Full Hybrid e:HEV ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบันสำหรับรถยนต์ฮอนด้า

Full Hybrid e:HEV ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบันสำหรับรถยนต์ฮอนด้า

04/03/2023

   ฮอนด้า ได้ตอกย้ำความทรงพลังและการทำงานอย่างชาญฉลาดของระบบขับเคลื่อนไฮบริด Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ซึ่งเป็นระบบแบบ Full Hybrid โดยได้สื่อสารถึงผลิตภัณฑ์รถยนต์ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนไฮบริดในชื่อว่า “อี:เอชอีวี (e:HEV)” โดยเริ่มรุ่นรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี

 

   สะท้อนจุดเด่นที่โดนใจและพร้อมตอบโจทย์การใช้งานในทุกไลฟ์สไตล์ “แรง ล้ำเกินคาด ประหยัดเกินใคร มั่นใจทุกการขับขี่”

  • High Performance ขับสนุกด้วยแรงบิดและอัตราเร่งที่ทรงพลัง
  • High Saving ประหยัดเกินคาดด้วยโหมดการขับขี่ที่ปรับให้เหมาะกับทุกการเดินทางอย่างมีประสิทธิภาพ
  • High Confidence เพิ่มความมั่นใจไปถึงทุกจุดหมายได้อย่างอิสระ

The City e:HEV

   รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี เป็นยนตรกรรมฟลูไฮบริดรุ่นแรกของเซกเมนต์ซิตี้คาร์เลยครับ มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) โดยผสานการทำงานของพลังมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งเป็นระบบแบบ Full Hybrid ที่ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบต่อนาที และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร นอกจากนี้ยังมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 85 กรัม/กิโลเมตร อีกทั้งยังรองรับน้ำมัน E20 อีกด้วยนะครับ

   สำหรับราคารถยนต์ฮอนด้ารุ่น RS จะมีราคาอยู่ที่ 839,000 บาท และมาพร้อมกับสีให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกัน

น้ำเงินออบซิเดียน (มุก)
แดงอิกไนต์ (เมทัลลิก)
ขาวแพลทินัม (มุก)
ดำคริสตัล (มุก)
เงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
เทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)

 

The City Hatchback e:HEV

   รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ยนตรกรรมฟลูไฮบริดแฮทช์แบ็กของเซกเมนต์ซิตี้คาร์ ที่มาพร้อมกับเทคโลโนยีการขับเคลื่อนอันล้ำสมัย กับระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว และยังมาพร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาดเพื่อตอบรับกับทุกการใช้งานนั่นเองครับ และตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 86 กรัม/กิโลเมตร และยังรองรับน้ำมัน E20 อีกด้วยนะครับ

 

เห็นจุดบอด...ปลอดจุดอับ ด้วย Honda LaneWatch คลิก

ขับสนุกจนฉุดไม่อยู่! กับระบบ Full Hybrid e:HEV ในรถยนต์ The City Hatchback e:HEV คลิก

 

   สำหรับราคารถยนต์ฮอนด้ารุ่น RS จะมีราคาอยู่ที่ 849,000 บาท และมาพร้อมกับสีให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกัน

น้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก)
แดงอิกไนต์ (เมทัลลิก)
ขาวแพลทินัม (มุก)
เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
เทาโซนิค (มุก)
ดำคริสตัล (มุก)

 

The Civic e:HEV

   รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี เป็นยนตรกรรมที่มาพร้อมกับขุมพลังที่ขับเคลื่อนแบบฟลูไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานที่ทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ใหม่ ที่มีขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน พร้อมมอบกำลังมอเตอร์สูงสุด 184 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แล้วยังตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ที่ 0-2,000 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมมากๆ ถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์เพียง 96 กรัม/กิโลเมตร

พุ่งให้สุดเพราะประหยุดน้ำมันถึง 25 กม./ลิตร คลิก

 

