อาการรถเสียระหว่างทาง พร้อมวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รับมืออย่างมือโปร!

อาการรถเสียระหว่างทาง พร้อมวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รับมืออย่างมือโปร!

03/02/2025

   เมื่อเราต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดระหว่างการเดินทางทั้งเวลาไปเที่ยวหรือไปทำธุระ มักจะมีบางอย่างที่ติดขัดเสมออย่างเหตุการณ์รถเสียระหว่างทางนั่นเอง แต่ไม่ต้องตกใจไปครับ! เรามีทริคดีๆ ที่ช่วยให้รับมือกับรถเสียระหว่างทางได้อย่างมือโปร

 

รับมือกับรถเสียกลางทาง!

อย่าตกใจ

   เมื่อรถเริ่มมีอาการผิดปกติอย่าเพิ่งตกใจไปให้ใจเย็นๆ และตั้งสติก่อน จากนั้นหาที่จอดรถข้างทางในจุดที่ปลอดภัยแต่ถ้าเกิดว่าเราขับอยู่แล้วเกิดดับไปเลยทันทีให้เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อเตือนผู้ขับขี่คันอื่นๆ เพื่อที่เขาจะได้ทราบว่ารถเรากำลังมีปัญหา

 

ตรวจสอบสาเหตุ

   ให้ลองเช็กดูว่ารถยังสตาร์ทติดหรือไม่? มีไฟเตือนอะไรขึ้นที่หน้าปัดหรือไม่? น้ำมันหมดหรือไม่? แบตเตอรี่ยังมีอยู่หรือไม่? ถ้าเช็กแล้วเป็นเรื่องเพียงเล็กๆ ที่เราสามารถแก้ไขเองได้ให้ทำการแก้ไขทันที

 

ขอความช่วยเหลือ

   หากเป็นปัญหาในส่วนที่เราไม่สามารถแก้ไขเองได้ให้ทำการโทรขอความช่วยเหลือจากคนที่เรารู้จักหรือจะโทรเรียกใช้บริการรถลากเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ

 

ความปลอดภัย

   ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าหากรถยนต์ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปในที่ที่ปลอดภัยได้ในกรณีที่ถูกชนให้ออกห่างจากรถไปยืนให้บริเวณขอบถนนหรือมุมที่ปลอดภัย เพราะเราไม่อาจทราบได้ว่าเมื่อรถชนแล้วจะเกิดอะไรตามมาอีกหรือไม่ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือกล้องหน้ารถและหลังรถที่จะเป็นพยานให้กับเราได้

ภัยร้ายจากการจอดรถผิดที่ จอดรถแบบไหนถึงจะไม่สร้างปัญหาให้ใคร? คลิก

เครื่องมือพื้นฐาน

   เมื่อต้องออกเดินทางจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมอย่างชุดเครื่องมือเบื้องต้น ไฟฉาย สายจั๊มแบตเตอรี่ ยางอะไหล่และแม่แรง แต่ถ้าหากเป็นผู้หญิงก็อาจจะไม่สามารถทำเองได้ในบางอย่าง แต่อย่างน้อยก็ควรมีไฟฉายติดรถเอาไว้ แต่ไม่ใช้ไฟฉายโทรศัพท์นะครับ แนะนำให้เป็นไฟฉายที่สว่างกว่านั้นจะดีกว่า

 

รับมือกับสภาพอากาศ

   ถ้าช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูฝนก็ควรมีร่มหรือเสื้อกันฝนติดรถยนต์ไว้ ถ้าเป็นฤดูร้อนก็ควรมีม่านบังแดดหน้ารถและด้านข้างรถติดไว้ และถ้าในช่วงฤดูหนาวก็ควรมีเสื้อกันหนาวหรือผ้าห่มติดรถยนต์เอาไว้ เมื่อเราเจอสถานการณ์ที่รถยนต์ไม่สามารถใช้งานได้ในระยะนานเราจะได้อุ่นใจและรู้สึกดีกว่าที่ไม่มีอะไรติดมาเลย

