สำหรับท่านใดที่ซื้อรถมือสองมาแล้วสงสัยว่า “ถ้ารถยังมีประกันอยู่ เราจะได้รับประโยชน์อะไรหรือไม่?” สามารถโอนสิทธิ์ประกันหรือจะคุ้มครองเราในส่วนใดบ้าง มาดูไปพร้อมๆ กันเลยครับ
ดีอย่างไร? ซื้อรถมือสองแล้วยังมีประกันอยู่
การที่เราซื้อรถมือสองที่ยังมีประกันเหลืออยู่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์นะครับ ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อที่ควรระวังในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามลองพิจารณาตามความเหมาะสมหรือตามที่เราต้องการได้เลยครับ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ดีอย่างไร? เหตุผลที่ผู้หญิงควรมี คุ้มค่าทุกการขับขี่! คลิก

ข้อดี
- คุ้มครองในช่วงแรก : การซื้อรถมือสองที่ยังมีประกันเหลืออยู่จะช่วยให้เราได้รับความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเกิดความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุในช่วงแรกที่เราใช้งาน โดยที่ไม่ต้องซื้อประกันใหม่ทันที ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำประกันในช่วงเริ่มต้นได้ครับ

- การเคลมง่ายขึ้น : ถ้ารถยังไม่หมดประกันเราจะสามารถทำการเคลมประกันได้ตามที่เงื่อนไขของประกันที่เหลืออยู่ได้เลย เช่น อุบัติเหตุเล็กน้อยหรือความเสียหายที่เกิดจากเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิด
- ลดความเสี่ยง : ประกันภัยรถยนต์ใหม่ในบางบริษัทอาจมีราคาแพงและเงื่อนไขที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่ถ้าหากเราได้รถมือสองที่ประกันยังเหลืออยู่ เราสามารถใช้งานได้อย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องยุ่งยากกับการหาประกันใหม่

ข้อควรระวัง
- การโอนสิทธิ์ : แม้ว่าประกันยังคงมีอยู่แต่ในบางบริษัทอาจจะไม่อนุญาตให้เจ้าของคนใหม่โอนสิทธิ์การคุ้มครองหรือบางกรณีก็อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการโอนสิทธิ์เหล่านั้นได้ ดังนั้นเราจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนนะครับ ว่าการโอนประกันสามารถทำได้หรือไม่
- ไม่ครอบคลุม : ประกันที่เหลืออยู่ในบางครั้งอาจมีข้อจำกัดในการคุ้มครอง เช่น การคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิดจากการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาเฉพาะหรืออาจไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานในบางกรณีนั่นเอง
- อายุของประกัน : แม้ว่ารถมือสองยังมีประกันเหลืออยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปประกันก็จะหมดอายุลง ซึ่งเราจะต้องคำนึงถึงการทำประกันใหม่ในอนาคตด้วยนะครับ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามสภาพของรถ
ซึ่งการซื้อรถมือสองที่ยังมีประกันเหลืออยู่ก็มีข้อดีในเรื่องการคุ้มครองในช่วงแรกๆ ทำให้เราลดค่าใช้จ่ายในการทำประกันใหม่ได้ แต่จะต้องระวังในเรื่องการโอนสิทธิ์ประกันด้วยนะครับ ว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้าง ที่อาจเป็นข้อจำกัดในความคุ้มครองได้นั่นเอง ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถมือสองที่ยังมีประกันเหลืออยู่ เราควรตรวจสอบรายละเอียดของประกันอย่างละเอียด และสอบถามข้อมูลจากบริษัทประกันเพื่อให้เรามั่นใจว่าเราสามารถใช้สิทธิ์ในส่วนใดได้บ้าง
การโอนสิทธิ์ประกันรถ
การโอนสิทธิ์ประกันภัยรถยนต์จากเจ้าของเก่าไปยังเจ้าของใหม่เป็นขั้นตอนที่สำคัญ หากเราซื้อรถมือสองแล้วต้องการโอนประกันที่ยังเหลืออยู่ให้กับเจ้าของใหม่ โดยขั้นตอนการโอนสิทธิ์สำหรับเจ้าของใหม่มีดังนี้ครับ


