ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนอยู่แล้ว ทุกวันนี้เราก็ต้องใช้รถยนต์ในการใช้ชีวิตประจำวันไม่ว่าจะขับรถไปทำงานหรือแม้กระทั่งไปเที่ยว แดดโดนตัวเราก็แสบแทบไหม้อยู่แล้วใช่ไหมล่ะครับ? แสงแดดมีรังสี UV ที่เป็นอันตรายไม่ว่าจะกับคนหรืออุปกรณ์ภายในรถ และหากถ้าขับรถไปข้างนอกแล้วต้องเจอแดดส่องเข้ามาในรถอีก แอร์ในรถยนต์ก็เอาไม่อยู่นะครับ

ขับรถระวังคน ข้ามถนนระวังรถ ไม่ระวัง! อาจเกิดอุบัติเหตุได้ คลิก
จำเป็นหรือไม่
การติดฟิล์มรถยนต์ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของแต่ละบุคคล
- ลดความร้อนจากแสงแดด : ฟิล์มรถยนต์จะสามารถช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ผ่านเข้ามาในรถ ทำให้รู้สึกไม่ร้อนจนเกินไป ลดการทำงานของแอร์
- ป้องกันรังสี UV : ฟิล์มรถยนต์สามารถป้องกันรังสี UV จากแสงแดดได้ถึง 99% ซึ่งจะช่วยป้องกันผิวหนังและดวงตาจากอันตรายของรังสี UV ได้
- ความเป็นส่วนตัว : ติดฟิล์มแล้วช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้อย่างไร เพราะฟิล์มรถยนต์จะทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นภายนอกลดลง หากเราเลือกความเข้มของฟิล์มรถยนต์ที่เข้มมากๆ จะช่วยได้

- ป้องกันกระจกแตก : ฟิล์มรถยนต์บางชนิด บางยี่ห้อ มีคุณสมบัติป้องกันกระจกแตก ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
- ป้องกันอุปกรณ์ภายในรถ : ช่วยป้องกันอุปกรณ์ภายในรถที่เมื่อโดนแสงแดดหรือความร้อนมากๆ แล้วเกิดเสียหายได้ ฟิล์มรถยนต์จะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์นั้นๆ ได้ครับ
- ลดเสียงรบกวน : ฟิล์มรถยนต์บางชนิด บางยี่ห้อ มีคุณสมบัติสามารถช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามาในรถยนต์ได้
- ป้องกันการสะท้อนแสง : ฟิล์มบางชนิด บางยี่ห้อ มีคุณสมบัติป้องกันการสะท้อนของแสงแดดที่ส่องเข้ามาในรถยนต์ ทำให้การขับขี่ของเราปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น ทำให้เรามองเห็นทัศนวิสัยได้ดีขึ้น
ทำอย่างไรให้เหมือนใหม่? ไฟหน้าหมอง เหลือง ดูเก่า คลิก
ความเข้มเท่าไหร่?
ฟิล์มรถยนต์แต่ละแบบ แต่ละยี่ห้อมีความเข้มให้เลือกหลายระดับ ในปัจจุบันฟิล์มรถยนต์จะมีความเข้มให้เลือกโดยแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ก็คือ 40%, 60% และ 80%

