ถนนที่มีรถบรรทุกวิ่งเยอะมักจะเป็นเส้นทางที่เชื่อมโยงระหว่างเมืองหรือเขตเศรษฐกิจ รวมไปถึงพื้นที่อุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการขนส่งสินค้าและวัสดุต่างๆ โดยเขตการค้าหลักๆ ก็คือ ถนนพระราม 2 ถนนมอเตอร์เวย์ ถนนสาย 1 และถนนสาย 7 ซึ่งทุกเส้นทางเหล่านี้ล้วนมีการขนส่งจำนวนมากระหว่างเมืองและจังหวัดต่างๆ ทั้งในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้
ขับรถบรรทุก
การขับรถบรรทุกจะบังคับยากในช่วงแรกสำหรับผู้ที่ไม่เคยขับหรือไม่คุ้นเคย เนื่องจากมีความแตกต่างจากการขับขี่รถยนต์ทั่วไปทั้งในเรื่องของขนาด น้ำหนัก และวิธีการควบคุมที่ต้องใช้ทักษะและความระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม
จอดพักรถก่อนที่จะเกิดอันตราย! ยิ่งขับไกลยิ่งต้องจอดพัก คลิก

ทำไม? ขับรถบรรทุกถึงบังคับยาก
ขนาดและน้ำหนักของรถ
รถบรรทุกจะมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ทั่วไปหลายเท่า ซึ่งทำให้การควบคุมการขับขี่ที่จำเป็นจะต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น และน้ำหนักที่มากทำให้รถมีระยะเบรกยาวขึ้น รวมไปถึงการเลี้ยวหรือการจอดรถในพื้นที่ที่แคบอาจทำให้ยาก
การมองเห็นหรือจุดบอด
รถบรรทุกจะมีจุดบอดหลายจุด ทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นสิ่งขีดขวางหรือรถยนต์ที่อยู่ใกล้ๆ ได้ ซึ่งจะต้องใช้ความระมัดระวัง และการตรวจสอบกระจกมองข้างรวมไปถึงกระจกมองหลังอยู่เสมอ โดยพื้นที่มองเห็นที่มีจำกัดนี้อาจทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจเมื่อขับในสภาวะการจราจรที่หนาแน่นหรือเมื่อขับขนาบข้างกับคันอื่นๆ

การควบคุมในสภาพถนนที่ไม่ดี
การขับรถบรรทุกในพื้นที่ลาดหรือถนนที่ไม่เรียบ ซึ่งอาจทำให้การควบคุมรถได้ยากมากกว่า เพราะด้วยน้ำหนักของรถบรรทุกอาจทำให้การยึดเกาะถนนลดลง รวมไปถึงสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยอย่างเช่น ฝนตกหรือมีหมอกที่จะต้องใช้ทักษะพิเศษในการควบคุมรถให้ปลอดภัย
การจอดและการเลี้ยว
เนื่องจากขนาดของรถบรรทุกที่ยาวและใหญ่ การจอดหรือเลี้ยวในที่แคบๆ อย่างเข้าซอยหรือในพื้นที่ที่การจราจรที่หนาแน่น ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังและการวางแผนที่ดี โดยการเลี้ยวจะต้องคำนวณระยะทางและมุมเลี้ยวที่แม่นยำ ซึ่งจะต่างจากการรถยนต์ปกติทั่วไป
เรื่องไฟเลี้ยวอย่าประมาท? สัญญาณเล็กๆ ที่ช่วยชีวิตได้ คลิก
เกียร์และระบบขับเคลื่อน
รถบรรทุกบางประเภทอาจมีเกียร์หลายระดับ ซึ่งจะต่างจากการขับรถยนต์ทั่วไปที่เป็นเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ธรรมดา ซึ่งการจะใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์จะต้องใช้ความคุ้นเคยและทักษะการขับที่แม่นยำ
เลือกใช้ให้เหมาะ! ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อ มีความแตกต่าง คลิก
ควบคุมการแซง
ในการแซงของรถบรรทุกจะต้องใช้เวลาและระยะทางที่มากกว่าการแซงของรถยนต์ทั่วไป เนื่องจากความเร็วในการเร่งของรถบรรทุกทำได้ช้ากว่า ซึ่งจะต้องประเมินสถานการณ์ที่ดีและการควบคุมอย่างแม่นยำ
นอกจากนี้การขับขี่รถบรรทุกไม่ใช่แค่เรื่องการขับขี่ทั่วไป แต่จะต้องใช้ความรู้ในการจัดการกับบรรทุกของ การจัดของให้สมดุล เพื่อป้องกันการล้มของสินค้าหรือความเสียหายระหว่างการขนส่ง

