รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

17/06/2025

   อีกหนึ่งระบบในความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ แต่หลายท่านมักจะมองข้ามไปหรือรอจนเกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลังเมื่อสายไปแล้ว ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเราและเพื่อนร่วมทางควรทำอย่างไรบ้างมาดูกันเลยครับ

   ก่อนอื่นเลยถ้าเราไม่ตรวจสอบผ้าเบรกอย่างสม่ำเสมออาจก่อให้เกิดปัญหาหนักทั้งในเรื่องความปลอดภัย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และความเสียหายต่อชิ้นส่วนในรถได้

 

ผลเสียของการไม่ตรวจสอบ

เบรกไม่อยู่ เสี่ยงอุบัติเหตุ!

   เมื่อผ้าเบรกสึกจนบางหรือหมดไป จะทำให้เบรกทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ รถอาจหยุดได้ไม่ทันในบางสถานการณ์ที่ฉุกเฉิน จะต้องเพิ่มระยะเบรกที่ยาวขึ้น และเสี่ยงพุ่งชนหรือเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้ คลิก

 

ทำลายจานเบรก ต้องเปลี่ยนทั้งชุด

   ผ้าเบรกที่บางจนเกินไปถึงชั้นเหล็กจะถูกกัดกินจานเบรกจนเป็นช่อง ทำให้ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งชุดก็คือ ทั้งผ้าเบรกและจานเบรก ซึ่งราคาค่อนข้างแพง สำหรับค่าเปลี่ยนจานเบรก 1 คู่ อาจมีราคาประมาณ 5,000-15,000 บาท ขึ้นอยู่ที่รุ่นรถยนต์

หรู เงียบ สบาย! เปิดประสบการณ์ใหม่กับ Honda Accord e:HEV ที่มี Ambient Light สร้างบรรยากาศ ต้องลอง! คลิก

Honda Accord e:HEV

ระบบเบรกเสียหายทั้งชุด

   ซึ่งหากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแลอาจลามไปถึงลูกสูบเบรก น้ำมันเบรกเกิดการรั่ว เสียงดังผิดปกติ เบรกติด เบรกสั่น และทั้งหมดนี้จะต้องเสียเงินซ่อมเพิ่มอีกหลายพันบาทเลยนะครับ

 

เปลืองยางรถยนต์โดยไม่รู้ตัว

   เมื่อเบรกไม่สมดุลทำให้ยางสึกไม่เท่ากันได้ ยิ่งทำให้เราต้องเปลี่ยนยางเร็วกว่าที่กำหนด และการทรงตัวแย่ลง ขับไม่มั่นใจ อีกทั้งยังกินน้ำมันมากขึ้นอีกด้วย

 

สร้างอันตรายบนถนน

   เมื่อผ้าเบรกเสีย จานเบรกพัง เกิดเสียงดัง รถหยุดกระชาก เบรกแล้วรถส่าย อาจทำให้สร้างความรำคาญและเกิดอันตรายกับรถคันอื่นที่ขับตามมาได้ เสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุแบบโดมิโนได้เลยนะครับ

รถชน รถเสีย น้ำท่วม ประกันให้บริการลารถฟรีหรือไม่? เจาะลึกทุกเรื่องของคนใช้รถที่ต้องรู้ คลิก

 

ควรทำอย่างไร?

ตรวจสอบผ้าเบรกทุกๆ 10,000 กิโลเมตร

   เป็นคำแนะนำพื้นฐานจากช่างผู้เชี่ยวชาญเลยก็คือ การตรวจเช็กผ้าเบรกทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เพราะถึงแม้ว่าภายนอกรถจะดูปกติ ไม่มีอาการอะไรใดๆ ก็ตาม แต่ผ้าเบรกสึกหรอจากการใช้งานอย่างต่อเนื่องได้ หากปล่อยไว้นานโดยไม่เช็กอาจทำให้จานเบรกเสียหายทำให้ต้องเสียค่าซ่อมแพงไปกว่าเดิมหลายเท่าได้นะครับ

 

สังเกตความหนาของผ้าเบรก ต้องไม่ต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร

สำหรับความหนาของผ้าเบรกมีผลต่อประสิทธิภาพการเบรกโดยตรง ถ้าความหนามีน้อยกว่า 3 มิลลิเมตร แนะนำให้เปลี่ยนทันที เพราะนั่นหมายถึงว่าผ้าเบรกใกล้หมด และอาจไม่สามารถหยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก

