รู้หรือไม่? ขับรถในช่วงฝนตก 10 นาทีแรก มีโอกาสรถลื่นไถลสูงสุด ต้องเตรียมตัวอย่างไร และขับด้วยวิธีไหน ระบบอะไรที่สำคัญหากต้องขับลุยฝน
การขับรถช่วงหน้าฝนอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ทั้งนี้ ในช่วงที่ฝนตกหนัก 10 นาทีแรก เป็นช่วงที่รถมีโอกาสลื่นไถลมากที่สุด เพราะน้ำฝนจะชะล้างคราบน้ำมันและฝุ่นละอองที่ติดอยู่บนพื้นถนน ทำให้เกิดเป็นเสมือนแผ่นฟิล์มอยู่บนผิวถนน ซึ่งอาจส่งผลให้รถลื่นและเสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุได้ จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ
วิธีขับรถให้ปลอดภัยในขณะฝนตก
เปิดไฟหน้า
เพราะไฟหน้าจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้มองเห็นในสภาพที่แสงน้อยและฝนตกหนักได้
เปิดที่ปัดน้ำฝนให้แรงพอดี
ในขณะที่ฝนตก ควรเปิดที่ปัดน้ำฝนแล้วปรับระดับความเร็วของใบปัดให้สัมพันธ์กับความแรงและปริมาณฝนที่ตกลงมา เพื่อไม่ให้บดบังทัศนวิสัย
เหตุฉุกเฉิน! เป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดเมื่อต้องใชรถใช้ถนน จะรับมืออย่างไรดี คลิก
ใช้น้ำฉีดกระจกล้างสิ่งสกปรก
ในช่วงที่ฝนเริ่มตก น้ำที่กระเด็นจากการดีดจะมีลักษณะเหนียวคล้ายโคลน แม้จะใช้ก้านปัดน้ำฝนปัดก็ไม่สามารถปัดออกได้หมด จึงควรใช้น้ำฉีดกระจกช่วยชะล้างคราบโคลนเหล่านี้ด้วย
ไม่ขับรถเร็วเกินไป
ควรใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพถนนและการมองเห็น
เจอถนนแบบนี้ขับอย่างไร? กับทางเอก-ทางโท คลิก
เว้นระยะห่างมากขึ้น
ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติเป็น 2 เท่า เพื่อการเบรกอย่างปลอดภัย
ไม่ควรเบรกอย่างกะทันหัน
เพราะอาจเกิดการลื่นไถลของรถและทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
สังเกตให้มากขึ้น
พยายามมองหาจุดที่มีน้ำขังบนถนนและลดความเร็วเมื่อต้องขับผ่านแอ่งน้ำขัง เนื่องจากรถอาจจะเหินน้ำและลื่นไถลได้หากขับมาด้วยความเร็วสูง
อันตราย! หากมองข้ามไป เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด "พวงมาลัยล็อค" คลิก
ประเมินระดับความลึกของน้ำ
มองระดับความลึกของน้ำ โดยสังเกตจากรถคันหน้าหรือขอบฟุตบาทข้างทาง เพื่อประเมินสถานการณ์ว่าสามารถขับผ่านไปได้หรือไม่
ก่อนเดินทางอย่าลืมตรวจเช็ค "ยางอะไหล่" ยังพร้อมใช้งานหรือไม่? คลิก
ถ้าจำเป็นต้องลุยน้ำให้ปิดแอร์
หากต้องขับลุยพื้นที่น้ำท่วมขัง ควรจะปิดแอร์และใช้เกียร์ต่ำ ( เกียร์ L หรือ เกียร์ 1 ) เพื่อไม่ให้รอบเครื่องยนต์ต่ำเกินไป ไม่งั้นน้ำอาจจะย้อนเข้าท่อไอเสียได้
ขับไม่ไหวให้หาที่จอด
หากฝนตกหนักมากจนไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าในระยะ 10 เมตรได้ชัดเจน แนะนำให้หาที่จอดรถและรอจนฝนเบาลง ค่อยเดินทางต่อเพื่อความปลอดภัย
เบรก ABS คืออะไร ทำไมถึงเป็นมาตรฐานของรถยนต์ยุคใหม่
ABS เป็นคำย่อของ Anti-lock Brake System เป็นระบบป้องกันการเบรกจนล้อล็อกตายแต่ยังมีแรงเฉื่อยทำให้รถไถลไปกับพื้นถนนในขณะที่ล้อหยุดนิ่ง ทำให้ผู้ขับไม่สามารถบังคับรถได้ชั่วขณะหนึ่ง จนนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ด้วยเหตุนี้ ABS จึงถูกพัฒนาเข้ามาช่วยเสริมระบบเบรกพื้นฐาน ซึ่งหลายๆ คนอาจเข้าใจไปว่ามันคือชื่อของระบบเบรกพื้นฐาน แต่จริงๆ แล้ว ระบบเบรกที่มีอยู่จะมีแค่ดิสก์เบรก และดรัมเบรกเท่านั้น โดย ABS เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยคนสำคัญนั่นเอง
ยิ่งฝนตกยิ่งต้องล้างรถ กับ 5 เหตุผลที่ควรล้างรถในหน้าฝน คลิก
ระบบ ABS ทำงานอย่างไร ? ระบบเบรก ABS เป็นการผสมผสานระหว่างระบบกลไก และระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำหน้าที่คือป้องกันล้อไม่ให้เกิดการล็อกเมื่อมีการใช้เบรกหนักABS จะประกอบด้วยฟันเฟืองวงแหวนที่ติดตั้งอยู่กับเพลาหมุนพร้อมเซ็นเซอร์ เมื่อล้อรถเริ่มหมุนฟันเฟืองจะหมุนตาม จากนั้นเซ็นเซอร์ก็จะทำการตรวจจับความเร็วการหมุนของฟันเฟือง แล้วรายงานอัตราความเร็วที่ได้มาไปให้กล่องสมองกล ABS ซึ่งปกติทั่วไปทุกล้อจะมีเซ็นเซอร์เพื่อตรวจสอบความเร็วติดอยู่ทุกล้อเมื่อทำงานสมองกล ABS จะสั่งการให้ชุดปั๊มเบรกทำงาน โดยจะมีการจับและปล่อยระหว่างจานเบรกกับผ้าเบรกที่ 16-50 ครั้ง/วินาที หรือเปรียบได้ว่าเบรกและปล่อยรัวๆ แบบอัตโนมัติทำให้ล้อไม่ล็อก ผู้ขับสามารถควบคุมทิศทางของรถได้นั่นเอง