เติมลมไนโตรเจน
เป็นการเติมก๊าซไนโตรเจนที่มีความบริสุทธิ์สูงเกือบ 100% เข้าไปในยางรถยนต์แทนที่ลมธรรมดาทั่วไป ซึ่งการเติมลมไนโตรเจนได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีข้อดีหลายๆ อย่าง และยังส่งผลต่อประสิทธิภาพรวมไปถึงอายุการใช้งานของยางรถยนต์อีกด้วยนะครับ
รถเหินน้ำ! เมื่อเกิดจะต้องรับมือและวิธีป้องกันควรทำอย่างไร คลิก
ข้อดีที่ควรรู้ เมื่อเติมลมยางด้วยลมไนโตรเจน
- รักษาระดับแรงดันลมได้ดีกว่า : โมเลกุลของไนโตรเจนมีขนาดใหญ่กว่าและเคลื่อนที่ช้ากว่าโมเลกุลของก๊าซอื่นๆ ทำให้การรั่วซึมออกจากยางได้ช้ากว่า จึงทำให้ช่วยรักษาระดับแรงดันลมให้คงที่ได้นานมากขึ้น
- ลดการเสื่อมสภาพของยาง : การรักษาระดับแรงดันลมยางให้เหมาะสมจะช่วยลดการเสียดสีภายในยางรถยนต์ได้ ทั้งช่วยลดความร้อน ลดการเกิดสนิมเนื่องจากไม่มีความชื้นเข้าไป และช่วยให้ยางมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น
- เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ : แรงดันลมยางที่คงที่จะช่วยให้ยางเกาะถนนได้ดีมากขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการสูญเสียการควบคุมรถ
- ประหยัดน้ำมัน : การรักษาระดับแรงดันลมที่เหมาะสมช่วยลดแรงต้านทานในการหมุนของล้อ ทำให้ช่วยประหยัดน้ำมันได้มาขึ้นนั่นเอง
- ลดความร้อนภายในยาง : ไนโตรเจนมีความเฉื่อยต่อปฏิกิริยาทางเคมีหรือไม่ว่องไวต่อปฏิกิริยาเคมี จึงทำให้เกิดความร้อนภายในยางน้อยลงนั่นเองครับ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดยางระเบิดได้
เติมลมไนโตรเจน เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ขับขี่รถเป็นระยะทางไกล เพราะจะช่วยรักษาระดับแรงดันลมให้คงที่ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ
- ผู้ที่ต้องการยืดอายุการใช้งานของยาง ด้วยการเติมลมไนโตรเจนนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางได้ยาวนานกว่าการเติมลมธรรมดา
- ผู้ที่ใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่
ควรตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำ ไม่ว่าจะเติมลมยางด้วยชนิดใดก็ตามก็ควรมีการตรวจสอบแรงดันลมยางนะครับ และหากเป็นเราที่เติมลมยางเองควรเลือกปั๊มลมทีได้มาตรฐานและมีเกจวัดแรงดันลมที่แม่นยำ
เลือกใช้ให้เหมาะ! ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อ มีความแตกต่าง คลิก
การเติมแรงดันลมยางที่ต่ำหรือสูงเกินไปส่งผลกระทบต่อการขับขี่และอายุการใช้งานของยาง หากเราต้องการขับขี่อย่างปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน ดังนั้นการรักษาระดับแรงดันลมในยางให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ นะครับ
ก่อนเดินทางอย่าลืมตรวจเช็ค "ยางอะไหล่" ยังพร้อมใช้งานหรือไม่? คลิก
ผลกระทบเมื่อแรงดันลมยาง “ต่ำเกินไป”
- การยึดเกาะถนนลดลง : เมื่อแรงดันลมยางต่ำ ยางจะสัมผัสกับพื้นถนนมากยิ่งขึ้น จะยิ่งทำให้เกิดความร้อนและการเสียดสีที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การยึดเกาะถนนลดลงโดยเฉพาะในขณะที่กำลังเข้าโค้งหรือเบรกนั่นเองครับ
- อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่เพิ่มขึ้น : ยางที่อ่อนตัวจะทำให้เกิดแรงต้านในการหมุนที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เครื่องยนต์จะต้องทำงานหนักขึ้นและอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันก็มากขึ้น
- ยางสึกหรอเร็ว : ส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนนของยางจะสึกหรอเร็วขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากแรงกดที่เพิ่มมากขึ้น
- เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ : การยึดเกาะถนนที่ลดลงอาจทำให้รถเสียการควบคุมและอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพถนนที่เปียกหรือลื่น
- เกิดความร้อนในยาง : เมื่อแรงดันลมยางต่ำยังทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้นแล้วยังทำให้เกิดการระเบิดได้อีกด้วย
ยางรถยนต์มีวันหมดอายุด้วยนะ รู้หรือไม่? คลิก
ผลกระทบเมื่อแรงดันลมยาง “สูงเกินไป”
- การยึดเกาะถนนลดลง : เมื่อแรงดันลมสูงเกินไป ส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนนของยางจะลดลง ทำให้การยึดเกาะถนนลดลง โดยเฉพาะในขณะเข้าโค้งหรือเบรก
- ความนุ่มนวลในการขับขี่ลดลง : ยางที่แข็งจะทำให้รู้สึกถึงแรงกระแทกจากถนนได้มากขึ้น ทำให้การขับขี่ที่ไม่สบาย
- ดอกยางสึกหรอไม่สม่ำเสมอ : ส่วนกลางของดอกยางจะสึกหรอเร็วขึ้น เนื่องจากรับน้ำหนักมากขึ้น
- ความเสี่ยงต่อการเสียหายของยาง : ยางที่แข็งจะเสียหายได้ง่ายๆ เมื่อเจอกับหลุมบ่อหรือสิ่งกีดขวาง
การเติมลมไนโตรเจนเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ผู้ที่ต้องการดูแลรักษายางรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการเติมลมสูงกว่าการเติมลมทั่วไปก็ตาม แต่ในบางสถานที่ก็มีบริการเติมลมไนโตรเจนให้ฟรีอยู่นะครับ แต่อยากจะบอกว่าการเติมลมไนโตรเจนมีข้อดีที่ได้ผลตอบรับกลับมาคุ้มกว่าแน่นอน
ความแตกต่าง! เติมลมแบบไนโตรเจน VS เติมลมธรรมดา และข้อดีของการเติมลมแต่ละแบบเป็นอย่างไร คลิก
สำหรับท่านใดที่ต้องการนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการที่ ยูไนเต็ด ฮอนด้า สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ช่องทาง Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