น้ำมันเบรกเป็นตัวส่งแรงจากเท้าไปยังล้อ ถ้าน้ำมันเบรกต่ำหรือเสื่อมสภาพจะทำให้การเบรกช้าลงได้หรือเบรกไม่อยู่ ฉะนั้นควรเช็กระดับน้ำมันเบรกเดือนละ 1 ครั้ง โดยดูจากกระปุกน้ำมันเบรก

ข้อควรรู้

  • น้ำมันเบรกสีปกติจะใสหรือมีสีเหลืองอ่อน
  • หากน้ำมันเบรกมีสีดำหรือขุ่น ควรทำการเปลี่ยนใหม่
  • อย่าเติมน้ำมันเบรกเกิดขีด MAX และอย่าให้ต่ำกว่าขีด MIN

เปิดเพลย์ลิสต์ในวันฝนตกกับ Honda Civic e:HEV ด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และลำโพง BOSE เสียงระดับพรีเมียม คลิก

Honda Civic e:HEV

สังเกตอาการผิดปกติของเบรก

   บางครั้งผ้าเบรกอาจเริ่มมีปัญหา แม้ว่าจะยังไม่ถึงระยะการเปลี่ยนให้เราสังเกตอาการเบรกผิดปกติ เช่น มีเสียงดังเอี๊ยด หรือ ครืดๆ เวลาเหยียบเบรก มีอาการรถสั่นหรือส่าย ต้องเหยียบเบรกลึกขึ้นกว่าเดิมรถถึงจะหยุด เมื่อเบรกแล้วมีอาการหน่วงๆ ไม่ทันใจ หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ให้รีบไปตรวจเช็กที่ศูนย์บริการทันทีนะครับ

 

   นอกจากการตรวจสอบผ้าเบรกตามระยะและสังเกตอาการผิดปกติแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราจะต้องรู้เกี่ยวกับผ้าเบรก เพื่อยืดอายุการใช้งาน และใช้รถอย่างปลอดภัยขึ้น

 

ผ้าเบรกไม่ได้มีอายุแค่กิโลเมตร

   ถึงแม้จะมีคำแนะนำว่าควรเปลี่ยนทุกๆ 10,000 กิโลเมตร แต่ความจริงแล้วพฤติกรรมการขับขี่ส่งผลอย่างมากเช่น

  • การขับขี่ในเมืองในจราจรที่ติดขัด เบรกบ่อยๆ ผ้าเบรกจะสึกเร็วกว่าปกติ
  • ขับบนทางราบอย่างสม่ำเสมอ ใช้เบรกน้อย ผ้าเบรกจะอยู่ได้นานกว่า

วิธีรีเซ็ตไฟเตือนถ่ายน้ำมันเครื่องง่ายๆ ทำเองได้ไม่ต้องเข้าศูนย์ คลิก

ผ้าเบรกร้อนเกินไป ทำให้เกิดอันตราย

   การเบรกบ่อยๆ หรือเบรกหนักอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ผ้าเบรกและจานเบรกร้อนจัด ทำให้เกิดอาการเฟตเบรกได้ก็คือ การเบรกไม่อยู่แม้จะเหยียบแรงแค่ไหน

 

ผ้าเบรกฝุ่นเยอะต้องดูแล

   ผ้าเบรกบางชนิดจะสร้างฝุ่นมากยิ่งโดยเฉพาะแบบโลหะ ฝุ่นเหล่านี้จะสะสมที่ล้อทำให้ล้อหมอง และถ้าเข้าในระบบเบรกอาจลดประสิทธิภาพบเบรกได้ แนะนำให้ล้างล้อและระบบเบรกเป็นประจำหรือเลือกผ้าเบรกฝุ่นน้อย

 

เปลี่ยนผ้าเบรกควรเปลี่ยนเป็นคู่

   เวลาเปลี่ยนผ้าเบรกควรเปลี่ยนทั้ง 2 ล้อหน้า หรือ 2 ล้อหลัง พร้อมกันเสมอนะครับ เพื่อให้เบรกสมดุล หากเปลี่ยนเพียงข้างเดียวจะทำให้เบรกไม่เท่ากัน ทำให้รถอาจส่ายหรือเอียงขณะเบรกได้

 

เบรกดีต้องทำงานร่วมกับ จานเบรกและน้ำมันเบรก

   ผ้าเบรดีแต่ถ้าจานเบรกสึกหรอเป็นร่องก็ทำให้เบรกไม่ได้เช่นกัน น้ำมันเบรกเสื่อม เบรกก็อ่อนแม้ว่าจะเป็นผ้าเบรกใหม่ก็ตาม 

รถสตาร์ทไม่ติด เกิดจากอะไร? รวมสาเหตุ พร้อมวิธีแก้ไขด้วยตัวเองแบบละเอียด คลิก

 

