สิทธิ์ที่ต้องรู้! เคลมขั้นต่ำ 500 บาท/วัน สำหรับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

สิทธิ์ที่ต้องรู้! เคลมขั้นต่ำ 500 บาท/วัน สำหรับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

22/02/2023

   มีหนึ่งสิ่งที่บริษัทประกันไม่ได้บอกก็คือเรื่อง  ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ โดยเฉพาะสำหรับคู่กรณีที่เป็นฝ่ายถูกนั่นเองครับ เพราะปกติแล้วเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน สิ่งที่เราจะทำก็คือการติดต่อหาบริษัทประกันที่เราได้ทำไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงการเจรจาไกล่เกลี่ยว่าใครเป็นฝ่ายถูกหรือผิด จากนั้นจึงออกใบเคลมได้ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้มีเพียงเท่านี้นะครับ

อย่าชะล่าใจ! ขับรถลุยน้ำท่วมแล้วดับกลางน้ำท่วม เสี่ยงเครื่องพัง คลิก

 

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร

   สำหรับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถก็คือเงินสินไหมที่ทางบริษัทประกันภัยของผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายผิด จะมีหน้าที่รับผิดชอบแทนต่อคู่กรณีที่เป็นฝ่ายถูก หากรถยนต์อยู่ระหว่างเข้าซ่อมหรือไม่สามารถใช้งานรถยนต์ได้ ผู้ที่เป็นฝ่ายถูกสามารถนำบิล/ใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการเดินทางอย่างเช่น ค่าแท็กซี่ ค่ารถเมย์ ค่ารถไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งรถเช่า ค่าใช้จ่ายในระหว่างที่เราไม่สามารถใช้งานรถยนต์ได้ สามารถทำเรื่องเบิกกับบริษัทประกันของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดได้นะครับ 

จะเป็นอย่างไร? หากไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนด คลิก

   ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้มีการกำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ 2562 ของรถยนต์แต่ละประเภทไว้ดังนี้

ประเภทรถยนต์

ได้รับการชดใช้

รถยนต์ส่วนบุคคลที่ไม่เกิน 7 ที่นั่งไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท
รถยนต์รับจ้างสาธารณะที่มีขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่งไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท
รถยนต์ขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่งไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท

   สำหรับรถยนต์ประเภทอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในข้อที่ 1-3 อย่างเช่น รถจักรยานยนต์ ให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องและข้อตกลงได้ครับ โดยอาจพิจารณาหลักฐานเป็นกรณีไปนั่งเองครับ

 

ข้อดีสำหรับการทำประกันภัยรถยนต์ คลิก

ซ่อมห้าง หรือเรียกอีกอย่างว่า “ซ่อมศูนย์” แล้วทำไมต้องซ่อมศูนย์ ดีอย่างไร? คลิก

 

ใช้เอกสารใดบ้าง?

   สำหรับการเตรียมเอกสารนี้เป็นเพียงเอกสารเบื้องต้นที่ควรเตรียมเอาไว้ให้พร้อม ซึ่งบางบริษัทประกันอาจจะใช้หรือไม่ใช้เอกสารบางส่วนก็ได้นะครับ แต่ถ้าหากเตรียมเอาไว้ให้พร้อมจะได้ไม่เสียเวลาในการติดต่อดำเนินการนั่นเองครับ และเอกสารที่ต้องเตรียมไว้มีดังนี้

  • เอกสารใบเคลม
  • เอกสารนำรถยนต์เข้าซ่อมที่ได้มีการกำหนดวันส่งรถ-รับรถไว้อย่างชัดเจน
  • สำเนาทะเบียนรถยนต์
  • สำเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาใบขับขี่รถยนต์
  • เอกสารประกอบการใช้รถยนต์ในแต่ละวัน (ถ้ามี)
  • ใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการเดินทางหรือค่าเช่ารถ ระหว่างที่รถยนต์ใช้ไม่ได้ (ถ้ามี)
  • สำเนาหน้าบัญชีธนาคาร
  • หนังสือเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถ

มือใหม่ต้องทำอย่างไร? หากเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องเคลมประกันครั้งแรกต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง คลิก

 

ขั้นตอนการขอค่าขาดประโยชน์ในการใช้รถ

  1. ติดต่อกับทางบริษัทประกันภัยของคู่กรณี (ฝ่ายผิด) จากนั้นให้การทำยืนยันคำเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ในการใช้รถในช่วงเวลาที่รถของคุณกำลังซ่อมอยู่
  2. เมื่อบริษัทของคู่กรณีแจ้งเอกสารที่ต้องการใช้มาให้แล้ว ให้ทำการส่งเอกสารต่างๆ ไปยังบริษัทประกันของคู่กรณีเพื่อดำเนินการต่อไป
  3. รอบริษัทประกันของคู่กรณีต่อติดกลับ เนื่องจากจะต้องใช้เวลาเพื่อพิจารณาว่าจะต้องชดเชยให้กับคุณเป็นจำนวนเท่าไร และทำการประเมิน เจรจาต่อรอง
  4. หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว รอรับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถภายใน 7 วันได้เลยครับ

   การเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถสามารถเรียกร้องได้ตั้งแต่วันที่เกิดอุบติเหตุได้เลยนะครับ ซึ่งจะได้เพียงแค่ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเท่านั้นไม่รวมไปถึงค่าขาดรายได้จากการทำงาน โดยสามารถเรียกร้องในส่วนนี้กับบริษัทประกันของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการต่อรองกับบริษัทประกันของคู่กรณี หากมีการต่อรองที่ไม่ลงตัวหรือเกิดปัญหาขัดแย้ง ทำให้ไม่สามารถได้ข้อตกลงได้ สามารถนำเรื่องไปเจรจาต่อที่สำนักงาน คปภ. ได้เลยนะครับ สำหรับขั้นตอนการแจ้งเรื่องกับทาง คปภ. เพื่อเรียกร้องค่าขาดประโยชน์มีดังนี้

  • ติดต่อสำนักงาน คปภ. 1186 หรือ 0-2515-3999
  • คปภ. จะใช้เวลาประมาณ 10-15 วัน ในการดำเนินการเรียกบริษัทประกันมาเจรจากับผู้ร้องเรียน
  • คปภ. จะช่วยแจ้งเรื่องและแนะแนวทางการจ่ายขั้นต่ำ 500 – 1,000 บาท แล้วแต่การพิจารณาขึ้นอยู่กับบริษัทประกันของคู่กรณี

***สำหรับวิธีนี้ คปภ. จะเป็นแค่ตัวกลางเท่านั้นนะครับ เพราะ คปภ. ไม่ได้มีอำนาจในการบังคับให้บริษัทประกันของคู่กรณีจะต้องจ่ายค่าชดเชยอะไรเพิ่มเติมนั่นเอง**

ทำประกันจนลืม...5 วิธี เช็กว่าทำประกันภัยไว้กับที่ไหน? คลิก

ทำความเข้าใจก่อนซื้อ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คลิก

   และเพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เมื่อเกิดอุบัติเหตุอย่าลืมเรียกร้องนะครับ แต่ทางที่ดีเมื่อใช้รถใช้ถนนจะต้องมีความระมัดระวังจะดีกว่านะครับ จะได้ไม่เสียเวลาและเพื่อความปลอดภัยอย่าลืมทำประกันภัยรถยนต์ติดไว้ด้วยนะครับ หากต้องการซื้อประกันภัยรถยนต์ ที่ ยูไนเต็ด ฮอนด้า Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ


NEW HONDA HR-V e:HEV

เริ่มต้น 949,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 96,000 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

18/06/2025

การมีรถยนต์ส่วนตัวสักคันหนึ่ง นอกจากเรื่องของการขับขี่ที่ปลอดภัยแล้วสิ่งที่เจ้าของรถทุกท่านต้องรู้เลยก็คือ วิธีเคลมประกันภัยรถยนต์ ให้เร็วและไม่โดนเทจากบริษัทประกัน เพราะในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ ความรวดเร็วและความเข้าใจในขั้นตอนการเคลมเป็นสิ่งที่จะช่วยให้สถานการณ์ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้นั่นเองครับ

อ่านต่อ
รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

17/06/2025

อีกหนึ่งระบบในความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ แต่หลายท่านมักจะมองข้ามไปหรือรอจนเกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลังเมื่อสายไปแล้ว ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเราและเพื่อนร่วมทางควรทำอย่างไรบ้างมาดูกันเลยครับ

อ่านต่อ
ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

14/06/2025

ข้อเท็จจริงที่คนมีรถต้องรู้ ก่อนที่จะตัดสินใจไม่ซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 การมีรถยนต์ส่วนตัวในยุคนี้แทบจะกลายเป็นปัจจัย 5 ของชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความสะดวกสบายของตัวเราเองทั้งในการเดินทาง ช่วยประหยัดเวลา ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่คำถามที่ตามมาสำหรับเจ้าของรถก็คือ จำเป็นต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือไม่? ยิ่งในปัจจัยนี้ที่ต้องประหยัดทุกบาททุกสตางค์ สำหรับคำตอบที่เข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งข้อดีและข้อเสีย และสิ่งที่ควรพิจราณก่อนตัดสินใจมีอะไรบ้าง แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายบังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่กฎหมายบังคับเฉพาะ พ.ร.บ. เท่านั้น แต่การตัดสินใจทำหรือไม่ทำก็ขึ้นอยู่กับบความเสี่ยงและความพร้อมในการรับผิดชอบของเจ้าของรถนั่นเองครับ

อ่านต่อ
Uto