รถทุกประเภท! เริ่มใช้ระบบตัดคะแนน จนเหลือ 0 จะถูกพักใช้ใบขับขี่เป็นเวลา 90 วัน เริ่ม 9 มกราคม 2566

รถทุกประเภท! เริ่มใช้ระบบตัดคะแนน จนเหลือ 0 จะถูกพักใช้ใบขับขี่เป็นเวลา 90 วัน เริ่ม 9 มกราคม 2566

09/12/2022

   เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้มีการแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถหรือระบบตัดแต้ม และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อสร้างระบบให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมาตรฐานสากล โดยระบบบันทึกคะแนนความประพฤติกำหนดไว้ใน “ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับอนุญาตขับขี่ พ.ศ. 2565” ซึ่งออกตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 142/1 โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มกราคม 2566 ซึ่งจะเป็นมาตรการเสริมในการสร้างวินัยการขับขี่เพิ่มเติมจากการออกใบสั่งเพื่อบังคับใช้กฎหมายตามปกติ ภายใต้สโลแกน “มุ่งเน้นการสร้างวินัยการขับขี่ปลอดภัย ให้โอกาสแก้ไขไม่กระทำผิดซ้ำ สร้างความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย และเป็นมาตรฐาน”

สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการขับรถก็คือ “ใบขับขี่” และข้อควรรู้! ก่อนทำใบขับขี่ คลิก

 

   โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้กล่าวว่า สาระสำคัญของระบบนี้ก็คือ กำหนดให้ผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่แต่ละราย จะมีคะแนนความประพฤติคนละ 12 คะแนน (ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม) หากทำความผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด

 

6 เรื่องต้องรู้ ระบบตัดคะแนนหรือตัดแต้มใบขับขี่ปี 2566

  • ขับรถต้องมีใบขับขี่ โดยผู้ขับขี่ทุกคนมี 12 คะแนน
  • ทำผิดกฎจราจรใน 20 ฐานความผิดที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรือไม่ชำระค่าปรับจราจร ถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 1-4 คะแนน ขึ้นอยู่กับความผิด
  • หากถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 จะถูกพักใช้ใบขับขี่เป็นเวลา 90 วัน
  • ฝ่าฝืนขับรถในช่วงถูกพักใบขับขี่ มีโทษจำคุก 3 เดือน และ/หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
  • คืนคะแนนได้ด้วยการเข้าอบรมกับกรมการขนส่งทางบกหรือรอให้ครบ 1 ปี จะได้คะแนนคืนอัตโนมัติ
  • หากถูกพักใช้ใบขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายในรอบ 3 ปี อาจถูกพักใช้ใบขับขี่มากกว่า 90 วัน และหลักจากนั้นภายใน 1 ปี หากถูกตัดคะแนนอีกจนถูกพักใช้ใบขับขี่เป็นครั้งที่ 4 อาจถูกเพิกถอนใบขับขี่ทุกประเภท

 

การตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถสำหรับการตัดคะแนนทันทีที่ทำผิด

 

   ตัด 1 คะแนน

  • ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
  • ไม่สวมหมวกกันน็อค
  • ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
  • ขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด
  • ขับรถบนทางเท้า
  • ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย
  • ไม่หลบรถฉุกเฉิน
  • ขับรถโดยประมาทน่าหวาดเสียว
  • ขับรถไม่ติดป้ายทะเบียนหรือเปลี่ยนแปลง ปิดบัง
  • ไม่ติดป้ายภาษี

รู้หรือไม่? พ.ร.บ. กับ ป้ายภาษี แตกต่างกัน คลิก

 

   ตัด 2 คะแนน

  • ขับรถฝ่าไฟแดง
  • ขับรถย้อนศร
  • ขับรถในระหว่างโดนพักใช้หรือเพิกถอนใบขับขี่

 

   ตัด 3 คะแนน

  • ขับรถในขณะหย่อนความสามารถ
  • ขับผิดวิสัยคนขับธรรมดา
  • ขับรถชนแล้วหนี

 

   ตัด 4 คะแนน

  • เมาแล้วขับ
  • ขับรถในขณะเสพยาเสพติด
  • แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น

ควรรู้! สำหรับค่าปรับจราจรในปัจจุบัน คลิก

 

ตัดคะแนนในการขับรถ ตัดคะแนนเมื่อไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่ง ค้างชำระ 1 ใบสั่ง ตัด 1 คะแนน

  • ฝ่าฝืนเครื่องหมายในทาง
  • ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่
  • ขับรถไม่ชิดซ้าย
  • จอดในที่ห้ามจอด

 

คะแนนที่ถูกตัด คืนคะแนนได้ คะแนนที่ถูกตัดในแต่ละครั้ง เมื่อครบ 1 ปี จะได้รับคืนอัตโนมัติ

 