ชะล่าใจไม่เช็กรถก่อนเจอสถานการณ์ฝนตกหนัก เสี่ยงเกิดอันตราย! คลิก

 

ไม่มั่นใจอย่าซ่อมเอง

   เมื่อรถยนต์เกิดมีปัญหาแล้วเราไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเป็นที่อะไรและต้องแก้ไขหรือซ่อมส่วนไหน แนะนำว่าอย่าพยายามซ่อมเองนะครับ เพราะอาจทำให้สถานการณ์แย่ลงได้ ดังนั้นควรโทรขอความช่วยเหลือจากคนที่เรารู้จักหรือช่างที่ชำนาญหรืออาจจะเรียกใช้บริการรถลากเพื่อความปลอดภัย

 

ประกันภัยรถยนต์

   หากเรามีประกันภัยรถยนต์จะสามารถช่วยเหลือเราได้ในสถานการณ์แบบนี้ และถ้าในบางครั้งมีการเคลมประกันในกรณีที่รถเสียระหว่างทางสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถเช่า ค่าบริการรถลาก แม้กระทั่งค่าซ่อมอื่นๆ ฉะนั้นอย่าลืมทำประกันภัยรถยนต์ติดเอาไว้นะครับ

อย่าประมาท! ประกันขาดอาจทำให้เราเดือนร้อนได้ คลิก

   ในระหว่างที่รถเสียอาจทำให้เรารู้สึกเครียดได้ แต่ถ้าหากเราเตรียมตัวมาดีและมีสติในสถานการณ์แบบนั้นเราจะผ่านพ้นมาได้ด้วยดี ในการเดินทางอาจเจอปัญหาบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราจะได้เรียนรู้และได้แก้ไขสถานการณ์ที่เราไม่คาดคิดได้

สาเหตุที่พบบ่อย

   มาดูสาเหตุและอาการที่พบบ่อยกันครับว่ามีอาการเป็นอย่างไร พร้อมกับวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

 

1. น้ำมันหมด

อาการ : รถยนต์จะเริ่มมีอาการกระตุกหรือดับกลางทางแบบดื้อๆ เลย โดยอาจจะมีการขึ้นไฟเตือนว่าน้ำมันหมดขึ้นที่หน้าปัดแล้วเราไม่ได้ส่งเกตหรือชะล่าใจนั่นเอง

แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

  • ลองเช็กดูว่าบริเวณใกล้เคียงเรานั้นมีปั้มน้ำมันหรือพื้นที่ที่มีการให้บริการเติมน้ำมันหรือไม่?
  • หากรถไม่สามารถขับต่อไปได้ ให้ขอความช่วยเหลือจากบริการรถลากหรือจะใช้บริการส่งน้ำมันแทนได้

คำแนะนำ : ควรตรวจเช็กระดับน้ำมันให้พร้อมก่อนที่จะออกเดินทาง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเจอเหตุการณ์แบบนี้

เครื่องกระตุกเพราะใช้รถเพลินจนลืมดูน้ำมัน HOW TO เอาตัวรอดเมื่อน้ำมันใกล้หมด คลิก

2. แบตเตอรี่หมด

อาการ : เวลาสตาร์ทรถอาจติดยากหรือไม่ติด จะต้องพยายามหมุนกุญแจหลายรอบกว่าจะติด

แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

  • ใช้สายจั๊มพ์แบตเตอรี่ต่อกับคันอื่นที่มีแบตเตอรี่
  • ถ้าหากไม่มีสายจั๊มพ์แบตเตอรี่ สามารถเรียกใช้บริการรถลากได้เพื่อนำรถไปเข้าศูนย์บริการ

คำแนะนำ : ควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่และเปลี่ยนเมื่อเริ่มมีสัญญาณเตือนว่าเสื่อมสภาพแล้ว

 

