การเติมน้ำมันดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าเติมผิดขึ้นมาอาจทำให้รถพังได้!

การเติมน้ำมันดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าเติมผิดขึ้นมาอาจทำให้รถพังได้!

13/06/2023

   หลายท่านอาจมองว่าการเติมน้ำมันเป็นเรื่องเล็กน้อย เติมน้ำมันผิดประเภทอาจจะไม่เป็นผลอะไร ซึ่งนั้นเป็นความเข้าใจที่ผิดนะครับ เพราะการเติมน้ำมันผิดประเภทอาจทำให้รถของเราพังได้เลยนะ และยิ่งในปัจจุบันมีน้ำมันให้เลือกหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นประเภทน้ำมันดีเซล ที่มีทั้ง B7, B10, B20 และดีเซลพรีเมี่ยม หรือประเภทน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ โดยประเภทน้ำมันเหล่านี้จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ของรถแต่ละรุ่นอีกด้วย

มาเช็คกันว่าใช่หรือไม่! กับพฤติกรรมที่ทำให้รถกินน้ำมัน คลิก

 

ประเภทของรถยนต์

   โดยทั่วไปแล้วรถยนต์จะถูกแบ่งเครื่องยนต์ออกเป็น 2 ประเภท

  • เบนซิล
  • ดีเซล

   ซึ่งเครื่องยนต์แต่ละประเภทก็จำเป็นจะต้องเติมน้ำมันให้ถูกต้องกับเครื่องยนต์ประเภทนั้นๆ หากมีการเติมผิดประเภทสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ

 

ในกรณีที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล...แต่เติมน้ำมันเบนซิน

  • มีควันดำออกมาจากท่อไอเสียมากกว่าปกติ เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ มีอาการสะดุด และเครื่องยนต์ดับ
  • ไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้
  • การฉีดน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้ เกิดการลุกไหม้เร็วจนเกินไปจะทำให้เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง และจะดับทันที

   อุปกรณ์ของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเกิดความเสียหายอย่างเช่น ไส้กรองน้ำมันดีเซล ปั้มหัวฉีดแรงดันสูง และหัวฉีดดีเซล

 

รถติด! ต้องใส่เกียร์อะไรดี? ถึงจะช่วยประหยัดน้ำมัน คลิก

ในกรณีที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน...แต่เติมน้ำมันดีเซล

  • ประเภทน้ำมันดีเซลจะมีค่าความหนืดที่มากกว่าเบนซิน ซึ่งจะทำให้หัวฉีดเกิดอุดตันได้ หัวฉีดจะไม่เป็นฝอยละออง จึงทำให้หัวเทียนจุดประกายไฟแล้วเผาไหม้ได้ยากทำให้เครื่องยนต์ดับ
  • ไส้กรองเบนซินอุดตัน หัวฉีดไม่เป็นฝอยละออง และเขี้ยวหัวเทียนมีคราบเขม่าจับ
  • เครื่องยนต์จะมีเสียงดังขณะที่กำลังเร่งความเร็ว อัตราการเร่งเครื่องยนต์ช้ากว่าปกติ จนไม่สามารถทำความเร็วได้
  • ระบบแสดงไฟขึ้นเตือนเครื่องยนต์ปรากฏขึ้น และส่งผลให้เครื่องยนต์ดับได้จนไม่สามารถสตาร์ทรถได้

หยุดทำพฤติกรรมแบบนี้! หากไม่อยากให้รถพังเร็ว คลิก

 

