ฮอนด้า ได้ตอกย้ำความทรงพลังและการทำงานอย่างชาญฉลาดของระบบขับเคลื่อนไฮบริด Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ซึ่งเป็นระบบแบบ Full Hybrid โดยได้สื่อสารถึงผลิตภัณฑ์รถยนต์ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนไฮบริดในชื่อว่า “อี:เอชอีวี (e:HEV)” โดยเริ่มรุ่นรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี
สะท้อนจุดเด่นที่โดนใจและพร้อมตอบโจทย์การใช้งานในทุกไลฟ์สไตล์ “แรง ล้ำเกินคาด ประหยัดเกินใคร มั่นใจทุกการขับขี่”
- High Performance ขับสนุกด้วยแรงบิดและอัตราเร่งที่ทรงพลัง
- High Saving ประหยัดเกินคาดด้วยโหมดการขับขี่ที่ปรับให้เหมาะกับทุกการเดินทางอย่างมีประสิทธิภาพ
- High Confidence เพิ่มความมั่นใจไปถึงทุกจุดหมายได้อย่างอิสระ
The City e:HEV
รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี เป็นยนตรกรรมฟลูไฮบริดรุ่นแรกของเซกเมนต์ซิตี้คาร์เลยครับ มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) โดยผสานการทำงานของพลังมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งเป็นระบบแบบ Full Hybrid ที่ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบต่อนาที และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร นอกจากนี้ยังมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 85 กรัม/กิโลเมตร อีกทั้งยังรองรับน้ำมัน E20 อีกด้วยนะครับ
สำหรับราคารถยนต์ฮอนด้ารุ่น RS จะมีราคาอยู่ที่ 839,000 บาท และมาพร้อมกับสีให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกัน
น้ำเงินออบซิเดียน (มุก) | |
แดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) | |
ขาวแพลทินัม (มุก) | |
ดำคริสตัล (มุก) | |
เงินลูนาร์ (เมทัลลิก) | |
เทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) |
The City Hatchback e:HEV
รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ยนตรกรรมฟลูไฮบริดแฮทช์แบ็กของเซกเมนต์ซิตี้คาร์ ที่มาพร้อมกับเทคโลโนยีการขับเคลื่อนอันล้ำสมัย กับระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว และยังมาพร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาดเพื่อตอบรับกับทุกการใช้งานนั่นเองครับ และตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 86 กรัม/กิโลเมตร และยังรองรับน้ำมัน E20 อีกด้วยนะครับ
เห็นจุดบอด...ปลอดจุดอับ ด้วย Honda LaneWatch คลิก
ขับสนุกจนฉุดไม่อยู่! กับระบบ Full Hybrid e:HEV ในรถยนต์ The City Hatchback e:HEV คลิก
สำหรับราคารถยนต์ฮอนด้ารุ่น RS จะมีราคาอยู่ที่ 849,000 บาท และมาพร้อมกับสีให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกัน
น้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) | |
แดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) | |
ขาวแพลทินัม (มุก) | |
เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) | |
เทาโซนิค (มุก) | |
ดำคริสตัล (มุก) |
The Civic e:HEV
รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี เป็นยนตรกรรมที่มาพร้อมกับขุมพลังที่ขับเคลื่อนแบบฟลูไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานที่ทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ใหม่ ที่มีขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน พร้อมมอบกำลังมอเตอร์สูงสุด 184 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แล้วยังตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ที่ 0-2,000 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมมากๆ ถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์เพียง 96 กรัม/กิโลเมตร
พุ่งให้สุดเพราะประหยุดน้ำมันถึง 25 กม./ลิตร คลิก
ทั้งนี้ในระบบขับเคลื่อนฟลูไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด ที่เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ ใน 3 โหมด ได้แก่
- โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive mode)
- โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
- โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
โดยมาพร้อมกับสวิตซ์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่ที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามต้องการได้เลยนะครับ ได้แก่
- โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode)
- โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode)
- โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode)
จัดเต็ม! ทุกความแรงล้ำ Civic e:HEV คลิก
สำหรับราคารถยนต์ฮอนด้าในรุ่นนี้มีทั้งหมด 2 เกรดด้วยกัน
- e:HEV EL+ ราคาอยู่ที่ 1,129,000 บาท
- e:HEV RS ราคาอยู่ที่ 1,259,000 บาท
และมาพร้อมกับสีให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกัน
ดำคริสตัล (มุก) | |
แดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) | |
ฟ้ามอร์นิงมิสต์ (เมทัลลิก) | |
ขาวแพลทินัม (มุก) | |
เงินลูนาร์ (เมทัลลิก) | |
เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) |