จุดอับสายตาเสี่ยงเกิดอันตราย มีจุดไหนบ้างที่ต้องระวัง คลิก
จุดบอดของรถบรรทุก
สำหรับจุดบอดของรถบรรทุกเป็นพื้นที่ที่ผู้ขับขี่ของรถบรรทุกไม่สามารถมองเห็นได้จากกระจกมองข้างและกระจกมองหลัง ทำให้ผู้ขับขี่รถบรรทุกไม่สามารถมองเห็นยานพาหนะอื่นๆ ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ด้านหลังของรถบรรทุก
รถบรรทุกมีขนาดใหญ่ ทั้ง 6 ล้อและ 10 ล้อ โดยเฉพาะรถบรรทุกที่มีการบรรทุกสินค้ามาด้วยจะมีจุดบอดขนาดใหญ่ที่ด้านหลัง ซึ่งทางด้านผู้ขับขี่รถบรรทุกจะไม่สามารถมองเห็นรถยนต์หรือผู้ขับขี่ที่อยู่ทางด้านท้ายได้อย่างชัดเจน
ฉะนั้นการขับขี่ตามรถบรรทุกเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อรถบรรทุกต้องเบรกกระทันหัน ผู้ขับขี่ที่อยู่ต่อท้ายรถบรรทุกอาจไม่สามารถหยุดรถได้ทันเวลา ทำให้เกิดอุบัติเหตุการชนท้ายได้
เสี่ยงโดนปรับ! หากขับรถโดยไม่มี พ.ร.บ. คลิก
ด้านข้างของรถบรรทุก
เป็นจุดบอดที่สำคัญอีกหนึ่งจุดเช่นกัน โดยเฉพาะในกรณีที่รถบรรทุกมีสินค้าเต็มคัน ซึ่งสามารถบดบังมุมมองของผู้ขับขี่จากรถยนต์ที่ขับอยู่ข้างๆ ได้
การขับขี่ในระยะใกล้เกินไปในด้านข้างของรถบรรทุกอาจมีความเสี่ยงต่อการชนหรือการถูกกีดขวางเมื่อรถบรรทุกต้องการเปลี่ยนเลนได้
ด้านหน้าและกระจกมองข้าง
จุดบอดด้านหน้าของรถบรรทุกหากผู้ขับขี่รถยนต์อยู่ใกล้จนเกินไปอาจทำให้ผู้ขับขี่รถบรรทุกมองไม่เห็นได้ เพราะด้วยรถบรรทุกมีขนาดที่สูงและยาวทำให้บดบังทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ และยิ่งถนนที่แคบๆ การขับขี่ติดกับหน้ารถบรรทุกอาจทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นเมื่อต้องเบรกหรือมีการเปลี่ยนเลนของรถบรรทุกได้อย่างทันท่วงที
ในส่วนของกระจกมองข้างก็เช่นกันนะครับ ในกรณีที่มีรถยนต์อยู่ในมุมที่กระจกมองข้างไม่สามารถมองเห็นได้ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพราะด้วยรถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่ทำให้ไม่สามารถครอบคลุมทุกมุมของตัวรถได้นั่นเอง
แสบตาในขณะที่ขับขี่ ลดแสงรบกวนด้วยกระจกมองหลังตัดแสง คลิก
สาเหตุของอุบัติเหตุจากจุดบอด
- การขับขีที่ใกล้เกินไป : โดยเฉพาะในเมืองหรือช่วงเวลาที่การจราจรหนาแน่น ผู้ขับขี่รถยนต์ทั่วไปมักจะขับเข้ามาใกล้กับรถบรรทุกมากเกินไป ทำให้ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
- เปลี่ยนเลนโดยไม่ตรวจสอบมุมมอง : ผู้ขับขี่บางท่านอาจเปลี่ยนเลนหรือต้องการที่จะแซงโดยไม่ได้ตรวจสอบกระจกมองข้างก่อนหรือมุมมองทั้งหมดก่อน ทำให้เกิดการชนได้
- สภาพถนนที่ไม่ดี : ถนนบางพื้นที่อาจไม่เรียบหรืออาจมีหลุม รวมไปถึงเศษวัสดุต่างๆ ที่ตกมาจากรถบรรทุก ซึ่งอาจทำให้บดบังทัศนวิสัยและทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