   อบรมกับกรมการขนส่งทางบก

  • เมื่ออบรมเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน เข้าอบรมเพื่อคืนคะแนนได้ แต่ทำได้ปีละ 2 ครั้ง เท่านั้น
  • อบรมครั้งแรกได้คืนไม่เกิน 12 คะแนน ครั้งที่ 2 ได้คืนไม่เกิน 6 คะแนน

ขั้นตอนง่ายๆ กับการต่อใบขับขี่ออนไลน์ คลิก

   กรณีคะแนนเหลือ 0 จนถูกสั่งพักใบขับขี่ 90 วัน หากเข้าร่วมการอบรม

  • อบรมผ่านจะได้คืน 12 คะแนนทันที
  • อบรมไม่ผ่าน/ไม่เข้ารับการอบรม จะได้คืนเพียง 8 คะแนน หากครบ 1 ปี ไม่ทำผิดกฎจราจรอีก จะได้คืน 4 คะแนนที่เหลือ

 

   “การตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ เรายึดหลักความโปร่งใส และความเท่าเทียมกัน โดยให้โอกาสปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรม และป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ตามมาตรฐานสากลเพื่อลดอุบัติ และสร้างความปลอดภัยให้ทุกคน” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้กล่าวไว้

 

เช็คง่ายๆ กับใบสั่งจราจรออนไลน์ คลิก

   วิธีการตัดคะแนนนั้นจะดำเนินการโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ระบบฐานข้อมูลใบสั่ง PTM ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการบันทึกการทำผิดกฎจราจร และตัดคะแนนในแต่ละครั้ง การสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ สำหรับช่องทางการตรวจสอบคะแนนมีดังนี้

  1. เว็บไซต์ E-Ticket PTM ซึ่งพัฒนาโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) สามารถตรวจสอบใบสั่งค้างชำระ จ่ายค่าปรับ ตรวจสอบคะแนนความประพฤติ และตรวจสอบสถานะใบขับขี่
  2. แอปพลิเคชัน ขับดี (KHUB DEE) ซึ่งพัฒนาโดย NT เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสาร และตรวจสอบใบสั่งค้างชำระ และคะแนนความประพฤติดี และดำเนินการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่อันเป็นประโยชน์ต่างๆ ที่ทันสมัย
  3. แอปพลิเคชัน เป๋าตัง ให้บริการชำระค่าปรับระบบออนไลน์

 

เตือนแล้วนะ! ใช้ป้ายแดงปลอมมีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม คลิก

 

   อย่างไรก็ตามในการขับขี่รถบนท้องถนนจะต้องใช้ความระมัดระวังด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัยต่อตัวท่านเองและเพื่อนร่วมทาง และสิ่งที่สำคัญจะต้องรักษากฎจราจรอย่างเคร่งครัดด้วยนะครับ เพราะไม่อย่างนั้นอาจทำให้เสียประวัติและเงินทองได้นั่นเองครับ


NEW CIVIC e:HEV

เริ่มต้น 1,099,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 11,000 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

18/06/2025

การมีรถยนต์ส่วนตัวสักคันหนึ่ง นอกจากเรื่องของการขับขี่ที่ปลอดภัยแล้วสิ่งที่เจ้าของรถทุกท่านต้องรู้เลยก็คือ วิธีเคลมประกันภัยรถยนต์ ให้เร็วและไม่โดนเทจากบริษัทประกัน เพราะในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ ความรวดเร็วและความเข้าใจในขั้นตอนการเคลมเป็นสิ่งที่จะช่วยให้สถานการณ์ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้นั่นเองครับ

อ่านต่อ
รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

17/06/2025

อีกหนึ่งระบบในความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ แต่หลายท่านมักจะมองข้ามไปหรือรอจนเกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลังเมื่อสายไปแล้ว ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเราและเพื่อนร่วมทางควรทำอย่างไรบ้างมาดูกันเลยครับ

อ่านต่อ
ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

14/06/2025

ข้อเท็จจริงที่คนมีรถต้องรู้ ก่อนที่จะตัดสินใจไม่ซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 การมีรถยนต์ส่วนตัวในยุคนี้แทบจะกลายเป็นปัจจัย 5 ของชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความสะดวกสบายของตัวเราเองทั้งในการเดินทาง ช่วยประหยัดเวลา ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่คำถามที่ตามมาสำหรับเจ้าของรถก็คือ จำเป็นต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือไม่? ยิ่งในปัจจัยนี้ที่ต้องประหยัดทุกบาททุกสตางค์ สำหรับคำตอบที่เข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งข้อดีและข้อเสีย และสิ่งที่ควรพิจราณก่อนตัดสินใจมีอะไรบ้าง แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายบังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่กฎหมายบังคับเฉพาะ พ.ร.บ. เท่านั้น แต่การตัดสินใจทำหรือไม่ทำก็ขึ้นอยู่กับบความเสี่ยงและความพร้อมในการรับผิดชอบของเจ้าของรถนั่นเองครับ

อ่านต่อ
Uto