ก่อนดับเครื่องยนต์จะต้องปิดแอร์ก่อนหรือไม่? จำเป็นและมีความสำคัญอย่างไร เคล็บลับการดูแลรถยนต์ง่ายๆ ที่คุณควรรู้

ก่อนดับเครื่องยนต์จะต้องปิดแอร์ก่อนหรือไม่? จำเป็นและมีความสำคัญอย่างไร เคล็บลับการดูแลรถยนต์ง่ายๆ ที่คุณควรรู้

19/02/2025

เคยสังเกตตัวเองหรือไม่? เมื่อใช้งานรถยนต์เรียบร้อยแล้วเราจะปิดแอร์หรือดับเครื่องก่อนกัน และระหว่างปิดแอร์หรือดับเครื่องยนต์จะต้องทำอะไรก่อน หากทำผิดวิธีจะส่งผลกระทบต่อรถยนต์ของเราหรือไม่?

ร้อนระอุ! เจออากาศร้อนๆ แบบนี้ แอร์รถยนต์จะช่วยได้แค่ไหน? คลิก

 

   โดยปกติแล้วการทำงานของแอร์ในรถยนต์จะทำงานเชื่อมโยงกับระบบเครื่องยนต์อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ในการทำงาน ดังนั้นการเปิดแอร์ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานจึงไม่ใช่ปัญหา แต่ว่าการดับเครื่องยนต์ในทันทีนั้นหลังจากใช้งานอาจส่งผลกระทบต่อแอร์ในระยะยาวได้

 

ทำไมต้องปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์

  • ลดภาระการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ : แอร์ในรถยนต์จะทำงานโดยใช้คอมเพรสเซอร์ที่เชื่อมโยงกับเครื่องยนต์ ซึ่งการปิดแอร์ก่อนดับเครื่องจะช่วยให้คอมเพรสเซอร์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์และยังช่วยลดการสะสมของแรงดันในระบบแอร์อีกด้วย
  • เพิ่มอายุการใช้งาน : การดับเครื่องในทันทีโดยไม่ได้ปิดแอร์ อาจทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์หยุดทำงานอย่างกะทันหัน ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้เกิดความเสียหายและยังเป็นการลดอายุการใช้งานของระบบแอร์
  • ลดการสะสมความชื้น : การดับเครื่องยนต์จะช่วยลดความชื้นที่อาจจะเกิดการสะสมอยู่ในระบบแอร์ โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่ร้อนและชื้น อาจนำไปสู่การเกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์หรือการเกิดเชื้อราในระบบแอร์ได้

หัวร้อน! เจออากาศที่ร้อนจากภายนอกแล้ว ต้องมาเจอปัญหาแอร์ในรถยนต์ไม่เย็น จะทำอย่างไร? คลิก

คำแนะนำ

   ปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์อย่างน้อย 1-2 นาที จะช่วยให้คอมเพรสเซอร์แอร์ค่อยๆ หยุดการทำงานลงอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ทำให้ระบบแอร์ได้รับความเสียหายจากการดับเครื่องยนต์อย่างกะทันหัน

ควรมีการบำรุงรักษาระบบแอร์ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศหรือการเติมน้ำยาแอร์ เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบแอร์และเครื่องยนต์ได้

 

แต่ไม่จำเป็นเสมอไป! ถ้ารถยนต์มีคอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้า

   สำหรับรถยนต์ที่มีคอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้า การปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์ก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นครับ เพราะการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้ากับคอมเพรสเซอร์แอร์แบบเครื่องยนต์มีระบบการทำงานที่แตกต่างกันไป

เหยียบเท่าไรก็ไม่ขึ้น ทำอย่างไรหากรถเร่งไม่ขึ้น? คลิก

เครื่องกระตุกเพราะใช้รถเพลินจนลืมดูน้ำมัน HOW TO เอาตัวรอดเมื่อน้ำมันใกล้หมด คลิก

ทำไม? ถึงไม่เป็นจำต้องปิดแอร์สำหรับรถยนต์ที่ใช้คอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้า

 

การทำงานที่แยกจากเครื่องยนต์

   คอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้าจะได้รับพลังงานจากแบตเตอรี่ของรถยนต์ ซึ่งไม่ได้เชื่อมต่อกับเครื่องยนต์โดยตรงเหมือนกับคอมเพรสเซอร์แอร์แบบที่ใช้สายพาน ดังนั้นการดับเครื่องยนต์จึงไม่ได้มีผลกระทบต่อการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้า

 

การควบคุมโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์

   ระบบแอร์ไฟฟ้าจะมีการควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะทำให้การดับเครื่องยนต์ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการทำงานของระบบแอร์ หากเครื่องยนต์หยุดการทำงานระบบก็จะหยุดการทำงานของแอร์ไฟฟ้าไปพร้อมกันโดยอัตโนมัติ

 

ประสิทธิภาพในการทำงาน

   การใช้คอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้าจะมีความยืดหยุ่นและประหยัดพลังงานมากกว่า และยังช่วยให้ระบบแอร์ทำงานได้แม้ในขณะที่เครื่องยนต์หยุดทำงาน

อาการรถเสียระหว่างทาง พร้อมวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รับมืออย่างมือโปร! คลิก

   ในปัจจุบันนี้รถยนต์ส่วนใหญ่จะใช้คอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้า ซึ่งเราจะปิดแอร์ก่อน หรือดับเครื่องยนต์เลยก็ไม่จำเป็นแล้วครับ เพราะระบบแอร์ไฟฟ้าจะทำงานแยกจากเครื่องยนต์ ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบแอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ของรถยนต์นั่นเองครับ

