รู้หรือไม่! ของเหลวภายในรถยนต์ที่จะต้องดูแลเป็นประจำมีอะไรบ้าง?

รู้หรือไม่! ของเหลวภายในรถยนต์ที่จะต้องดูแลเป็นประจำมีอะไรบ้าง?

11/06/2024

   เครื่องยนต์เป็นหัวใจหลักในการทำงานของรถยนต์ รวมไปถึงน้ำมันหล่อลื่นที่ช่วยให้หล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเครื่องยนต์มีอุปกรณ์ที่เป็นฟันเฟืองอยู่จำนวนมากจึงทำให้เกิดการเสียดสีกันไปมาอยู่ตลอดเวลา ทำให้สึกหรอได้ ซึ่งน้ำมันหล่อลื่นนี้ได้ถูกจำแนกเป็นหลากหลายประเภทอย่างเช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ ฯลฯ และแต่ละประเภทมีระยะการเปลี่ยนที่แตกต่างกันไปตามอายุการใช้งาน

 

เพื่อความปลอดภัย!

ต้องตรวจเช็กและเปลี่ยนถ่าย

 

น้ำมันเครื่อง

   ทั่วไปแล้วน้ำมันเครื่องจะมีระยะการเปลี่ยนถ่ายอยู่ที่ 8,000-10,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 6 เดือน แต่ถ้ารถของเราใช้งานอยู่บ่อยๆ หรือวิ่งทางไกลแนะนำให้เปลี่ยนทุกๆ 3 เดือน หรือสัปดาห์ละครั้ง เพื่อเช็กระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยจะต้องไม่ต่ำกว่า MIN และไม่เกินขีด MAX สามารถสังเกตได้ที่ก้านวัดน้ำมันเครื่อง หากระดับน้ำมันเครื่องต่ำกว่าขีดที่กำหนดจะส่งผลให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าปกติ และถ้าสูงเกินขีดที่กำหนดจะส่งผลให้มีควันที่ขาวมากกว่าปกติซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เพราะน้ำมันเครื่องทะลักเข้าไปในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์

หัวร้อน! เจออากาศที่ร้อนจากภายนอกแล้ว ต้องมาเจอปัญหาแอร์ในรถยนต์ไม่เย็น คลิก

 

น้ำมันเพาเวอร์หรือน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์

   ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อาจจะไม่ค่อยได้ยินชื่อนี้แล้วเพราะในรถยนต์ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องใช้แล้วเนื่องจากเป็นพวงมาลัยไฟฟ้าทั้งหมด แต่สำหรับรถยนต์ที่ใช้พวงมาลัยเพาเวอร์ไฮดรอลิกนั้น น้ำมันเพาเวอร์เป็นสิ่งที่ควรหมั่นเติมและตรวจเช็กให้อยู่ในระดับปกติ และไม่ควรเติมมากจนเกินไปนะครับ เพราะเมื่อน้ำมันได้รับความร้อนเกิดจะถูกขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม สำหรับระยะการเปลี่ยนถ่ายควรเปลี่ยนทุกๆ 1 ปี หรือทุกๆ 80,000 กิโลเมตร หากไม่ได้เปลี่ยนตามระยะที่กำหนดจะส่งผลให้การบังคับเลี้ยวของพวงมาลัยทำได้ยากมากขึ้น เนื่องจากลูกสูบภายในเฟืองขับและเฟืองสะพานที่เชื่อมต่อกับล้อหน้านั้นเคลื่อนที่ตามแรงดันน้ำมันจากปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์ที่ทำหน้าที่ช่วยหมุนพวงมาลัยนั่นเองครับ

จอดพักรถก่อนที่จะเกิดอันตราย! ยิ่งขับไกลยิ่งต้องจอดพัก คลิก

 

น้ำมันเบรก

   เบรกเป็นส่วนที่สำคัญมากๆ เลยนะครับ สำหรับผู้ที่ใช้งานรถยนต์ทั่วไปควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทุกๆ 40,000 กิโลเมตร แต่ถ้าเป็นผู้ที่ใช้งานรถยนต์ขึ้น-ลงเขาอยู่เป็นประจำ ที่จะต้องคอยเยียบเบรกอยู่บ่อยๆ ซึ่งทำให้น้ำมันเบรกเสื่อมคุณภาพเร็วกว่าปกติสามารถสังเกตได้จากอาการเบรกจม หรือเมื่อเยียบเบรกแล้วมีความรู้สึกว่าเบรกไม่ค่อยอยู่ หรือต้องเยียบเบรกซ้ำๆ หลายรอบ ควรนำรถเข้าตรวจเช็กทันทีครับ

 

น้ำมันเกียร์

   ไม่ว่าจะเป็นเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ธรรมดาจะมีรอบเปลี่ยนอยู่ที่ทุกๆ 40,000 กิโลเมตร หรือทุก 2 ปี หรือถ้าผู้ขับขี่มีพฤติกรรมในการขับขี่ที่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ จะต้องทำการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เร็วกว่าปกติที่ระยะ 10,000-20,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 1 ปี เพราะน้ำมันเกียร์เป็นตัวช่วยในการชะล้างเศษโลหะ คราบเขม่าที่สะสมจากการใช้งานเป็นเวลานาน ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการหล่อลื่นลดน้อยลงนั่นเองครับ