รู้ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์

  1. หากรู้ว่าเติมผิดสิ่งแรกที่ไม่ควรทำเลยก็คือ การสตาร์ทรถ เพราะว่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่เติมผิดจะถูกปั้มดูดเข้าไปในระบบน้ำมันเชื้อเพลิงทันทีนั่นเอง
  2. แจ้งกับทางพนักงานปั้มให้ติดต่อช่างมาดูดน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นออกให้หมดจากถัง
  3. เติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกต้องลงไปในถังในปริมาณที่พอจะสตาร์ทรถติด (ประมาณ 5-10 ลิตร)
  4. ทำการสตาร์ทรถแล้วปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานที่รอบเดินเบา ประมาณ 850+/-50 รอบต่อนาที (ดูเข็มวัดรองบนหน้าปัด แบบดิจิตอล) โดยห้ามเร่งรอบเครื่องยนต์เด็ดขาดครับ
  5. สังเกตที่ไฟเตือนต่างๆ บนหน้าปัด หากปกติจะไม่ขึ้นไฟเตือนใดๆ
  6. ทำการเปิดสวิตช์อุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น แอร์ไฟแสงสว่างทั้งหมดหรือหมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายสุด-ขวาสุด จากนั้นสังเกตอาการของเครื่องยนต์ว่ามีการสั่นสะเทือนหรือมีแนวโน้มจะดับหรือไม่
  7. เลื่อนคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง D หรือเหยียบคลัตช์เข้าเกียร์ 1 สำหรับเกียร์ธรรมดา พร้อมกับเหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนที่
  8. ขับรถที่ความเร็วรอบต่ำไปสัดระยะหนึ่งก่อน แล้วรอจนกว่าเครื่องยนต์จะทำงานเป็นปกติ จากนนั้นค่อยทำการเพิ่มความเร็วรอบของเครื่องยนต์

 

รู้หลังสตาร์ทเครื่องยนต์

  1. ดับเครื่องยนต์ทันที
  2. แจ้งพนักงานปั้มให้ติดต่อช่างมาดูดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เติมผิด โดยดูดออกให้หมดถัง
  3. ถอดพร้อมกับทำการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงลูกใหม่
  4. ถอดหัวฉีด (ดีเซลหรือเบนซิน) และหัวเทียน (เบนซิน) แล้วทำการล้างทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่
  5. ถอดปั้มหัวฉีดเครื่องยนต์ดีเซลส่งไปร้านเพื่อทำการเทสปั้มหัวฉีดดีเซล (เครื่องยนต์เบนซินจะไม่มี)
  6. ถอดฝาสูบเครื่องยนต์เพื่อเช็กความบิดเบี้ยว (ฝาโก่ง) ก้านวาล์วไอดี-ก้านวาล์วไอเสียคดหรือไม่
  7. หลังจากนั้นให้ประกอบเข้ากับเครื่องยนต์แล้วเติมน้ำมันเชื้อเพลิงใส่ในถังประมาณ 5-10 ลิตร
  8. เติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกต้องลงไปในถังเพื่อทำการสตาร์ทรถ ประมาณ 5-10 ลิตร
  9. ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์จนติดแล้วปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานที่รอบเดินเบา ประมาณ 850+/-50รอบต่อนาที (ดูเข็มวัดรองบนหน้าปัด แบบดิจิตอล) โดยห้ามเร่งรอบเครื่องยนต์เด็ดขาดครับ
  10. สังเกตที่ไฟเตือนต่างๆ บนหน้าปัด หากปกติจะไม่ขึ้นไฟเตือนใดๆ
  11. ทำการเปิดสวิตช์อุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น แอร์ไฟแสงสว่างทั้งหมดหรือหมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายสุด-ขวาสุด จากนั้นสังเกตอาการของเครื่องยนต์ว่ามีการสั่นสะเทือนหรือมีแนวโน้มจะดับหรือไม่
  12. เลื่อนคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง D หรือเหยียบคลัตช์เข้าเกียร์ 1 สำหรับเกียร์ธรรมดา พร้อมกับเหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนที่
  13. ขับรถที่ความเร็วรอบต่ำไปสัดระยะหนึ่งก่อน แล้วรอจนกว่าเครื่องยนต์จะทำงานเป็นปกติ จากนนั้นค่อยทำการเพิ่มความเร็วรอบของเครื่องยนต์

แบตเตอรี่สำคัญขนาดไหน! วิธีเซฟให้ใช้แบตเตอรี่ได้นานกว่าเดิม คลิก

 

ป้องกันไม่ให้เติมผิด

  • บอกประเภท และชื่อน้ำมันเชื้อเพลิงให้ถูกต้อง และชัดเจน
  • สังเกตว่าผู้คุมหัวจ่ายว่าคว้าหัวจ่ายน้ำมันถูกประเภทหรือไม่
  • ตรวจสอบที่ใบเสร็จเพื่อเช็กรายละเอียดของการเติมน้ำมันให้เรียบร้อย เพราะหากเกิดปัญหาในการเติมน้ำมันจะได้ใช้ใบเสร็จเพื่อเป็นหลักฐานได้

เคลมได้หรือไม่? หากมีรอยเก่าที่ตัวรถยนต์ คลิก

 

