ช่วงเทศกาลเป็นช่วงที่ผู้คนต่างเดินทางไกลกันไม่ว่าจะเดินทางไปเที่ยวเพื่อพักผ่อนหรือเดินทางกลับบ้าน แต่การเดินทางจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการขับขี่ จะต้องเตรียมความพร้อมทั้งตัวผู้ขับขี่รวมไปถึงการเตรียมสภาพรถให้พร้อมก่อนออกเดินทาง สิ่งที่สำคัญสำหรับการเดินทางไกลๆ ก็คือการจอดพักรถ เพราะเป็นการถนอมเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดความร้อนที่สูงจนเกินไป
แสบตาในขณะที่ขับขี่ ลดแสงรบกวนด้วยกระจกมองหลังตัดแสง คลิก
วิ่งระยะทางเท่าไร ควรพักรถ
การเดินทางไกลควรพักรถอย่างสม่ำเสมอ ให้เครื่องยนต์ได้พักจนเย็นลงและให้รถปรับสภาพ โดยการเดินทางไกลควรหยุดเป็นระยะๆ 150-200 กิโลเมตร หรือทุกๆ 2-3 ชั่วโมง และสามารถจอดพักรถได้ตามระยะต่อไปนี้
- 150-200 กิโลเมตร หรือ 2 ชั่วโมง : เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการจอดพักรถ โดยใช้เวลาในการพักประมาณ 15-20 นาที สามารถหาแวะจอดได้ที่ปั้มน้ำมัน แวะเข้าห้องน้ำ รวมไปถึงแวะซื้อเครื่องดื่ม อาหารคลายง่วง เพื่อให้ร่างกายได้รู้สึกสดชื่นขึ้น และลดอาการเหนื่อยล้าจากการขับรถ จะได้มีแรงขับรถต่อไปยังจุดหมายปลายทาง
- 201-300 กิโลเมตร หรือ 3 ชั่วโมง : การขับรถนานติดต่อกันเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ร่างกายจะรู้สึกอ่อนล้า เพลีย ดังนั้นจะต้องจอดพักรถและผู้ขับขี่ ใช้เวลาในการพักประมาณ 15-30 นาที พักการทำงานของเครื่องยนต์ที่วิ่งมานานพร้อมทั้งพักร่างกายของผู้ขับขี่ อาจจะไปล้างหน้าล้างตาเพื่อฟื้นร่างกายของตัวเอง
- 300 กิโลเมตรขึ้นไป หรือ 4 ชั่วโมง : การขับขี่ในระยะนานขนาดนี้ควรจอดพักอย่างน้อย 30-60 นาที เนื่องจากร่างกายของผู้ขับขี่อาจเกิดอาการเหนื่อยล้าสะสมที่อาจเกิดอาการหลับในได้หรือการตัดสินใจต่างๆ ช้าลง ควรจอดพักหรือสลับเปลี่ยนผู้ขับขี่ สำหรับตัวผู้ขับขี่สามารถงีบสัก 15-20 นาที เพื่อให้ร่างกายได้รู้สึกดีขึ้น
ง่วงนอนขณะขับขี่ อันตราย! 5 วิธีแก้ง่วงเมื่อต้องเดินทางไกล คลิก
จอดพักรถ ต้องดับเครื่องหรือไม่?
ในแต่ละครั้งที่จอดพักรถ สิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งคือ การดับเครื่องยนต์ เพราะรถยนต์ที่วิ่งมาด้วยความร้อนจัดหากถูกความเย็นเข้าไปในทันที จะเกิดอาการบิดเบี้ยวโค้งงอหรือถ้าหนักมากๆ กระบอกสูงอาจแตกหักเอาได้ง่าย ฉะนั้นควรที่จะสตาร์ทรถทิ้งไว้เพื่อให้เครื่องยนต์ได้ปรับสภาพและเย็นตัวลง
หยุดพฤติกรรมแบบนี้! อันตรายถึงชีวิตหากไม่ขับขี่ตามกฎจราจร คลิก
จากที่ได้จอดพักรถเป็นการช่วยเกี่ยวกับเครื่องยนต์ที่ทำงานอย่างหนัก นอกจากพักเครื่องยนต์แล้วยังช่วยในตัวของผู้ขับขี่อีกด้วย ให้ผู้ขับขี่ได้ยืดเส้นยืดสาย เข้าห้องน้ำ หรือหาเครื่องดื่มอย่างกาแฟทาน เป็นต้น เพื่อให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น