คอลเลคชันรถยนต์ฮอนด้าสีแดง ความคลาสสิกที่โดดเด่น น่าจดจำ เสริมความโชคดี และเป็นเทรนที่ไม่ตกยุค คลิก
ตรวจสอบเงื่อนไขของบริษัทประกัน
ก่อนอื่นเลยเราจะต้องตรวจสอบกับทางบริษัทประกันก่อนว่า ทางบริษัทประกันอนุญาตให้โอนสิทธิ์ประกันไปยังเจ้าของใหม่หรือไม่? เพราะในบางบริษัทอาจมีข้อกำหนดในการโอนสิทธิ์กันที่แตกต่างกันไป เช่น โอนสิทธิ์ได้เฉพาะประเภทประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น หรือไม่อนุญาตให้โอนในกรณีบางประเภทของประกัน
ติดต่อกับบริษัทประกัน
ให้ทำการติดต่อกับบริษัทประกันที่ให้บริการอยู่ เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการโอนสิทธิ์ประกัน โดยที่เราจะต้องเตรียมเอกสารตามที่บริษัทประกันแจ้งขอ เช่น
- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของใหม่
- สำเนาทะเบียนรถ
- เอกสารแสดงการซื้อขายรถ (สัญญาซื้อขาย)
อย่าประมาท! ประกันขาดอาจทำให้เราเดือนร้อนได้ คลิก
กรอกแบบฟอร์มการโอนสิทธิ์ประกัน
ทางบริษัทประกันจะมีแบบฟอร์มที่เจ้าของใหม่ต้องกรอกเพื่อทำการโอนสิทธิ์การคุ้มครอง ซึ่งแบบฟอร์มนี้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของรถยนต์ เจ้าของเก่า เจ้าของใหม่ รวมไปถึงข้อมูลประกันที่ยังเหลืออยู่
ส่งเอกสารและชำระค่าธรรมเนียม (หากมี)
หลังจากกรอกแบบฟอร์มเสร็จสิ้นแล้ว เราจะต้องส่งเอกสารที่บริษัทประกันขอพร้อมกับชำระค่าธรรมเนียมการโอนสิทธิ์ (ถ้ามี) ซึ่งบางบริษัทอาจคิดค่าธรรมเนียมในการโอนสิทธิ์ประกันหรือบางบริษัทก็อาจจะฟรีก็ได้นะครับ ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทนั่นเอง
รอการอนุมัติและใบรับรอง
เมื่อเอกสารครบถ้วนและการโอนสิทธิ์ประกันได้รับการอนุมัติจากบริษัทประกันแล้ว โดยเจ้าของใหม่จะได้รับใบรับรองการโอนสิทธิ์การประกัน ซึ่งเป็นเอกสารที่ยืนยันได้ว่าเราจะได้รับความคุ้มครองจากประกันในฐานะเจ้าของใหม่แล้ว
ตรวจสอบความคุ้มครอง
เมื่อเราได้รับการโอนสิทธิ์แล้วตรวจสอบรายละเอียดความคุ้มครองของประกันให้ครบถ้วน เช่น ระยะเวลา ความครอบคลุม และเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเราได้รับความคุ้มครองตามที่ต้องการ
ประมาทร่วม! คู่กรณีชนแล้วหนีหรือไม่มีประกัน ควรทำอย่างไรและประกันจะจ่ายให้เราไหม? คลิก

