เมื่อเราต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดระหว่างการเดินทางทั้งเวลาไปเที่ยวหรือไปทำธุระ มักจะมีบางอย่างที่ติดขัดเสมออย่างเหตุการณ์รถเสียระหว่างทางนั่นเอง แต่ไม่ต้องตกใจไปครับ! เรามีทริคดีๆ ที่ช่วยให้รับมือกับรถเสียระหว่างทางได้อย่างมือโปร
รับมือกับรถเสียกลางทาง!
อย่าตกใจ
เมื่อรถเริ่มมีอาการผิดปกติอย่าเพิ่งตกใจไปให้ใจเย็นๆ และตั้งสติก่อน จากนั้นหาที่จอดรถข้างทางในจุดที่ปลอดภัยแต่ถ้าเกิดว่าเราขับอยู่แล้วเกิดดับไปเลยทันทีให้เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อเตือนผู้ขับขี่คันอื่นๆ เพื่อที่เขาจะได้ทราบว่ารถเรากำลังมีปัญหา
ตรวจสอบสาเหตุ
ให้ลองเช็กดูว่ารถยังสตาร์ทติดหรือไม่? มีไฟเตือนอะไรขึ้นที่หน้าปัดหรือไม่? น้ำมันหมดหรือไม่? แบตเตอรี่ยังมีอยู่หรือไม่? ถ้าเช็กแล้วเป็นเรื่องเพียงเล็กๆ ที่เราสามารถแก้ไขเองได้ให้ทำการแก้ไขทันที
ขอความช่วยเหลือ
หากเป็นปัญหาในส่วนที่เราไม่สามารถแก้ไขเองได้ให้ทำการโทรขอความช่วยเหลือจากคนที่เรารู้จักหรือจะโทรเรียกใช้บริการรถลากเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ
ความปลอดภัย
ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าหากรถยนต์ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปในที่ที่ปลอดภัยได้ในกรณีที่ถูกชนให้ออกห่างจากรถไปยืนให้บริเวณขอบถนนหรือมุมที่ปลอดภัย เพราะเราไม่อาจทราบได้ว่าเมื่อรถชนแล้วจะเกิดอะไรตามมาอีกหรือไม่ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือกล้องหน้ารถและหลังรถที่จะเป็นพยานให้กับเราได้
ภัยร้ายจากการจอดรถผิดที่ จอดรถแบบไหนถึงจะไม่สร้างปัญหาให้ใคร? คลิก
เครื่องมือพื้นฐาน
เมื่อต้องออกเดินทางจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมอย่างชุดเครื่องมือเบื้องต้น ไฟฉาย สายจั๊มแบตเตอรี่ ยางอะไหล่และแม่แรง แต่ถ้าหากเป็นผู้หญิงก็อาจจะไม่สามารถทำเองได้ในบางอย่าง แต่อย่างน้อยก็ควรมีไฟฉายติดรถเอาไว้ แต่ไม่ใช้ไฟฉายโทรศัพท์นะครับ แนะนำให้เป็นไฟฉายที่สว่างกว่านั้นจะดีกว่า
รับมือกับสภาพอากาศ
ถ้าช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูฝนก็ควรมีร่มหรือเสื้อกันฝนติดรถยนต์ไว้ ถ้าเป็นฤดูร้อนก็ควรมีม่านบังแดดหน้ารถและด้านข้างรถติดไว้ และถ้าในช่วงฤดูหนาวก็ควรมีเสื้อกันหนาวหรือผ้าห่มติดรถยนต์เอาไว้ เมื่อเราเจอสถานการณ์ที่รถยนต์ไม่สามารถใช้งานได้ในระยะนานเราจะได้อุ่นใจและรู้สึกดีกว่าที่ไม่มีอะไรติดมาเลย
ชะล่าใจไม่เช็กรถก่อนเจอสถานการณ์ฝนตกหนัก เสี่ยงเกิดอันตราย! คลิก
ไม่มั่นใจอย่าซ่อมเอง
เมื่อรถยนต์เกิดมีปัญหาแล้วเราไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเป็นที่อะไรและต้องแก้ไขหรือซ่อมส่วนไหน แนะนำว่าอย่าพยายามซ่อมเองนะครับ เพราะอาจทำให้สถานการณ์แย่ลงได้ ดังนั้นควรโทรขอความช่วยเหลือจากคนที่เรารู้จักหรือช่างที่ชำนาญหรืออาจจะเรียกใช้บริการรถลากเพื่อความปลอดภัย
ประกันภัยรถยนต์