เคลมได้หรือไม่? หากเติมน้ำมันผิดและเครื่องพัง

   สามารถเคลมประกันภัยได้นะครับ แต่จะต้องเป็นประกันภัยชั้น 1 เท่านั้นนะ เพราะเนื่องจากการเติมน้ำมันผิดเป็นส่วนที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรถยนต์ ฉะนั้น จะเข้าข่ายความคุ้มครองครับ สำหรับวิธีการก็คือให้รีบทำการแจ้งกับเจ้าหน้าที่ประกันโดยทันทีในขณะที่เกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจเช็กความเสียหายเบื้องต้นนั่นเองครับ

สเกิร์ตเป็นรอย เคลมประกันได้หรือไม่? คลิก

 

   การเติมน้ำมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยหรือชะล่าใจ จะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ ทางที่ดีควรสังเกตทุกครั้งเพื่อไม่ให้เกิดการผิดพลาด แต่หากเกิดเหตุการณ์นั้นจริงๆ จะต้องให้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเครื่องยนต์มาจัดการเพื่อทำการดูแลพร้อมให้ความช่วยเหลือที่ถูกต้อง อย่าฝืนใช้รถทั้งๆ ที่เติมน้ำมันผิดนะครับ เพราะนั้นจะทำให้เครื่องยนต์รถของเราเกิดความเสียหาย และรถยนต์ก็จะพังได้ง่ายนั่นเอง อย่าลืมมีประกันติดตัวไว้ด้วยนะครับ เพราะหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ประกันจะสามารถช่วยเราได้นั่นเอง

   หากต้องการซื้อประกันภัยรถยนต์หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ทุกช่องทางของ ยูไนเต็ด ฮอนด้า ได้เลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นทาง Line : @unitedhonda หรือ Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ


ALL-NEW HONDA ACCORD e:HEV

เริ่มต้น 1,529,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 16,000 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

ระวัง! เคลมเท็จประกันไม่จ่าย เสี่ยงหมดสิทธิ์คุ้มครองรถ อย่าคิดว่าบริษัทประกันไม่รู้

ระวัง! เคลมเท็จประกันไม่จ่าย เสี่ยงหมดสิทธิ์คุ้มครองรถ อย่าคิดว่าบริษัทประกันไม่รู้

02/08/2025

อย่าคิดว่า 'แกล้งลืม' จะไม่เป็นไร... เพราะการเคลมเท็จ อาจทำให้คุณ หมดสิทธิ์ได้รับความคุ้มครอง จากบริษัทประกันทันที! “รถเฉี่ยวแค่นิดเดียว เดี๋ยวค่อยแจ้งทีเดียวตอนชนครั้งหน้า หรือ รถชนเองนิดหน่อย เดี๋ยวแต่งเรื่องให้เป็นฝั่งตรงข้ามผิด จะได้ไม่ต้องเสียค่าซ่อมเอง” เคลมเท็จไม่ใช่เรื่องเล็ก เสี่ยงทั้งไม่ได้เงินและโดนดำเนินคดี อย่าคิดว่า “บริษัทประกันไม่รู้” เพราะทุกข้อมูลสามารถตรวจสอบได้ การเคลมอย่างโปร่งใส คือการดูแลตัวคุณเองในระยะยาว และหากอยากเริ่มต้นใหม่อย่างมั่นใจ เลือกรถยนต์ฮอนด้าจาก ยูไนเต็ด ฮอนด้า วันนี้ พร้อมดูแลคุณทุกขั้นตอน

อ่านต่อ
คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

18/06/2025

การมีรถยนต์ส่วนตัวสักคันหนึ่ง นอกจากเรื่องของการขับขี่ที่ปลอดภัยแล้วสิ่งที่เจ้าของรถทุกท่านต้องรู้เลยก็คือ วิธีเคลมประกันภัยรถยนต์ ให้เร็วและไม่โดนเทจากบริษัทประกัน เพราะในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ ความรวดเร็วและความเข้าใจในขั้นตอนการเคลมเป็นสิ่งที่จะช่วยให้สถานการณ์ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้นั่นเองครับ

อ่านต่อ
รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

17/06/2025

อีกหนึ่งระบบในความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ แต่หลายท่านมักจะมองข้ามไปหรือรอจนเกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลังเมื่อสายไปแล้ว ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเราและเพื่อนร่วมทางควรทำอย่างไรบ้างมาดูกันเลยครับ

อ่านต่อ
Uto