สายซิ่ง สายแต่งรถ ต้องรู้! แต่งอย่างไรไม่ให้เสี่ยงผิดกฎหมาย คลิก
ฟิล์มรถยนต์ 40%
เป็นระดับที่แสงสามารถส่องผ่านเข้ามาได้มากที่สุด โดยแสงสว่างส่องผ่านจะอยู่ที่ประมาณ 35% ขึ้นไป ลักษณะของฟิล์มจะใส ไม่ทึบจนเกินไป มองเห็นได้ชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน
ฟิล์มรถยนต์ 60%
ระดับนี้เป็นมีความเข้มปานกลาง ให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยแสงสว่างส่องผ่านจะอยู่ที่ประมาณ 15-35% หากขับขี่ในเวลากลางวันจะยังมองเห็นอยู่ ส่วนในที่แสงน้อยยังสามารถมองเห็นได้ชัดอยู่ครับ
ฟิล์มรถยนต์ 80%
ฟิล์มในระดับนี้จะมีความเข้มที่สูงสุด แสงส่องเข้ามาได้น้อย ให้ความเป็นส่วนตัวมากๆ โดยแสงสว่างส่องผ่านจะอยู่ที่ประมาณ 5-15% สำหรับฟิล์มรถยนต์ระดับนี้เป็นที่นิยมมาก ส่วนใหญ่จะติดที่กระจกประตูทั้ง 4 บาท ไม่จะไม่นิยมติดที่กระจกหน้าและหลัง เนื่องจากมีความเข้มมากเกินไปทำให้การมองเห็นไม่ค่อยดีเท่าที่ควรครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากขับขี่ในเวลากลางคืนยิ่งไม่แนะนำเลย
ทันทำที! หากโดนชนแล้วหนี พร้อมวิธีรับมือ คลิก
เลือกแบบไหนดี?
- ขับขี่ในเวลากลางคืนบ่อย : หากเป็นคนที่ขับขี่ในเวลากลางคืนอยู่บ่อยๆ แนะนำให้เลือกติดฟิล์มที่ 40:60 นั่นก็คือ ติดฟิล์มที่กระจกบานหน้าและหลัง 40% และติดรอบคัน 60% หากติดแบบนี้จะทำให้มองเห็นทัศนวิสัยได้ชัดเจนกว่า หรือถ้าไม่ติดเรื่องความส่วนตัวสามารถติดฟิล์ม 40% รอบคันเลยก็ได้นะครับ

- ขับขี่ในเวลางกลางวันเป็นหลัก : สำหรับผู้ที่ต้องขับขี่ในเวลากลางวันเป็นหลักหรือต้องการความเป็นส่วนตัว แนะนำให้เลือกติดฟิล์มที่ 60:80 นั่นก็คือ ติดฟิล์มที่กระจกบานหน้าและหลัง 60% และติดรอบคัน 80% หรือถ้าไม่ห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวจะติด 60% รอบคันก็ได้ครับ
สิ่งที่สำคัญ!
อย่าลืมว่าการขับขี่จะต้องใช้สายตา หากท่านใดที่มีปัญหาทางสายตาบ้างเล็กน้อย แนะนำให้ติดแบบ 40:60 แต่พอมั่นใจว่าเรายังสายตาดีอยู่สามารถเลือกติดแบบ 60:80 ได้

หรือจะลองสังเกตจากตัวเองดูก็ได้นะครับ ว่าความเข้มที่เราเลือกนั้นเราสามารถมองเห็นได้ชัดดีหรือไม่ หากท่านใดที่สายตาสั้นหรือสายตายาวก็สามารถหาแว่นสายตามาใช้ในขณะขับขี่ก็ได้เช่นกันครับ
การติดฟิล์มรถยนต์ราคาค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับชนิดและยี่ห้อที่เราเลือก รวมไปถึงร้านที่เราเลือกติดตั้งด้วยนะครับ แนะนำให้เลือกฟิล์มที่เหมาะกับการใช้งานของเรานะครับ เพราะฟิล์มมีผลต่อทัศนวิสัยในการขับขี่โดยเฉพาะการขับขี่ในเวลากลางคืน นอกจากนี้อาจมีผลต่อการส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือหรือ GPS ครับ
จอดรถใต้ต้นไม้ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย! คลิก
ก่อนที่จะตัดสินใจติดฟิล์มรถยนต์ ควรเปรียบเทียบราคาและประเภทของฟิล์มจากร้านต่างๆ ก่อนนะครับ เลือกร้านที่เราไว้ใจและเชื่อถือได้ รวมไปถึงเมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะออกจากร้านด้วยนะครับ เพื่อเช็กดูว่าติดฟิล์มเรียบร้อยหรือมีปัญหาส่วนไหนบ้างหรือไม่ จะได้ไม่เกิดปัญหาทีหลังและไม่เสียเวลาด้วยครับ