   แต่ถ้าหากเรายังใช้รถยนต์รุ่นเก่าที่ไม่ได้มีคอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้า แนะนำให้ปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์ด้วยนะครับ เพื่อจะได้ถนอมเครื่องยนต์ของรถยนต์ของเรานั่นเอง และระบบการทำงานของเครื่องยนต์ก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบอีกด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพที่ยาวนานนั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ครับ

 

ศูนย์บริการ ที่ ยูไนเต็ด ฮอนด้า

ภัยร้ายจากการจอดรถผิดที่ จอดรถแบบไหนถึงจะไม่สร้างปัญหาให้ใคร? คลิก

   หากมีคำถามหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์ สามารถติดต่อมาได้ที่ ยูไนเต็ด ฮอนด้า สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ช่องทาง Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ หรือติดตามได้จากบล็อกของเรา เราจะนำเคล็ดลับดีๆ ที่ช่วยให้คุณดูแลรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาฝากกันอีกครับ!


NEW HONDA CITY e:HEV

เริ่มต้น 729,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 8,500 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

จอดรถอยู่เฉยๆ แล้วโดนชน! ต้องทำอย่างไรและใครเป็นคนรับผิดชอบ? ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง

จอดรถอยู่เฉยๆ แล้วโดนชน! ต้องทำอย่างไรและใครเป็นคนรับผิดชอบ? ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง

18/04/2025

รถเราจอดอยู่เฉยๆ แต่ดันโดนชนซะงั้น! ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรอยขูด รอยบุบหรือชนจนพังเสียหาย หลายท่านอาจไม่แน่ใจหรือไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ และยิ่งถ้าเราไม่ทราบว่าใครเป็นคนชนแล้วแบบนี้ประกันสามารถช่วยอะไรเราได้บ้างหรือไม่? แต่ถ้ามีแค่ พ.ร.บ. จะไม่สามารถเคลมได้ เพราะ พ.ร.บ. จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อชีวิตและร่างกาย จะไม่ครอบคลุมการซ่อมรถ ฉะนั้นควรทำประกันภาคสมัครใจด้วยนะครับ เพื่อจะได้คุ้มครองในกรณีที่จอดรถไว้แล้วโดนชน

อ่านต่อ
รถสตาร์ทไม่ติด เกิดจากอะไร? รวมสาเหตุ พร้อมวิธีแก้ไขด้วยตัวเองแบบละเอียด

รถสตาร์ทไม่ติด เกิดจากอะไร? รวมสาเหตุ พร้อมวิธีแก้ไขด้วยตัวเองแบบละเอียด

17/04/2025

รถเจ้ากรรม! ตื่นเช้ามากำลังรีบไปทำงานแต่เจ้ากรรมดันสตาร์ทไม่ติด เชื่อเลยครับว่าหลายๆ ท่านต้องเคยเจอสถานการณ์แบบนี้แน่ๆ แล้วเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเลยทีเดียวเพราะอาการเหล่านี้ทำให้เราไปทำงานสายนั่นเอง ซึ่งจริงๆ แล้วสาเหตุหรือปัญหาที่รถสตาร์ทไม่ติดมีหลายสาเหตุ และหลายอย่างที่เราสามารถตรวจเช็กหรือแก้ไขได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องโทรหาช่างเสมอไปครับ เราจะได้รู้เท่าทันปัญหาของการสตาร์ทรถไม่ติด และสามารถตรวจเช็กเบื้องต้นได้ด้วยตนเองได้อย่างมั่นใจเพราะในบางครั้งอาการที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงแค่อาการเล็กน้อยที่ไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องเสียเงินหรือเสียเวลานั่นเองครับ

อ่านต่อ
ไขข้อสงสัย ต่อประกันล่วงหน้ากี่วันถึงจะดี? พร้อมเคล็ดลับเลือกต่อให้คุ้มที่สุด

ไขข้อสงสัย ต่อประกันล่วงหน้ากี่วันถึงจะดี? พร้อมเคล็ดลับเลือกต่อให้คุ้มที่สุด

11/04/2025

การต่อประกันภัยรถยนต์ล่วงหน้าเป็นเรื่องที่สำคัญที่หลายๆ ท่านอาจมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยให้เราไม่ขาดความคุ้มครองแล้วยังมีผลประโยชน์อื่นๆ อีกด้วย และในเรื่องการต่อประกันภัยรถยนต์ควรต่อประกันล่วงหน้ากี่วันถึงจะดี? พร้อมกับเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้เราวางแผนได้อย่างเหมาะสม 1-3 เดือน เหมาะสม ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเพราะมีโอกาสที่ได้เลือกได้ตามใจและอาจต่อ พ.ร.บ. และภาษีได้พร้อมกันทีเดียว 7 วัน ค่อนข้างกระชั้นชิด อาจทำให้เราไม่ได้ประกันภัยรถยนต์ที่ตรงใจมากที่สุด 1 วัน เสี่ยงเกินไป ถือเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้าง “เสี่ยงเกินไป” เพราะประกันภัยรถยนต์ส่วนใหญ่จะให้คุ้มครองถึงแค่เวลา 16.30 น. ของวันหมดอายุตามเอกสารกรมธรรม์ระบุไว้

อ่านต่อ
Uto