ติดฟิล์มจำเป็นหรือไม่? หากจะติดต้องติดที่ความเข้มเท่าไรถึงจะดี

ติดฟิล์มจำเป็นหรือไม่? หากจะติดต้องติดที่ความเข้มเท่าไรถึงจะดี

17/05/2024

   ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนอยู่แล้ว ทุกวันนี้เราก็ต้องใช้รถยนต์ในการใช้ชีวิตประจำวันไม่ว่าจะขับรถไปทำงานหรือแม้กระทั่งไปเที่ยว แดดโดนตัวเราก็แสบแทบไหม้อยู่แล้วใช่ไหมล่ะครับ? แสงแดดมีรังสี UV ที่เป็นอันตรายไม่ว่าจะกับคนหรืออุปกรณ์ภายในรถ และหากถ้าขับรถไปข้างนอกแล้วต้องเจอแดดส่องเข้ามาในรถอีก แอร์ในรถยนต์ก็เอาไม่อยู่นะครับ

ขับรถระวังคน ข้ามถนนระวังรถ ไม่ระวัง! อาจเกิดอุบัติเหตุได้ คลิก

จำเป็นหรือไม่

   การติดฟิล์มรถยนต์ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของแต่ละบุคคล

  • ลดความร้อนจากแสงแดด : ฟิล์มรถยนต์จะสามารถช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ผ่านเข้ามาในรถ ทำให้รู้สึกไม่ร้อนจนเกินไป ลดการทำงานของแอร์
  • ป้องกันรังสี UV : ฟิล์มรถยนต์สามารถป้องกันรังสี UV จากแสงแดดได้ถึง 99% ซึ่งจะช่วยป้องกันผิวหนังและดวงตาจากอันตรายของรังสี UV ได้
  • ความเป็นส่วนตัว : ติดฟิล์มแล้วช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้อย่างไร เพราะฟิล์มรถยนต์จะทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นภายนอกลดลง หากเราเลือกความเข้มของฟิล์มรถยนต์ที่เข้มมากๆ จะช่วยได้
  • ป้องกันกระจกแตก : ฟิล์มรถยนต์บางชนิด บางยี่ห้อ มีคุณสมบัติป้องกันกระจกแตก ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
  • ป้องกันอุปกรณ์ภายในรถ : ช่วยป้องกันอุปกรณ์ภายในรถที่เมื่อโดนแสงแดดหรือความร้อนมากๆ แล้วเกิดเสียหายได้ ฟิล์มรถยนต์จะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์นั้นๆ ได้ครับ
  • ลดเสียงรบกวน : ฟิล์มรถยนต์บางชนิด บางยี่ห้อ มีคุณสมบัติสามารถช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามาในรถยนต์ได้
  • ป้องกันการสะท้อนแสง : ฟิล์มบางชนิด บางยี่ห้อ มีคุณสมบัติป้องกันการสะท้อนของแสงแดดที่ส่องเข้ามาในรถยนต์ ทำให้การขับขี่ของเราปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น ทำให้เรามองเห็นทัศนวิสัยได้ดีขึ้น

ทำอย่างไรให้เหมือนใหม่? ไฟหน้าหมอง เหลือง ดูเก่า คลิก

 

ความเข้มเท่าไหร่?

   ฟิล์มรถยนต์แต่ละแบบ แต่ละยี่ห้อมีความเข้มให้เลือกหลายระดับ ในปัจจุบันฟิล์มรถยนต์จะมีความเข้มให้เลือกโดยแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ก็คือ 40%, 60% และ 80% 

สายซิ่ง สายแต่งรถ ต้องรู้! แต่งอย่างไรไม่ให้เสี่ยงผิดกฎหมาย คลิก

 

ฟิล์มรถยนต์ 40%

   เป็นระดับที่แสงสามารถส่องผ่านเข้ามาได้มากที่สุด โดยแสงสว่างส่องผ่านจะอยู่ที่ประมาณ 35% ขึ้นไป ลักษณะของฟิล์มจะใส ไม่ทึบจนเกินไป มองเห็นได้ชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน

ฟิล์มรถยนต์ 60%

   ระดับนี้เป็นมีความเข้มปานกลาง ให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยแสงสว่างส่องผ่านจะอยู่ที่ประมาณ 15-35% หากขับขี่ในเวลากลางวันจะยังมองเห็นอยู่ ส่วนในที่แสงน้อยยังสามารถมองเห็นได้ชัดอยู่ครับ

ฟิล์มรถยนต์ 80%

   ฟิล์มในระดับนี้จะมีความเข้มที่สูงสุด แสงส่องเข้ามาได้น้อย ให้ความเป็นส่วนตัวมากๆ โดยแสงสว่างส่องผ่านจะอยู่ที่ประมาณ 5-15% สำหรับฟิล์มรถยนต์ระดับนี้เป็นที่นิยมมาก ส่วนใหญ่จะติดที่กระจกประตูทั้ง 4 บาท ไม่จะไม่นิยมติดที่กระจกหน้าและหลัง เนื่องจากมีความเข้มมากเกินไปทำให้การมองเห็นไม่ค่อยดีเท่าที่ควรครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากขับขี่ในเวลากลางคืนยิ่งไม่แนะนำเลย

ทันทำที! หากโดนชนแล้วหนี พร้อมวิธีรับมือ คลิก

 

เลือกแบบไหนดี?