หากเรามีประกันภัยรถยนต์จะสามารถช่วยเหลือเราได้ในสถานการณ์แบบนี้ และถ้าในบางครั้งมีการเคลมประกันในกรณีที่รถเสียระหว่างทางสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถเช่า ค่าบริการรถลาก แม้กระทั่งค่าซ่อมอื่นๆ ฉะนั้นอย่าลืมทำประกันภัยรถยนต์ติดเอาไว้นะครับ
อย่าประมาท! ประกันขาดอาจทำให้เราเดือนร้อนได้ คลิก
ในระหว่างที่รถเสียอาจทำให้เรารู้สึกเครียดได้ แต่ถ้าหากเราเตรียมตัวมาดีและมีสติในสถานการณ์แบบนั้นเราจะผ่านพ้นมาได้ด้วยดี ในการเดินทางอาจเจอปัญหาบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราจะได้เรียนรู้และได้แก้ไขสถานการณ์ที่เราไม่คาดคิดได้
สาเหตุที่พบบ่อย
มาดูสาเหตุและอาการที่พบบ่อยกันครับว่ามีอาการเป็นอย่างไร พร้อมกับวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
1. น้ำมันหมด
อาการ : รถยนต์จะเริ่มมีอาการกระตุกหรือดับกลางทางแบบดื้อๆ เลย โดยอาจจะมีการขึ้นไฟเตือนว่าน้ำมันหมดขึ้นที่หน้าปัดแล้วเราไม่ได้ส่งเกตหรือชะล่าใจนั่นเอง
แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
- ลองเช็กดูว่าบริเวณใกล้เคียงเรานั้นมีปั้มน้ำมันหรือพื้นที่ที่มีการให้บริการเติมน้ำมันหรือไม่?
- หากรถไม่สามารถขับต่อไปได้ ให้ขอความช่วยเหลือจากบริการรถลากหรือจะใช้บริการส่งน้ำมันแทนได้
คำแนะนำ : ควรตรวจเช็กระดับน้ำมันให้พร้อมก่อนที่จะออกเดินทาง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเจอเหตุการณ์แบบนี้
เครื่องกระตุกเพราะใช้รถเพลินจนลืมดูน้ำมัน HOW TO เอาตัวรอดเมื่อน้ำมันใกล้หมด คลิก
2. แบตเตอรี่หมด
อาการ : เวลาสตาร์ทรถอาจติดยากหรือไม่ติด จะต้องพยายามหมุนกุญแจหลายรอบกว่าจะติด
แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
- ใช้สายจั๊มพ์แบตเตอรี่ต่อกับคันอื่นที่มีแบตเตอรี่
- ถ้าหากไม่มีสายจั๊มพ์แบตเตอรี่ สามารถเรียกใช้บริการรถลากได้เพื่อนำรถไปเข้าศูนย์บริการ
คำแนะนำ : ควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่และเปลี่ยนเมื่อเริ่มมีสัญญาณเตือนว่าเสื่อมสภาพแล้ว
3. ยางรั่วหรือยางแตก
อาการ : รถยนต์ของเราจะเคลื่อนที่ได้ยากหรือเวลาขับอยู่จะรู้สึกเหมือนรถส่ายไปมา
แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
- ถ้ามียางอะไหล่พร้อมกับเครื่องมือที่พร้อม สามารถใช้แม่แรงยกรถและสามารถทำการเปลี่ยนยางใหม่ได้ทันที
- แต่ถ้าไม่มียางอะไหล่หรือไม่สามารถทำการเปลี่ยนเองได้ ให้โทรเรียกใช้บริการรถลากเพื่อนำไปเข้าศูนย์บริการ
คำแนะนำ : ตรวจสอบยางทุกครั้งก่อนที่จะเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกล พร้อมกับเติมลมยางให้เหมาะสม
ยางอึดขึ้นและคุ้มค่ากับการลงทุนจริงหรือไม่? เมื่อเติมลมยางไนโตรเจน คลิก
4. เครื่องยนต์มีความร้อนสูงเกินไป
อาการ : จะมีไฟเตือนอุณหภูมิขึ้นสูงหรือมีไอน้ำพุ่งออกมาจากฝากระโปรงรถ และในบางครั้งอาจมีกลิ่นเหม็นไหม้ได้
แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
- หยุดรถพร้อมกับจอดรถเพื่อให้เครื่องยนต์เย็นลง แนะนำให้หาที่จอดในที่ร่มและปลอดภัย
