บรรทุกของเกินขนาด ต้องระวัง! ไม่ปลอดภัยและผิดกฎหมาย

บรรทุกของเกินขนาด ต้องระวัง! ไม่ปลอดภัยและผิดกฎหมาย

23/11/2023

   ส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้รถบรรทุกในการบรรทุกของไม่ว่าจะใช้ในการทำมาหากินหรือใช้ในครอบครัว การที่บรรทุกของมากหรือหนักจนเกินไปอาจทำให้เป็นอันตรายได้นะครับ

เคลมประกันชั้นไหนได้บ้าง? หากเกิดเหตุขับรถตกหลุม คลิก

 

อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

 

  • บดบังวิสัยทัศน์ ด้วยสิ่งของที่ถูกบรรทุกมีมากจนเกินไป ทำให้ล้นออกทุกทิศทางจนมองไม่เห็นรถที่ตามมาจากด้านหลังหรือด้านข้าง อันตรายทั้งต่อตัวเราเองรวมถึงเพื่อนร่วมทางด้วยนะครับ
  • เสี่ยงเกิดยางระเบิด หากบรรทุกของเกินอาจทำให้เกิดยางระเบิดหรือเสียหายได้ เพราะด้วยการบรรทุกที่เกินสมรรถนะของยางและช่วงล่างที่รับน้ำหนักไม่ไหว
  • อายุการใช้งานของยางลดลง การบรรทุกน้ำหนักเกินอัตราส่งผลทำให้การเคลื่อนไหวของหน้ายางมีมากขึ้น และยังทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนระหว่างหน้ายางกับโครงยางลดลง ยางเกิดการสึกหรอเร็วขึ้นกว่าปกติ
  • รถเสียสมดุล ด้วยบรรทุกของหนักเกินอัตราทำให้รถเสียความสมดุลกับการถ่ายน้ำหนัก ทำให้รถตอนหน้าเบาจนล้อหน้าขาดแรงยึดเกาะถนน เมื่อเลี้ยวทำให้เลี้ยวยากหรือเบรกยาก หากมีรถตัดหน้าหรือถนนลื่นโอกาสเสียหลักได้ง่าย

ใช้ผิดอาจเกิดอุบัติเหตุได้ หยุด! พฤติกรรมการใช้ไฟฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น คลิก

 

บรรทุกในถูกกฎหมาย

   นอกจากบรรทุกของเกินขนาดทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายแล้ว ยังมีความผิดตามกฎหมายอีกด้วยนะครับ เพราะโดยทั่วไปแล้วรถกระบะจะสามารถบรรทุกได้ 1 ตัน หรือ 1,000 กิโลกรัม ตาม พ.ร.บ. การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 แต่จะมีหลายรูปแบบที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นสองตอนหรือตอนเดียว ซึ่งสามารถทำการจดทะเบียนเพื่อการพาณิชย์ได้ ถ้าไม่อยากได้ใบสั่งแนะนำให้บรรทุกให้ถูกตามที่กฎหมายกำหนดจะดีกว่านะครับ

ไม่ต้องตกใจ! หากยางเกิดรั่วในขณะที่คุณกำลังใช้งานอยู่ คลิก

  • ความกว้าง จะต้องไม่เกินความกว้างของตัวรถ
  • ความสูง รถกระบะบรรทุกได้สูงจากพื้นทางได้ไม่เกิน 3 เมตร ในกรณีที่รถมีความกว้างเกิน 2.3 เมตร ให้บรรทุกได้ไม่เกิน 4 เมตรจากพื้นทางครับ
  • ความยาว จาดด้านหน้ายื่นได้ไม่เกินหน้าหม้อรถ ด้านหลังยื่นพ้นจากตัวรถได้ไม่เกิน 2.5 เมตร โดยจะต้องติดธงสีแดงหรือไฟสัญญาณแสงสีแดง ให้รถคันหลังเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะที่ไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร
  • การป้องกัน จะต้องจัดให้มีสิ่งป้องกันสิ่งของไม่ให้ตกหล่นจากรถหรือปลิวไปจากรถ เพราะหากตกหล่นอาจก่อให้เกิดเหตุเดือนร้อนหรือเกินอันตรายแก่ผู้อื่นได้

เจอถนนแบบนี้ขับอย่างไร? กับทางเอก-ทางโท คลิก

ก่อนเดินทางอย่าลืมตรวจเช็ค "ยางอะไหล่" ยังพร้อมใช้งานหรือไม่? คลิก

 

   ในส่วนของเรื่องความเร็วก็สำคัญเหมือนกันนะครับ ควรที่จะขับในความเร็วปกติที่ไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนด และควรที่จะขับอยู่ในช่องซ้ายด้วยนะครับ แต่ถ้าท่านใดที่จะต้องบรรทุกของหนักเกิน 1 ตัน เจ้าของรถจะต้องทำการติดต่อกับสำนักงานขนส่งเพื่อของยื่นเรื่องขออนุญาตดัดแปลงรถกระบะ เช่น การเสริมแหนบ เปลี่ยนกระทะล้อ เพื่อให้สามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้น แล้วยังมีความปลอดภัย รวมไปถึงยังถูกตามกฎหมายอีกด้วยนะครับ

บทความอื่นๆ

คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

18/06/2025

การมีรถยนต์ส่วนตัวสักคันหนึ่ง นอกจากเรื่องของการขับขี่ที่ปลอดภัยแล้วสิ่งที่เจ้าของรถทุกท่านต้องรู้เลยก็คือ วิธีเคลมประกันภัยรถยนต์ ให้เร็วและไม่โดนเทจากบริษัทประกัน เพราะในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ ความรวดเร็วและความเข้าใจในขั้นตอนการเคลมเป็นสิ่งที่จะช่วยให้สถานการณ์ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้นั่นเองครับ

อ่านต่อ
รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

17/06/2025

อีกหนึ่งระบบในความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ แต่หลายท่านมักจะมองข้ามไปหรือรอจนเกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลังเมื่อสายไปแล้ว ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเราและเพื่อนร่วมทางควรทำอย่างไรบ้างมาดูกันเลยครับ

อ่านต่อ
ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

14/06/2025

ข้อเท็จจริงที่คนมีรถต้องรู้ ก่อนที่จะตัดสินใจไม่ซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 การมีรถยนต์ส่วนตัวในยุคนี้แทบจะกลายเป็นปัจจัย 5 ของชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความสะดวกสบายของตัวเราเองทั้งในการเดินทาง ช่วยประหยัดเวลา ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่คำถามที่ตามมาสำหรับเจ้าของรถก็คือ จำเป็นต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือไม่? ยิ่งในปัจจัยนี้ที่ต้องประหยัดทุกบาททุกสตางค์ สำหรับคำตอบที่เข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งข้อดีและข้อเสีย และสิ่งที่ควรพิจราณก่อนตัดสินใจมีอะไรบ้าง แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายบังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่กฎหมายบังคับเฉพาะ พ.ร.บ. เท่านั้น แต่การตัดสินใจทำหรือไม่ทำก็ขึ้นอยู่กับบความเสี่ยงและความพร้อมในการรับผิดชอบของเจ้าของรถนั่นเองครับ

อ่านต่อ
Uto