อย่าประมาท! ประกันขาดอาจทำให้เราเดือนร้อนได้ คลิก
วิธีป้องกันอุบัติเหตุจากจุดบอด
- รักษาระยะห่าง : ควรรักษาระยะห่างให้ปลอดภัยจากรถบรรทุก โดยเฉพาะในจุดที่มีการจราจรหนาแน่น เราจะต้องเผื่อช่วงรถสำหรับรถบรรทุกให้มากกว่ารถยนต์ทั่วไป ด้วยความที่รถบรรทุกเป็นรถที่มีขนาดใหญ่และหนัก เวลารถบรรทุกจะเบรกจะต้องเผื่อช่วงรถให้มากขึ้นกว่าเดิม
- ไม่ขับขี่ในจุดบอด : ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ในจุดบอดของรถบรรทุก ทั้งด้านหน้าและด้านท้ายรวมไปถึงด้านข้าง หากเราอยู่ในจุดบอดของรถบรรทุกส่วนใดก็ตาม หากผู้ขับขี่รถบรรทุกมองไม่เห็นอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
- ใช้ความระมัดระวังเมื่อแซง : หากต้องการที่จะแซงรถบรรทุก จะต้องตรวจสอบให้รอบคอบก่อนเช่น ด้านหน้าของรถบรรทุกอีกหรือไม่ หากว่ามีให้คิดว่าเมื่อเราแซงแล้วต้องเบรกหรือไม่ และถ้าเบรกรถบรรทุกจะเบรกทันหรือไม่ เป็นต้น และยิ่งสภาพถนนที่ไม่ดีด้วยแล้วนั้นยิ่งต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากเลยนะครับ
- ใช้ไฟเลี้ยวและสัญญาณเตือน : ทุกครั้งเมื่อต้องการที่จะเปลี่ยนเลนหรือแซง ควรใช้ไฟเลี้ยวและสัญญาณเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่รถบรรทุกทราบว่าเราต้องการที่จะทำอะไร
ในประเทศไทยกฎการขับขี่ของรถบรรทุกในเรื่องการเลือกเลนเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเพื่อความปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่ของรถบรรทุกและผู้ใช้ถนนคันอื่นๆ นอกจากนี้ยังช่วยลดความแออัดของการจราจรและเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ได้อีกด้วยครับ
เลนที่รถบรรทุกควรใช้
เลนซ้ายสุด (เลนสำหรับการเดินทางช้า)
- รถบรรทุกที่มีน้ำหนักมากหรือรถที่บรรทุกสินค้า ควรใช้เลนซ้ายสุดและใช้ความเร็วที่เหมาะสมและปลอดภัย
- โดยปกติแล้วในเลนที่มีการจราจรที่หนาแน่นอย่างในเมือง รถบรรทุกมักจะใช้เลนซ้ายสุดเพื่อไม่ให้ขัดขวางการจราจรของรถยนต์คันอื่นๆ ที่สามารถขับด้วยความเร็วที่สูงกว่า
- การขับในเลนซ้ายสุดจะช่วยให้ผู้ขับขี่รถบรรทุกสามารถหยุดหรือชะลอความเร็วได้ง่าย

ทำไม? ทางม้าลายต้องสีขาว-ดำ และหากไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลายมีโทษปรับ! คลิก
ไม่ควรขับขี่ในเลนขวาสุด
- รถบรรทุกไม่ควรขับขี่ในเลนขวาสุดหรือเลนที่ใช้สำหรับขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือสำหรับการแซง
- เลนขวาสุดเป็นพื้นที่สำหรับรถยนต์ที่มีการขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือรถที่ต้องการแซงคันอื่นๆ ดังนั้นการขับขี่รถบรรทุกในเลนนี้อาจจะเป็นการขัดขวางการจราจรและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้
ในกรณีที่มีหลายเลน
- หากถนนมีหลายเลนไม่ว่าจะ 4 เลนหรือ 6 เลน รถบรรทุกควรใช้เลนที่ 1 หรือ 2 จากซ้ายสุด โดยเลนที่ 1 จะเป็นเลนสำหรับรถที่ขับช้าและเลน 2 ใช้สำหรับการขับขี่ในความเร็วปานกลาง
- หลีกเลี่ยงการขับขี่ในเลนที่ 3 หรือ 4 เพราะเลนนี้จะใช้สำหรับการขับขี่ที่ต้องการความเร็วสูงและสำหรับแซง

ปฎิบัติตามกฎจราจร
- ผู้ขับขี่รถบรรทุกจะต้องปฏิบัติตามกฎจราจรและข้อบังคับต่างๆ อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเลน การหยุดรถ และการให้สัญญาณไฟเลี้ยวก่อนการเปลี่ยนเลน
- ในบางพื้นที่จะมีป้ายบอกเลนที่รถบรรทุกห้ามใช้ ดังนั้นผู้ขับขี่รถบรรทุกควรปฏิบัติตามกฎจราจรและขับอยู่ในเลนที่อนุญาตให้ขับ
โดยทั่วไปแล้วรถบรรทุกควรขับขี่ในเลนซ้ายสุดหรือเลนที่ใช้สำหรับการเดินทางช้าในทุกกรณี เพื่อให้การจราจรมีความปลอดภัยและคล่องตัว การเลือกขับในเลนขวาสุดหรือเลนสำหรับแซงไม่ควรเกิดขึ้นเว้นแต่ผู้ขับขี่รถบรรทุกต้องการที่จะแซงคันหน้าที่ขับช้ากว่า เมื่อแซงแล้วก็อยู่ในเลนซ้ายสุดเช่นเดิม
อย่างไรก็ตามการขับขี่ที่เหมาะสมเป็นปัจจัยที่สำคัญในการช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุและช่วยให้การจราจรเป็นไปอย่างราบรื่น รวมไปถึงการขับขี่อย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยต่อตัวเราเองและเพื่อนร่วมทางด้วยนะครับ