ต่ออายุประกัน
หากประกันที่เหลืออยู่ใกล้จะหมดอายุ ให้เจ้าของใหม่พิจารณาต่ออายุของประกันหรือซื้อประกันใหม่โดยดูตามความเหมาะสมของผู้ใช้รถได้เลยนะครับ ซึ่งเจ้าของใหม่จะต่อประกันกับบริษัทประกันเดิมหรือจะเปลี่ยนไปซื้อประกันใหม่ก็ได้ แต่ถ้าจะเลือกต่อประกันกับบริษัทเดิมจะต้องตรวจสอบอัตราค่าประกันในปีถัดไป และเงื่อนไขใหม่ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยนนะครับ
ข้อควรระวัง
- เงื่อนไขของประกัน : อย่าลืมอ่านเงื่อนไขการโอนสิทธิ์ประกันให้ละเอียด เพราะบางกรณีอาจมีข้อกำหนดเฉพาะที่อาจส่งผลต่อการโอน
- เวลาในการโอน : กระบวนการโอนสิทธิ์ประกันอาจใช้เวลาหลายวัน ดังนั้นควรทำการโอนสิทธิ์ประกันโดยเร็วเพื่อหลีกลี่ยงปัญหาที่จะเกิดอุบัติเหตุในระหว่างที่ทำการเปลี่ยนเจ้าของใหม่
การโอนสิทธิ์ประกันให้กับเจ้าของใหม่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา หากทำตามขั้นตอนและตรวจสอบรายละเอียดกับบริษัทประกันให้ดี ก็จะช่วยให้เราได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่ประกันยังคงอยู่นะครับ

Honda City Hatchback e:HEV เป็นมากกว่ารถยนต์ ด้วย 4 โหมด สุดอเนกประสงค์ คลิก
จำเป็นต้องแจ้งกรมการขนส่งทางบกหรือไม่?
จำเป็นต้องแจ้งกรมการขนส่งทางบกเมื่อซื้อรถมือสอง เพราะการแจ้งโอนกรรมสิทธิ์รถที่สำนักงานขนส่งเป็นขั้นตอนที่กฎหมายได้บังคับไว้ เพื่อให้รถถูกต้องตามกฎหมายและเป็นหลักฐานว่าเจ้าของรถได้เปลี่ยนมือแล้ว

เหตุผลที่ต้องแจ้ง!
- ความเป็นเจ้าของรถ : การแจ้งโอนกรรมสิทธิ์ขนส่งจะเป็นการยืนยันว่าเจ้าของรถเปลี่ยนเป็นเราอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- การเสียภาษี : หากไม่ได้มีการแจ้งโอนกรรมสิทธิ์ เจ้าของเดิมอาจจะต้องรับผิดชอบในการเสียภาษีรถประจำปีแทนเจ้าของคนใหม่
- การทำประกันภัย : บริษัทประกันภัยอาจปฏิเสธการเคลมหากพบว่าไม่ได้มีการแจ้งโอนกรรมสิทธิ์รถ
- การขายรถต่อ : หากเราต้องการที่จะขายรถต่อ การมีชื่อเราในทะเบียนรถจะทำให้กระบวนการขายรถเป็นไปอย่างราบรื่น
สิ่งที่ต้องระวัง
- หากไม่แจ้งโอนกรรมสิทธิ์รถภายใน 15 วัน ตามกฎหมายกำหนดอาจมีค่าปรับ
- การไม่แจ้งโอนกรรมสิทธิ์รถอาจทำให้เกิดปัญหากับการทำประกันภัยหรือการขายรถในอนาคตได้
การแจ้งกรมการขนส่งทางบกเป็นขั้นตอนที่จำเป็นและสำคัญหลังจากซื้อรถมือสอง เพื่อให้เราเป็นเจ้าของรถอย่างถูกต้องตามกฎหมายและเพื่อหลีกเลี่ยงในการเกิดปัญหาในอนาคตได้นะครับ หากสนใจทำประกันภัยกับ ยิ้มได้ประกันภัย โทร 02-432-2345 หรือ ID LINE : @yimdai ได้เลยครับ เช็กเบี้ยออนไลน์ คลิก