  • ขับขี่ในเวลากลางคืนบ่อย : หากเป็นคนที่ขับขี่ในเวลากลางคืนอยู่บ่อยๆ แนะนำให้เลือกติดฟิล์มที่ 40:60 นั่นก็คือ ติดฟิล์มที่กระจกบานหน้าและหลัง 40% และติดรอบคัน 60% หากติดแบบนี้จะทำให้มองเห็นทัศนวิสัยได้ชัดเจนกว่า หรือถ้าไม่ติดเรื่องความส่วนตัวสามารถติดฟิล์ม 40% รอบคันเลยก็ได้นะครับ
  • ขับขี่ในเวลางกลางวันเป็นหลัก : สำหรับผู้ที่ต้องขับขี่ในเวลากลางวันเป็นหลักหรือต้องการความเป็นส่วนตัว แนะนำให้เลือกติดฟิล์มที่ 60:80 นั่นก็คือ ติดฟิล์มที่กระจกบานหน้าและหลัง 60% และติดรอบคัน 80% หรือถ้าไม่ห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวจะติด 60% รอบคันก็ได้ครับ

 

สิ่งที่สำคัญ!

   อย่าลืมว่าการขับขี่จะต้องใช้สายตา หากท่านใดที่มีปัญหาทางสายตาบ้างเล็กน้อย แนะนำให้ติดแบบ 40:60 แต่พอมั่นใจว่าเรายังสายตาดีอยู่สามารถเลือกติดแบบ 60:80 ได้

   หรือจะลองสังเกตจากตัวเองดูก็ได้นะครับ ว่าความเข้มที่เราเลือกนั้นเราสามารถมองเห็นได้ชัดดีหรือไม่ หากท่านใดที่สายตาสั้นหรือสายตายาวก็สามารถหาแว่นสายตามาใช้ในขณะขับขี่ก็ได้เช่นกันครับ

 

   การติดฟิล์มรถยนต์ราคาค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับชนิดและยี่ห้อที่เราเลือก รวมไปถึงร้านที่เราเลือกติดตั้งด้วยนะครับ แนะนำให้เลือกฟิล์มที่เหมาะกับการใช้งานของเรานะครับ เพราะฟิล์มมีผลต่อทัศนวิสัยในการขับขี่โดยเฉพาะการขับขี่ในเวลากลางคืน นอกจากนี้อาจมีผลต่อการส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือหรือ GPS ครับ

จอดรถใต้ต้นไม้ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย! คลิก

   ก่อนที่จะตัดสินใจติดฟิล์มรถยนต์ ควรเปรียบเทียบราคาและประเภทของฟิล์มจากร้านต่างๆ ก่อนนะครับ เลือกร้านที่เราไว้ใจและเชื่อถือได้ รวมไปถึงเมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะออกจากร้านด้วยนะครับ เพื่อเช็กดูว่าติดฟิล์มเรียบร้อยหรือมีปัญหาส่วนไหนบ้างหรือไม่ จะได้ไม่เกิดปัญหาทีหลังและไม่เสียเวลาด้วยครับ


NEW CIVIC e:HEV

เริ่มต้น 1,099,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 11,000 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

18/06/2025

การมีรถยนต์ส่วนตัวสักคันหนึ่ง นอกจากเรื่องของการขับขี่ที่ปลอดภัยแล้วสิ่งที่เจ้าของรถทุกท่านต้องรู้เลยก็คือ วิธีเคลมประกันภัยรถยนต์ ให้เร็วและไม่โดนเทจากบริษัทประกัน เพราะในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ ความรวดเร็วและความเข้าใจในขั้นตอนการเคลมเป็นสิ่งที่จะช่วยให้สถานการณ์ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้นั่นเองครับ

อ่านต่อ
รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

17/06/2025

อีกหนึ่งระบบในความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ แต่หลายท่านมักจะมองข้ามไปหรือรอจนเกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลังเมื่อสายไปแล้ว ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเราและเพื่อนร่วมทางควรทำอย่างไรบ้างมาดูกันเลยครับ

อ่านต่อ
ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

14/06/2025

ข้อเท็จจริงที่คนมีรถต้องรู้ ก่อนที่จะตัดสินใจไม่ซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 การมีรถยนต์ส่วนตัวในยุคนี้แทบจะกลายเป็นปัจจัย 5 ของชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความสะดวกสบายของตัวเราเองทั้งในการเดินทาง ช่วยประหยัดเวลา ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่คำถามที่ตามมาสำหรับเจ้าของรถก็คือ จำเป็นต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือไม่? ยิ่งในปัจจัยนี้ที่ต้องประหยัดทุกบาททุกสตางค์ สำหรับคำตอบที่เข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งข้อดีและข้อเสีย และสิ่งที่ควรพิจราณก่อนตัดสินใจมีอะไรบ้าง แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายบังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่กฎหมายบังคับเฉพาะ พ.ร.บ. เท่านั้น แต่การตัดสินใจทำหรือไม่ทำก็ขึ้นอยู่กับบความเสี่ยงและความพร้อมในการรับผิดชอบของเจ้าของรถนั่นเองครับ

อ่านต่อ
Uto