ใหม่! THE CIVIC e:HEV เรียบง่าย...แต่แฝงความสปอร์ตพรีเมียม คลิก
The All New HR-V e:HEV
รถยนต์ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี มาพร้อมกับดีไซน์ที่สปอร์ตในสไตล์เอสยูวี โดดเด่นด้วยตัวถังในสไตล์ Fastback มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนฟลูไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสอนได้อย่างทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร และยังประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และยังมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาดที่เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ถึง 3 โหมด ได้แก่
- โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive mode)
- โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
- โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
เตรียมจัดสเปซให้พร้อม กับ The All-new Honda HR-V e:HEV คลิก
โดยมาพร้อมกับสวิตซ์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่ที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามต้องการได้เลยนะครับ ได้แก่
- โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode)
- โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode)
- โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode)
ป้องกันรังสี UV ด้วย Panoramic Glass Roof ในรถยนต์ The All-new Honda HR-V e:HEV คลิก
สำหรับราคารถยนต์ฮอนด้าในรุ่นนี้มีทั้งหมด 3 เกรดด้วยกัน
- e:HEV E ราคาอยู่ที่ 979,000 บาท
- e:HEV EL ราคาอยู่ที่ 1,079,000 บาท
- e:HEV RS ราคาอยู่ที่ 1,179,000 บาท
และมาพร้อมกับสีให้เลือกทั้งหมด 5 สีด้วยกัน
แดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) / หลังคาสีดำ (ทูโทน) | |
ขาวแพลทินัม (มุก) | |
ขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) | |
เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) | |
ดำคริสตัล (มุก) |
3 ฟีเจอร์ที่พร้อมเจอสถานการณ์ขึ้น-ลงทางลาดชัน ในรถยนต์ All-new Honda HR-V e:HEV คลิก
The Accord e:HEV
รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนฟลูไฮบริด Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานอันทรงพลังของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่
- มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator)
- มอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive)
เครื่องยนต์ของ The Accord e:HEV คลิก
พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มอบกำลังสูงสุด 215 แรงม้า จากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 315 นิวตัน-เมตร โดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 24.4 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 97 กรัม/กิโลเมตร โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาดถึง 3 โหมด ได้แก่
- โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
- โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
- โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
อีกทั้งผู้ขับขี่สามารถกดสวิตช์เลือกควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Mode) เพื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่ที่ใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนได้อีกด้วย และนอกจากนี้ยังมาพร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงอารมณ์สปอร์ตได้อย่างแท้จริง ตอบสนองอัตราเร่งได้เร่งเร้าใจ โดยสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงกดปุ่ม SPORT ที่อยู่บริเวณด้านล่างของคันเกียร์นั่นเองครับ โดยสัญลักษณ์ SPORT จะแสดงขึ้นบนมาตรวัดในขณะที่ใช้ระบบหรือเลือกใช้ระบบ ECON Mode ที่ช่วยลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง โดยจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์ และระบบเกียร์ให้มีความสัมพันธ์กัน อีกทั้งยังปรับการทำงานของระบบปรับอากาศ รวมถึงการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสม ทำให้เครื่องยนต์ได้ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับราคารถยนต์ฮอนด้าในรุ่นนี้มีทั้งหมด 2 เกรดด้วยกัน
- e:HEV EL+ ราคาอยู่ที่ 1,639,000 บาท
- e:HEV TECH ราคาอยู่ที่ 1,799,000 บาท
และมาพร้อมกับสีให้เลือกทั้งหมด 4 สีด้วยกัน
ขาวแพลทินัม (มุก) | |
เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) | |
ดำคริสตัล (มุก) | |
เงินลูนาร์ (เมทัลลิก) |
อีกทั้งยังเสริมความมั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยแคมเปญพิเศษด้านการบริการหลังการขาย ดังนี้
- รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- โปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ตลอด 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance)
สร้างความมั่นใจและลดค่าใช้จ่าย ฮอนด้าใจดี! ขยายระยะเวลารับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดเพิ่มอีก 5 ปี คลิก
หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