถแทรกเตอร์ รถแทรกเตอร์ถึงแม้ว่าจะเป็นรถที่ใช้งานเพื่อการทำเกษตรกรรม แต่เนื่องจากเป็นรถที่จะต้องใช้ความชำนาญในการบังคับสูง จึงจำเป็นทีจะต้องสอบใบขับขี่ด้วยเช่นกันครับ โดยจะมีอายุการใช้งาน 5 ปี

เตือนแล้วนะ! ใช้ป้ายแดงปลอมมีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม คลิก

 

  • ใบขับขี่รถชนิดอื่นๆ จะเป็นใบขับขี่รถชนิดอื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่กล่าวมานั่นเองครับ ซึ่งใบขับขี่ประเภทนี้มีอายุการใช้งาน 5 ปีเช่นเดียวกันครับ

 

เรื่องจริงเกี่ยวกับใบขับขี่

 

   ใบขับขี่หายไม่ต้องแจ้งความ

   สำหรับผู้ที่ทำใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลหาย ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปแจ้งความนะครับ เพราะสามารถติดต่อที่สำนักงานกรมการขนส่งทางบกในพื้นที่ที่ท่านอาศัยอยู่ได้เลยเพื่อขอทำใบขับขี่ใบใหม่ได้เลย ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถใช้ใบขับขี่แบบดิจิทัลชั่วคราวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT QR LICENCE เพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ระหว่างรอใบขับขี่ใบใหม่ได้อีกด้วยนะครับ แต่เพื่อความปลอดภัยสามารถไปแจ้งความที่สถานทีตำรวจได้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำเอกสารไปแอบอ้างในทางที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวท่านเอง

ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนต้องรู้! พ.ร.บ. จราจรทางบกฉบับใหม่! คลิก

 

   สอบใบขับขี่ สอบใบขับขี่รถยนต์ ต้องมีบัตรประชาชนตัวจริง

   สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการขอรับใบอนุญาตขับขี่ก็คือ บัตรประชาชนตัวจริง เพื่อใช้เป็นการยืนยันกับเจ้าหน้าที่ สำหรับท่านใดที่ทำบัตรประชาชนตัวจริงหายหรือชำรุด จะต้องดำเนินการทำใหม่ที่สำนักงานเขตให้เรียบร้อยก่อนนะครับ เพราะไม่สามารถนำใบแจ้งความหรือสำเนาบัตรประชาชนมาใช้ทดแทนกันได้

 

   ไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์ไปสอบปฏิบัติ

   ในขั้นตอนการสอบใบขับขี่รถยนต์ เมื่อผ่านการอบรมรวมถึงทำข้อสอบเรียบร้อยแล้ว ผู้ขับขี่ยังจะต้องสอบปฏิบัติให้เจ้าหน้าที่เพื่อประเมินด้วย โดยผู้ขับขี่ส่วนมากจะเตรียมรถยนต์มากจากบ้านของท่านเองก็ได้ แต่ส่วนน้อยที่ไม่ทราบว่าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดมีการบริการรถเช่ารถยนต์ด้วย ท่านใดที่ไม่สะดวกนำรถยนต์มาเองก็สามารถเช่ารถได้ โดยอัตราค่าบริการขึ้นอยู่แต่ละเขตพื้นที่อาจมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันไป บางเขตอาจไม่มีค่าบริการก็ได้ครับ 

 

   ใบขับขี่ไม่สามารถทำได้ในวันเดียว

   การสอบใบขับขี่ในปัจจุบันได้มีข้อกำหนดที่เพิ่มมากขึ้น โดยจากเดิมสามารถอบรมรวมถึงการสอบ และรอรับใบขับขี่ได้เลยเพียง 1 วัน แต่ในปัจจุบันผู้ขับขี่จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน สำหรับรายละเอียดมีดังนี้

   วันที่ 1 

  • ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
  • อบรมใบอนุญาตจำนวน 5 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็นภาคเช้า-บ่าย
  • ทดสอบข้อเขียน
  • หากการทดสอบข้อใดข้อหนึ่งตามข้างต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ผู้ขับขี่จะต้องมาทดสอบใหม่ในวันรุ่งขึ้น

