ส่วนใหญ่แล้วเราจะใช้รถบรรทุกในการบรรทุกของไม่ว่าจะใช้ในการทำมาหากินหรือใช้ในครอบครัว การที่บรรทุกของมากหรือหนักจนเกินไปอาจทำให้เป็นอันตรายได้นะครับ
เคลมประกันชั้นไหนได้บ้าง? หากเกิดเหตุขับรถตกหลุม คลิก
อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
- บดบังวิสัยทัศน์ ด้วยสิ่งของที่ถูกบรรทุกมีมากจนเกินไป ทำให้ล้นออกทุกทิศทางจนมองไม่เห็นรถที่ตามมาจากด้านหลังหรือด้านข้าง อันตรายทั้งต่อตัวเราเองรวมถึงเพื่อนร่วมทางด้วยนะครับ
- เสี่ยงเกิดยางระเบิด หากบรรทุกของเกินอาจทำให้เกิดยางระเบิดหรือเสียหายได้ เพราะด้วยการบรรทุกที่เกินสมรรถนะของยางและช่วงล่างที่รับน้ำหนักไม่ไหว
- อายุการใช้งานของยางลดลง การบรรทุกน้ำหนักเกินอัตราส่งผลทำให้การเคลื่อนไหวของหน้ายางมีมากขึ้น และยังทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนระหว่างหน้ายางกับโครงยางลดลง ยางเกิดการสึกหรอเร็วขึ้นกว่าปกติ
- รถเสียสมดุล ด้วยบรรทุกของหนักเกินอัตราทำให้รถเสียความสมดุลกับการถ่ายน้ำหนัก ทำให้รถตอนหน้าเบาจนล้อหน้าขาดแรงยึดเกาะถนน เมื่อเลี้ยวทำให้เลี้ยวยากหรือเบรกยาก หากมีรถตัดหน้าหรือถนนลื่นโอกาสเสียหลักได้ง่าย
ใช้ผิดอาจเกิดอุบัติเหตุได้ หยุด! พฤติกรรมการใช้ไฟฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น คลิก
บรรทุกในถูกกฎหมาย
นอกจากบรรทุกของเกินขนาดทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายแล้ว ยังมีความผิดตามกฎหมายอีกด้วยนะครับ เพราะโดยทั่วไปแล้วรถกระบะจะสามารถบรรทุกได้ 1 ตัน หรือ 1,000 กิโลกรัม ตาม พ.ร.บ. การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 แต่จะมีหลายรูปแบบที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นสองตอนหรือตอนเดียว ซึ่งสามารถทำการจดทะเบียนเพื่อการพาณิชย์ได้ ถ้าไม่อยากได้ใบสั่งแนะนำให้บรรทุกให้ถูกตามที่กฎหมายกำหนดจะดีกว่านะครับ
ไม่ต้องตกใจ! หากยางเกิดรั่วในขณะที่คุณกำลังใช้งานอยู่ คลิก
- ความกว้าง จะต้องไม่เกินความกว้างของตัวรถ
- ความสูง รถกระบะบรรทุกได้สูงจากพื้นทางได้ไม่เกิน 3 เมตร ในกรณีที่รถมีความกว้างเกิน 2.3 เมตร ให้บรรทุกได้ไม่เกิน 4 เมตรจากพื้นทางครับ
- ความยาว จาดด้านหน้ายื่นได้ไม่เกินหน้าหม้อรถ ด้านหลังยื่นพ้นจากตัวรถได้ไม่เกิน 2.5 เมตร โดยจะต้องติดธงสีแดงหรือไฟสัญญาณแสงสีแดง ให้รถคันหลังเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะที่ไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร
- การป้องกัน จะต้องจัดให้มีสิ่งป้องกันสิ่งของไม่ให้ตกหล่นจากรถหรือปลิวไปจากรถ เพราะหากตกหล่นอาจก่อให้เกิดเหตุเดือนร้อนหรือเกินอันตรายแก่ผู้อื่นได้
เจอถนนแบบนี้ขับอย่างไร? กับทางเอก-ทางโท คลิก
ก่อนเดินทางอย่าลืมตรวจเช็ค "ยางอะไหล่" ยังพร้อมใช้งานหรือไม่? คลิก
ในส่วนของเรื่องความเร็วก็สำคัญเหมือนกันนะครับ ควรที่จะขับในความเร็วปกติที่ไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนด และควรที่จะขับอยู่ในช่องซ้ายด้วยนะครับ แต่ถ้าท่านใดที่จะต้องบรรทุกของหนักเกิน 1 ตัน เจ้าของรถจะต้องทำการติดต่อกับสำนักงานขนส่งเพื่อของยื่นเรื่องขออนุญาตดัดแปลงรถกระบะ เช่น การเสริมแหนบ เปลี่ยนกระทะล้อ เพื่อให้สามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้น แล้วยังมีความปลอดภัย รวมไปถึงยังถูกตามกฎหมายอีกด้วยนะครับ