3. ยางรั่วหรือยางแตก

อาการ : รถยนต์ของเราจะเคลื่อนที่ได้ยากหรือเวลาขับอยู่จะรู้สึกเหมือนรถส่ายไปมา

แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

  • ถ้ามียางอะไหล่พร้อมกับเครื่องมือที่พร้อม สามารถใช้แม่แรงยกรถและสามารถทำการเปลี่ยนยางใหม่ได้ทันที
  • แต่ถ้าไม่มียางอะไหล่หรือไม่สามารถทำการเปลี่ยนเองได้ ให้โทรเรียกใช้บริการรถลากเพื่อนำไปเข้าศูนย์บริการ

คำแนะนำ : ตรวจสอบยางทุกครั้งก่อนที่จะเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกล พร้อมกับเติมลมยางให้เหมาะสม

ยางอึดขึ้นและคุ้มค่ากับการลงทุนจริงหรือไม่? เมื่อเติมลมยางไนโตรเจน คลิก

4. เครื่องยนต์มีความร้อนสูงเกินไป

อาการ : จะมีไฟเตือนอุณหภูมิขึ้นสูงหรือมีไอน้ำพุ่งออกมาจากฝากระโปรงรถ และในบางครั้งอาจมีกลิ่นเหม็นไหม้ได้

แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

  • หยุดรถพร้อมกับจอดรถเพื่อให้เครื่องยนต์เย็นลง แนะนำให้หาที่จอดในที่ร่มและปลอดภัย
  • ไม่ควรเปิดฝาครอบหม้อพักน้ำหล่อเย็นในขณะที่เครื่องยนต์กำลังร้อนอยู่ เพราะอาจเกิดอันตรายได้
  • เมื่อเครื่องยนต์เย็นลงแล้วให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นว่าอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไปหรือไม่? ถ้าต่ำเกินไปให้เติมด้วยน้ำหล่อเย็นลงไป แต่ถ้าไม่มีจริงๆ จำเป็นต้องเติมจริงๆ ให้เติมด้วยน้ำเปล่าเพื่อให้รถสามารถขับไปยังศูนย์บริการได้

คำแนะนำ : ควรตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและระบบคายความร้อนก่อนออกเดินทาง

รู้หรือไม่! ของเหลวภายในรถยนต์ที่จะต้องดูแลเป็นประจำมีอะไรบ้าง? คลิก

 

5. ระบบไฟไม่ทำงาน

อาการ : ไฟหน้ารถหรือสัญญาณไฟต่างๆ ไม่สามารถเปิดได้หรือว่าดับไปเลย หรือเมื่อลองล็อกรถแล้วไม่สามารถใช้งานได้

แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

  • ตรวจสอบที่ฟิวส์ว่าขาดหรือเสียหรือไม่
  • หากฟิวส์ขาด ลองเปลี่ยนฟิวส์ใหม่เพื่อให้ระบบไฟทำงานได้
  • หากไม่มั่นใจในเรื่องระบบไฟสามารถเรียกบริการช่วยเหลือบนท้องถนนได้

คำแนะนำ : ศึกษาการเปลี่ยนฟิวส์เอาไว้ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นเราจะได้ทำการเปลี่ยนเองได้ และตรวจสอบระบบไฟฟ้าเป็นประจำ

จะเป็นอย่างไร? หากไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนด คลิก

 

6. ระบบพวงมาลัยแข็งหรือไม่หมุน

อาการ : พวงมาลัยแข็งเกินไปหรือไม่สามารถหมุนได้ตามปกติ

แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

  • ตรวจสอบระดับน้ำมันพวงมาลัยว่าหมดหรือไม่ หากหมดให้ทำการเติมน้ำมันพวงมาลัยเพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้
  • หากไม่สามารถทำเองได้ให้เรียกใช้บริการรถลากเพื่อนำเข้าศูนย์บริการ

คำแนะนำ : ควรตรวจสอบน้ำมันพวงมาลัยอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับเช็กระบบของพวงมาลัย