   วันที่ 2

  • ทดสอบขับรถยนต์
  • รับใบอนุญาต

 

   จองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์

   ปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตของเรา โดยทางกรมการขนส่งทางบกแนะนำบริการต่อใบอนุญาตขับขี่ โดยให้ผู้ขับขี่จองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เพื่อความสะดวกสบายในการรับบริการ นอกจากนี้ยังมีช่องทางอื่นๆ อย่างเช่นการจองผ่านทางเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th/ หรือตู้กดบัตรคิวอัตโนมัติ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดแต่ละพื้นที่โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ตามสะดวก นอกจากนี้หากใบขับขี่หายก็สามารถจองคิวผ่านแอปพลิเคชันได้เช่นกันนะครับ

 

   ไม่ต้องพกใบขับขี่ตัวจริง

   หมดปัญหาการลืมใบขับขี่เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เพื่อใช้งานใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ยังสามารถใช้สำเนาใบขับขี่หรือภาพถ่ายที่มีแทนได้เช่นกัน โดยจะต้องเห็นข้อมูลบนบัตรที่ชัดเจนเท่านั้นนะครับ

 

ทำผิดซ้ำ! ปรับหนักสุด 100,000 บาท หากเมาแล้วขับ และเพิ่มโทษในหลายคดี คลิก

 

   บุคคลที่ไม่มีสิทธิ์สอบใบอนุญาตขับขี่

   การสอบใบอนุญาตขับขี่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถสอบได้หรือได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ ตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก โดยสามารถแบ่งบุคคลที่ไม่มีสิทธิ์สอบใบอนุญาตขับขี่ได้ดังนี้

  • ผู้ที่อยู่ระหว่างการยึดใบขับขี่
  • ผู้ที่ถูกเพิกถอนใบขับขี่ ในกรณีที่ถูกเพิกถอนใบขับขี่จะสามารถสอบใบขับขี่ได้ก็ต่อเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาไปแล้ว 3 ปี โดยนับตั้งแต่วันแรกที่ถูกเพิกถอนไป
  • ผู้พิการทางร่างกายตั้งแต่ แขน ขา ตาบอด หูหนวก และลำพังพิการที่เป็นเหตุที่ไม่สามารถขับรถยนต์ได้
  • ผู้ที่มีความผิดปกติทางประสาทและป่วยทางจิต
  • ผู้ที่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง
  • ผู้ที่ติดสุราหรือของมึนเมา และผู้ที่ติดยาเสพติดทุกประเภท
  • ผู้ที่เคยได้รับการจำคุกที่มีความผิดเกี่ยวกับคดีรถ แต่ในที่นี้ยกเว้นผู้ที่ได้รับโทษฐานทำความผิดโดยประมาท และต้องได้รับการพ้นโทษมาแล้วเกิน 3 ปี
  • ผู้ที่ถูกควบคุมตัวเพราะมีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม
  • ผู้ที่มีข้อกล่าวหาหรือถูกพิพากษาถึงที่สุด และถูกเจ้าพนักงานเปรียบเทียบมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป (เมื่อพ้นโทษเหล่านี้ไปเป็นระยะเวลา 6 เดือน จึงสามารถทำเรื่องขอใบอนุญาตขับขี่ได้)
  • ขับขี่ฝ่าฝืนสัญญาฯจราจรหรือเครื่องหมายจราจร
  • ขับขี่ขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น
  • ขับขี่ในลักษณะกีดขวางการจราจร
  • ขับขี่โดยใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
  • ขับขี่โดยประมาณหรือน่าหวาดเสียว
  • ขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น

   นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผู้ทีเป็นโรคที่มีความเสี่ยงต่อการขับขี่รถยนต์ ทั้งหมด 5 โรคด้วยกัน

  • โรคเท้าช้าง
  • โรควัณโรค
  • โรคเรื้อน
  • โรคพิษสุราเรื้อรัง
  • โรคยาเสพติดให้โทษ