   การขับขี่ที่ดี มั่นใจ จะต้องใส่ใจเรื่องเบรก เพราะเบรกไม่ใช่จุดที่เห็นเด่นชัดเหมือนสีรถหรือไฟหน้า จะต้องดูแลและตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ หรือหากมีอาการผิดปกติจะต้องรีบนำเข้าศูนย์บริการทันที อย่ารอให้เบรกเสียก่อนถึงจะซ่อม อาจไม่ใช่แค่เสียเงินแต่อาจจะเสียเวลาหรือแม้กระทั่งเสียโอกาสในชีวิตก็ได้นะครับ

   ต้องการนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการที่ ยูไนเต็ด ฮอนด้า สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ช่องทาง Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ


NEW HONDA CITY e:HEV

เริ่มต้น 729,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 7,400 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

14/06/2025

ข้อเท็จจริงที่คนมีรถต้องรู้ ก่อนที่จะตัดสินใจไม่ซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 การมีรถยนต์ส่วนตัวในยุคนี้แทบจะกลายเป็นปัจจัย 5 ของชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความสะดวกสบายของตัวเราเองทั้งในการเดินทาง ช่วยประหยัดเวลา ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่คำถามที่ตามมาสำหรับเจ้าของรถก็คือ จำเป็นต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือไม่? ยิ่งในปัจจัยนี้ที่ต้องประหยัดทุกบาททุกสตางค์ สำหรับคำตอบที่เข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งข้อดีและข้อเสีย และสิ่งที่ควรพิจราณก่อนตัดสินใจมีอะไรบ้าง แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายบังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่กฎหมายบังคับเฉพาะ พ.ร.บ. เท่านั้น แต่การตัดสินใจทำหรือไม่ทำก็ขึ้นอยู่กับบความเสี่ยงและความพร้อมในการรับผิดชอบของเจ้าของรถนั่นเองครับ

อ่านต่อ
ขับรถให้ปลอดภัย เริ่มจากพวงมาลัย! ปรับง่ายใน 1 นาที

ขับรถให้ปลอดภัย เริ่มจากพวงมาลัย! ปรับง่ายใน 1 นาที

13/06/2025

รู้หรือไม่? การปรับพวงมาลัยให้เหมาะสมกับสรีระของร่างกายของผู้ขับขี่ ไม่ใช่แค่เรื่องของความสบายแต่ยังส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยในขณะที่กำลังขับขี่อีกด้วย ไม่ว่าเราจะเพิ่งอออกรถมาใหม่หรือใช้รถคู่ใจมานานแล้วก็ตาม สำหรับเคล็ดไม่ลับของคนที่มีรถต้องรู้เกี่ยวกับการปรับพวงมาลัย ปรับง่ายหรือยากแค่ไหนมาดูกันครับ

อ่านต่อ
อัปเดตล่าสุด! ประกันภัยรถยนต์ ปี 2568 เปลี่ยนกฎใหม่ บังคับระบุชื่อผู้ขับขี่เริ่มใช้เมื่อไหร่?

อัปเดตล่าสุด! ประกันภัยรถยนต์ ปี 2568 เปลี่ยนกฎใหม่ บังคับระบุชื่อผู้ขับขี่เริ่มใช้เมื่อไหร่?

09/06/2025

ในปี 2568 นี้ ประกันภัยรถยนต์ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เจ้าของมีรถทุกคนจะต้องรู้และไม่ควรมองข้าม เพราะกฎใหม่กำลังจะเปลี่ยนวิธีการทำประกันภัยให้แม่นยำ ยุติธรรม และปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการระบุของชื่อผู้ขับขี่ และส่วนลดเบี่ยประกันตามพฤติกรรมการขับขี่ ซึ่งจะมีผลใช้จริงทั้งกับรถป้ายแดงและรถยนต์ทั่วไป และก่อนจะออกรถใหม่ในปี 2568 ควรศึกษาระบบนี้ให้ละเอียดก่อน พร้อมกับวางแผนร่วมกับโบรกเกอร์หรือบริษัทประกันให้เหมาะกับพฤติกรรม และที่สำคัญอย่าลืมอัปเดตใบขับขี่ ตรวจสอบข้อมูลในระบบของกรมการขนส่งทางบก หากอยากประหยัดค่าใช้จ่ายในปีถัดไป อย่ารอให้กฎเริ่มใช้ก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนนะครับ เริ่มปรับพฤติกรรมการขับขี่ตั้งแต่วันนี้เลยครับ!

อ่านต่อ
Uto