   ทั้งนี้ในระบบขับเคลื่อนฟลูไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด ที่เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ ใน 3 โหมด ได้แก่ 

  • โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive mode)
  • โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
  • โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

   โดยมาพร้อมกับสวิตซ์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่ที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามต้องการได้เลยนะครับ ได้แก่

  • โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode)
  • โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode)
  • โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode)

จัดเต็ม! ทุกความแรงล้ำ Civic e:HEV คลิก

 

   สำหรับราคารถยนต์ฮอนด้าในรุ่นนี้มีทั้งหมด 2 เกรดด้วยกัน

  • e:HEV EL+ ราคาอยู่ที่ 1,129,000 บาท
  • e:HEV RS ราคาอยู่ที่ 1,259,000 บาท

 

   และมาพร้อมกับสีให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกัน

ดำคริสตัล (มุก)
แดงอิกไนต์ (เมทัลลิก)
ฟ้ามอร์นิงมิสต์ (เมทัลลิก)
ขาวแพลทินัม (มุก)
เงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)

ใหม่! THE CIVIC e:HEV เรียบง่าย...แต่แฝงความสปอร์ตพรีเมียม คลิก

 

The All New HR-V e:HEV

   รถยนต์ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี มาพร้อมกับดีไซน์ที่สปอร์ตในสไตล์เอสยูวี โดดเด่นด้วยตัวถังในสไตล์ Fastback มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนฟลูไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสอนได้อย่างทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร และยังประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และยังมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาดที่เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ถึง 3 โหมด ได้แก่

  • โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive mode)
  • โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
  • โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

เตรียมจัดสเปซให้พร้อม กับ The All-new Honda HR-V e:HEV คลิก

 

   โดยมาพร้อมกับสวิตซ์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่ที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามต้องการได้เลยนะครับ ได้แก่

  • โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode)
  • โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode)
  • โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode)

ป้องกันรังสี UV ด้วย Panoramic Glass Roof ในรถยนต์ The All-new Honda HR-V e:HEV คลิก

 

   สำหรับราคารถยนต์ฮอนด้าในรุ่นนี้มีทั้งหมด 3 เกรดด้วยกัน

  • e:HEV E ราคาอยู่ที่ 979,000 บาท
  • e:HEV EL ราคาอยู่ที่ 1,079,000 บาท
  • e:HEV RS ราคาอยู่ที่ 1,179,000 บาท

 

   และมาพร้อมกับสีให้เลือกทั้งหมด 5 สีด้วยกัน

แดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) / หลังคาสีดำ (ทูโทน)
ขาวแพลทินัม (มุก)
ขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก)
เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
ดำคริสตัล (มุก)

 

3 ฟีเจอร์ที่พร้อมเจอสถานการณ์ขึ้น-ลงทางลาดชัน ในรถยนต์ All-new Honda HR-V e:HEV คลิก

 

The Accord e:HEV

   รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนฟลูไฮบริด Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานอันทรงพลังของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่

  • มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator)
  • มอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive)

 

เครื่องยนต์ของ The Accord e:HEV คลิก

   พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มอบกำลังสูงสุด 215 แรงม้า จากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 315 นิวตัน-เมตร โดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 24.4 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 97 กรัม/กิโลเมตร โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาดถึง 3 โหมด ได้แก่

  • โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
  • โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
  • โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

   อีกทั้งผู้ขับขี่สามารถกดสวิตช์เลือกควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Mode) เพื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่ที่ใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนได้อีกด้วย และนอกจากนี้ยังมาพร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงอารมณ์สปอร์ตได้อย่างแท้จริง ตอบสนองอัตราเร่งได้เร่งเร้าใจ โดยสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงกดปุ่ม SPORT ที่อยู่บริเวณด้านล่างของคันเกียร์นั่นเองครับ โดยสัญลักษณ์ SPORT จะแสดงขึ้นบนมาตรวัดในขณะที่ใช้ระบบหรือเลือกใช้ระบบ ECON Mode ที่ช่วยลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง โดยจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์ และระบบเกียร์ให้มีความสัมพันธ์กัน อีกทั้งยังปรับการทำงานของระบบปรับอากาศ รวมถึงการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสม ทำให้เครื่องยนต์ได้ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