 

   ใบขับขี่แบบใหม่ใช้แทนใบขับขี่สากลได้

   โดยเฉพะนักท่องเที่ยวที่ต้องการเช่ารถเพื่อเป็นพาหนะในการเดินทาง จำเป็นต้องมีใบขับขี่ระหว่างประเทศควบคู่กับใบขับขี่ภายในประเทศด้วยนะครับ ยกเว้นประเทศกลุ่ม AEC ผู้ขับขี่สามารถขับออกนอกประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพียงแค่ใช้ใบขับขี่แบบใหม่ชนิดสมาร์ตการ์ดใบเดียวเท่านั้นครับ

 

เกณฑ์คะแนนจราจรใหม่! โดนตัดเหลือ 0 คะแนน สั่งพักใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน คลิก

   ใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี สามารถรับบัตรใหม่ได้

   การต่อใบขับขี่ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีนับจากวันที่ใบขับขี่หมดอายุ สามารถดำเนินการขอรับใบใหม่ได้โดยไม่จำเป็นต้องอบรมหรือสอบใหม่ ส่วนผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องผ่านการสอบข้อเขียนให้คะแนนผ่านร้อยละ 90 จากคะแนนสอบทั้งหมด และใบขับขี่ที่หมดอายุเกิน 3 ปี จะต้องผ่านการสอบข้อเขียน สอบปฏิบัติ และต้องใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบการขอต่ออายุใบขับขี่อีกด้วย


NEW HONDA CITY e:HEV

เริ่มต้น 769,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 8,500 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

จอดพักรถก่อนที่จะเกิดอันตราย! ยิ่งขับไกลยิ่งต้องจอดพัก

จอดพักรถก่อนที่จะเกิดอันตราย! ยิ่งขับไกลยิ่งต้องจอดพัก

12/04/2024

ช่วงเทศกาลเป็นช่วงที่ผู้คนต่างเดินทางไกลกันไม่ว่าจะเดินทางไปเที่ยวเพื่อพักผ่อนหรือเดินทางกลับบ้าน แต่การเดินทางจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการขับขี่ จะต้องเตรียมความพร้อมทั้งตัวผู้ขับขี่รวมไปถึงการเตรียมสภาพรถให้พร้อมก่อนออกเดินทาง สิ่งที่สำคัญสำหรับการเดินทางไกลๆ ก็คือการจอดพักรถ เพราะเป็นการถนอมเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดความร้อนที่สูงจนเกินไป

อ่านต่อ
มือใหม่ต้องทำอย่างไร? หากเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องเคลมประกันครั้งแรกต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

มือใหม่ต้องทำอย่างไร? หากเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องเคลมประกันครั้งแรกต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

23/03/2024

สำหรับท่านใดที่เป็นมือใหม่ต้องไม่พลาดเกี่ยวกับรายละเอียดการเคลมประกันในครั้งแรกว่าจะต้องทำอย่างไร และใช้เอกสารอะไรบ้าง เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วมั่นใจว่าตัวเองได้ทำประกันรถยนต์เอาไว้ก็ไม่ต้องกังวลไป แค่ตั้งสติก็พอครับ เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

อ่านต่อ
ร้อนระอุ! เจออากาศร้อนๆ แบบนี้ แอร์รถยนต์จะช่วยได้แค่ไหน?

ร้อนระอุ! เจออากาศร้อนๆ แบบนี้ แอร์รถยนต์จะช่วยได้แค่ไหน?

21/03/2024

บ้านเราไม่ว่าจะเดือนไหนก็ร้อน โดยปกติแล้วเราจะชินกับอากาศร้อนอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าจะเดือนไหนก็ร้อนจริงไหมล่ะครับ แต่ในปี 2567 นี้จะร้อนกว่าปกติ โดยทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้เตือนในเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ ทุกภาคของไทยมีโอกาสที่อุณหภูมิร้อนจัดเกิน 40 องศาฯ และมีบางจังหวัดร้อนจัดจะทะลุ 44 องศาฯ เลย

อ่านต่อ
Uto