7. ระบบเบรกทำงานไม่ดี

อาการ : เบรกมีเสียงดังหรือรู้สึกว่าเบรกแล้วไม่ค่อยอยู่สักเท่าไร

แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

  • หากรู้สึกว่าเบรกไม่ค่อยดี ให้หาที่จอดรถที่ปลอดภัยและไม่ใช้เบรกแรงจนเกินไป
  • โทรขอความช่วยเหลือหรือบริการรถลากเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ

คำแนะนำ : หมั่นตรวจสอบผ้าเบรกและระบบเบรกอย่างสม่ำเสมอ

เหยียบเท่าไรก็ไม่ขึ้น ทำอย่างไรหากรถเร่งไม่ขึ้น? คลิก

เปลี่ยนอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้นะ! ต้องเปลี่ยนพร้อมกันสำหรับไส้กรองและน้ำมันเครื่อง คลิก

   การที่เราเจอสถานการณ์รถเสียระหว่างทางเป็นเรื่องที่ไม่ได้เลวร้ายหากเรารู้วิธีรับมือแก้ไขในสถานการณ์แบบนี้ เพราะการที่เราเตรียมตัวไว้ตลอดจะช่วยลดความเครียดและได้เรียนรู้แก้ไขปัญหาด้วยตนเองได้

   สำหรับท่านใดที่ต้องการนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการที่ ยูไนเต็ด ฮอนด้า สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ช่องทาง Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ

บทความอื่นๆ

คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

คนมีรถต้องรู้! อยากเคลมเร็ว เคลมผ่านในครั้งเดียว รวมวิธีเคลมประกันให้เร็วแล้วไม่โดนเทโดยไม่ต้องง้อใคร

18/06/2025

การมีรถยนต์ส่วนตัวสักคันหนึ่ง นอกจากเรื่องของการขับขี่ที่ปลอดภัยแล้วสิ่งที่เจ้าของรถทุกท่านต้องรู้เลยก็คือ วิธีเคลมประกันภัยรถยนต์ ให้เร็วและไม่โดนเทจากบริษัทประกัน เพราะในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ ความรวดเร็วและความเข้าใจในขั้นตอนการเคลมเป็นสิ่งที่จะช่วยให้สถานการณ์ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้นั่นเองครับ

อ่านต่อ
รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

รู้ไว้ก่อนพัง! ผลเสียของการไม่เช็กผ้าเบรก รถพัง เบรกไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุอย่ารอให้สายเกินไป

17/06/2025

อีกหนึ่งระบบในความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ แต่หลายท่านมักจะมองข้ามไปหรือรอจนเกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลังเมื่อสายไปแล้ว ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเราและเพื่อนร่วมทางควรทำอย่างไรบ้างมาดูกันเลยครับ

อ่านต่อ
ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้หรือไม่? ข้อดี-ข้อเสีย ที่เจ้าของรถต้องรู้

14/06/2025

ข้อเท็จจริงที่คนมีรถต้องรู้ ก่อนที่จะตัดสินใจไม่ซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 การมีรถยนต์ส่วนตัวในยุคนี้แทบจะกลายเป็นปัจจัย 5 ของชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความสะดวกสบายของตัวเราเองทั้งในการเดินทาง ช่วยประหยัดเวลา ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่คำถามที่ตามมาสำหรับเจ้าของรถก็คือ จำเป็นต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือไม่? ยิ่งในปัจจัยนี้ที่ต้องประหยัดทุกบาททุกสตางค์ สำหรับคำตอบที่เข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งข้อดีและข้อเสีย และสิ่งที่ควรพิจราณก่อนตัดสินใจมีอะไรบ้าง แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายบังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่กฎหมายบังคับเฉพาะ พ.ร.บ. เท่านั้น แต่การตัดสินใจทำหรือไม่ทำก็ขึ้นอยู่กับบความเสี่ยงและความพร้อมในการรับผิดชอบของเจ้าของรถนั่นเองครับ

อ่านต่อ
Uto