ครั้งแรก! กับการขับรถทางไกล จะต้องเช็กอะไรบ้างก่อนออกเดินทาง คลิก

 

น้ำยาหล่อเย็นหรือน้ำยาเติมหม้อน้ำ

   หน้าที่หลักๆ เลยก็คือช่วยทำให้จุดเดือดของน้ำภายในหม้อน้ำที่ถูกผสมน้ำยาหล่อเย็นสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำที่อยู่ภายในเดือดช้าลง อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดสนิม ตะกรัน ตะกอน ดังนั้นควรตรวจสอบระดับภายในหม้อน้ำทุกสัปดาห์ และควรเปลี่ยนถ่ายออกทุกๆ 6 หรือ 9 เดือน หรือทุกๆ 50,000 กิโลเมตร 

การเติมน้ำมันดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าเติมผิดขึ้นมาอาจทำให้รถพังได้! คลิก

 

น้ำยาฉีดกระจก

   สำหรับน้ำยาฉีดกระจกเป็นของเหลวที่สามารถเติมเองได้เลยนะครับ สามารถเติมน้ำเปล่าหรือจะผสมกับน้ำยาฉีดกระจกตามอัตราส่วนที่เหมาะสมได้ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดพวกคราบฝุ่น คราบแมลงหรือขี้นกที่ติดอยู่บนกระจกครับ ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ชัดมากขึ้น หากเป็นผู้ที่ใช้น้ำยาฉีดกระจกเป็นประจำควรหมั่นเติมทุกๆ สัปดาห์

แบตเตอรี่สำคัญขนาดไหน! วิธีเซฟให้ใช้แบตเตอรี่ได้นานกว่าเดิม คลิก

 

   ถึงแม้จะเป็นเพียงของเหลวแต่ของเหลวเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้นนะครับ เพราะช่วยในการขับเคลื่อนรถยนต์ของเรา ดังนั้นจะต้องคอยดูแลอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรละเลยเด็ดขาดนะครับ สามารถนำรถเข้ามาที่ศูนย์บริการ ยูไนเต็ด ฮอนด้า ได้นะครับ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ฮอนด้าสามารถติดต่อได้ที่ Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ


NEW CITY HATCHBACK e:HEV

เริ่มต้น 729,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 7,800 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

จุดอับสายตาเสี่ยงเกิดอันตราย มีจุดไหนบ้างที่ต้องระวัง

จุดอับสายตาเสี่ยงเกิดอันตราย มีจุดไหนบ้างที่ต้องระวัง

14/09/2024

การขับขี่รถยนต์ไม่ว่าจะรถประเภทใดก็ตามทั้งคันเล็กคันใหญ่ สิ่งสำคัญคือทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ หากมองไม่เห็นยานพาหนะหรือวัตถุชนิดอื่นๆ ที่อยู่ใกล้รถเราอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ไม่ว่าเราจะระวังมากแค่ไหนก็อาจจะเกิดขึ้นได้นะครับ เพราะการขับขี่จะมีจุดบอดหรือจุดอับสายตา ซึ่งเป็นบริเวณที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และยิ่งในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนช่องทางเดินรถหรือเข้าทางแยกยิ่งมีความเสี่ยงๆ มากเลยครับ

อ่านต่อ
อย่าชะล่าใจ! ขับรถลุยน้ำท่วมแล้วดับกลางน้ำท่วม เสี่ยงเครื่องพัง

อย่าชะล่าใจ! ขับรถลุยน้ำท่วมแล้วดับกลางน้ำท่วม เสี่ยงเครื่องพัง

10/09/2024

ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่เสี่ยงเกิดอันตรายจากอุบัติบนท้องถนนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมขังยิ่งในบริเวณที่มีหลุมหรือบ่อน้อยๆ แล้วมีน้ำท่วมขังอยู่ ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้ว่านั้นเป็นหลุมหรือบ่อ ทำให้ขับผ่านไปโดยไม่ได้ระวัง นอกจากหน้าฝนแล้วยังเกิดวิกฤตน้ำท่วมอีกด้วย ที่พักอาศัยบางท่านอาจเกิดกับวิกฤตน้ำท่วมทั้งระดับน้ำที่ไม่สูงมากที่พอจะขับลุยน้ำไปได้กับบางท่านเจอน้ำท่วมสูงที่จะต้องขับลุยน้ำท่วมซึ่งเสี่ยงมากๆ เลยนะครับ

อ่านต่อ
เหยียบเท่าไรก็ไม่ขึ้น ทำอย่างไรหากรถเร่งไม่ขึ้น?

เหยียบเท่าไรก็ไม่ขึ้น ทำอย่างไรหากรถเร่งไม่ขึ้น?

13/08/2024

หากใช้งานรถยนต์ไม่ว่าจะรถใหม่หรือเก่าแล้วเกิดอาการผิดปกติอย่างอาการรถเร่งไม่ขึ้น ให้รีบนำเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจเช็คนะครับ ส่วนใหญ่แล้วจะเสื่อมสภาพของระบบการทำงานหรืออุปกรณ์ภายในรถยนต์ สำหรับผู้ขับขี่ที่ใช้งานรถยนต์เป็นประจำจะต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่รถยนต์อย่างสม่ำเสมอ

อ่านต่อ
Uto