- ไม่ควรเปิดฝาครอบหม้อพักน้ำหล่อเย็นในขณะที่เครื่องยนต์กำลังร้อนอยู่ เพราะอาจเกิดอันตรายได้
- เมื่อเครื่องยนต์เย็นลงแล้วให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นว่าอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไปหรือไม่? ถ้าต่ำเกินไปให้เติมด้วยน้ำหล่อเย็นลงไป แต่ถ้าไม่มีจริงๆ จำเป็นต้องเติมจริงๆ ให้เติมด้วยน้ำเปล่าเพื่อให้รถสามารถขับไปยังศูนย์บริการได้
คำแนะนำ : ควรตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและระบบคายความร้อนก่อนออกเดินทาง
รู้หรือไม่! ของเหลวภายในรถยนต์ที่จะต้องดูแลเป็นประจำมีอะไรบ้าง? คลิก
5. ระบบไฟไม่ทำงาน
อาการ : ไฟหน้ารถหรือสัญญาณไฟต่างๆ ไม่สามารถเปิดได้หรือว่าดับไปเลย หรือเมื่อลองล็อกรถแล้วไม่สามารถใช้งานได้
แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
- ตรวจสอบที่ฟิวส์ว่าขาดหรือเสียหรือไม่
- หากฟิวส์ขาด ลองเปลี่ยนฟิวส์ใหม่เพื่อให้ระบบไฟทำงานได้
- หากไม่มั่นใจในเรื่องระบบไฟสามารถเรียกบริการช่วยเหลือบนท้องถนนได้
คำแนะนำ : ศึกษาการเปลี่ยนฟิวส์เอาไว้ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นเราจะได้ทำการเปลี่ยนเองได้ และตรวจสอบระบบไฟฟ้าเป็นประจำ
จะเป็นอย่างไร? หากไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนด คลิก
6. ระบบพวงมาลัยแข็งหรือไม่หมุน
อาการ : พวงมาลัยแข็งเกินไปหรือไม่สามารถหมุนได้ตามปกติ
แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
- ตรวจสอบระดับน้ำมันพวงมาลัยว่าหมดหรือไม่ หากหมดให้ทำการเติมน้ำมันพวงมาลัยเพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้
- หากไม่สามารถทำเองได้ให้เรียกใช้บริการรถลากเพื่อนำเข้าศูนย์บริการ
คำแนะนำ : ควรตรวจสอบน้ำมันพวงมาลัยอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับเช็กระบบของพวงมาลัย
7. ระบบเบรกทำงานไม่ดี
อาการ : เบรกมีเสียงดังหรือรู้สึกว่าเบรกแล้วไม่ค่อยอยู่สักเท่าไร
แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
- หากรู้สึกว่าเบรกไม่ค่อยดี ให้หาที่จอดรถที่ปลอดภัยและไม่ใช้เบรกแรงจนเกินไป
- โทรขอความช่วยเหลือหรือบริการรถลากเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ
คำแนะนำ : หมั่นตรวจสอบผ้าเบรกและระบบเบรกอย่างสม่ำเสมอ
เหยียบเท่าไรก็ไม่ขึ้น ทำอย่างไรหากรถเร่งไม่ขึ้น? คลิก
เปลี่ยนอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้นะ! ต้องเปลี่ยนพร้อมกันสำหรับไส้กรองและน้ำมันเครื่อง คลิก
การที่เราเจอสถานการณ์รถเสียระหว่างทางเป็นเรื่องที่ไม่ได้เลวร้ายหากเรารู้วิธีรับมือแก้ไขในสถานการณ์แบบนี้ เพราะการที่เราเตรียมตัวไว้ตลอดจะช่วยลดความเครียดและได้เรียนรู้แก้ไขปัญหาด้วยตนเองได้
สำหรับท่านใดที่ต้องการนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการที่ ยูไนเต็ด ฮอนด้า สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ช่องทาง Line : @unitedhonda Facebook : United Honda Automobile หรือโทร 02-432-2222 ได้เลยครับ