   สำหรับราคารถยนต์ฮอนด้าในรุ่นนี้มีทั้งหมด 2 เกรดด้วยกัน

  • e:HEV EL+ ราคาอยู่ที่ 1,639,000 บาท
  • e:HEV TECH ราคาอยู่ที่ 1,799,000 บาท

 

   และมาพร้อมกับสีให้เลือกทั้งหมด 4 สีด้วยกัน

ขาวแพลทินัม (มุก)
เทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
ดำคริสตัล (มุก)
เงินลูนาร์ (เมทัลลิก)

 

   อีกทั้งยังเสริมความมั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยแคมเปญพิเศษด้านการบริการหลังการขาย ดังนี้

  • รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  • โปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ตลอด 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance)

สร้างความมั่นใจและลดค่าใช้จ่าย ฮอนด้าใจดี! ขยายระยะเวลารับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดเพิ่มอีก 5 ปี คลิก

   หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ


NEW HONDA CITY e:HEV

เริ่มต้น 769,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 8,500 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

จะดีแค่ไหน? ถ้ามีระบบที่เพิ่มความสะดวกสบาย LCDN ในรถยนต์ New City Hatchback

จะดีแค่ไหน? ถ้ามีระบบที่เพิ่มความสะดวกสบาย LCDN ในรถยนต์ New City Hatchback

17/04/2024

เพียงเสี้ยววินาทีก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ แต่จะดีแค่ไหนหากมีระบบที่ช่วยป้องกันให้ชีวิตเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าจะรอเซนส์ของแต่ละคนก็คงไม่เพียงพอ สิ่งสำคัญในการใช้รถใช้ถนนจะต้องตระหนักถึงความปลอดภัยทั้งต่อตัวผู้ขับขี่อีกรวมไปถึงเพื่อนร่วมทาง ฉะนั้นเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์สักคัน

อ่านต่อ
รุ่นแรกของฮอนด้า! Honda e:N1 ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% เทคโนโลยีที่เหมาะกับปัจจุบัน

รุ่นแรกของฮอนด้า! Honda e:N1 ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% เทคโนโลยีที่เหมาะกับปัจจุบัน

09/04/2024

ฮอนด้าครองอับดับ 1 ในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะกับการใช้งานในปัจจุบัน ด้วยการผสมผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ขึ้นชื่อในเรื่องการประหยัดน้ำมันและในการเติมน้ำมันใน 1 ถัง สามารถขับไปได้ในระยะทางที่ไกลกว่า ล่าสุดฮอนด้าได้นะเสนอกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) อย่าง Honda e:N1 ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้าที่ผลิตในประเทศไทย

อ่านต่อ
ต่างกันอย่างไร? ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไมเนอร์เชนจ์ 2024 ทั้งรุ่นฟูลไฮบริด e:HEV และเครื่องยนต์ VTEC TURBO

ต่างกันอย่างไร? ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไมเนอร์เชนจ์ 2024 ทั้งรุ่นฟูลไฮบริด e:HEV และเครื่องยนต์ VTEC TURBO

20/02/2024

ฮอนด้าได้มีการปรับโฉมฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ โดยการปรับให้ดูสปอร์ตมากกว่าเดิม ทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยและสิ่งที่อำนวยความสะดวกที่มากยิ่ง ห้องโดยสารกว้างนั่งสบายที่มาพร้อมกับเบาะนั่งอัลตราซีท ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ตรงกับความต้องการได้ และตัวไมเนอร์เชนจ์ 2024 นี้ยังปรับราคาให้ลุกค้าได้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

อ่านต่อ
Uto