สิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องรู้!

   สำหรับทางแยกที่ไม่มีไฟสัญญาณเตือนมักจะทำให้ผู้ขับขี่หลายๆ ท่านรู้สึกเหมือนกำลังพบเจอกับสถานการณ์ที่อันตรายและท้าทาย เพราะการขับขี่ผ่านทางแยกที่ไม่มีไฟสัญญาณเตือนไม่ใช่เพียงแต่จะต้องใช้ความระมัดระวังเท่านั้น แต่จะต้องตัดสินใจให้รวดเร็วและถูกต้องอีกด้วย และเหตุใดทางแยกที่ไม่มีไฟสัญญาณเตือนถึงเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่นะ?

สาเหตุ! ทางแยกวัดใจถึงเป็นอันตราย

อาการรถเสียระหว่างทาง พร้อมวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รับมืออย่างมือโปร! คลิก

การคาดการณ์ที่ยากขึ้น

   สำหรับทางแยกวัดใจหรือทางแยกที่ไม่มีไฟสัญญาณเตือนทำให้ผู้ขับขี่จะต้องคาดเดาเหตุการณ์ว่าจะมีรถยนต์หรือพาหนะอื่นวิ่งมาจากทางไหนหรือขับออกมาจากทางไหนหรือไม่? ฉะนั้นผู้ขับขี่จะต้องใช้ความระมัดระวัง ประสบการณ์ และการตัดสินใจที่รวดเร็ว เพราะหากตัดสินใจช้าหรือไม่ระมัดระวังอาจเกิดอุบัติเหตุได้

เกิดอุบัติเหตุ

   โดยทางแยกวัดใจในลักษณะนี้จะเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ เนื่องจากผู้ขับขี่ไม่สามารถเห็นรถจากอีกฝั่งได้ ทำให้การผ่านทางแยกจึงต้องวัดใจกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้หากไม่มีการมองที่ชัดเจนหรือไม่มีการเตือนกัน

ภัยร้ายจากการจอดรถผิดที่ จอดรถแบบไหนถึงจะไม่สร้างปัญหาให้ใคร? คลิก

อย่าประมาท! ประกันขาดอาจทำให้เราเดือนร้อนได้ คลิก

สัญญาณเตือน

   ผู้ขับขี่บางท่านอาจไม่ได้นึกถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะในที่ที่มีการจราจรที่ไม่หนาแน่นหรือในช่วงกลางคืนที่มีทัศนวิสัยที่ไม่ดี ซึ่งการที่ไม่ลดความเร็วหรือไม่ระวังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงขึ้นได้

เรื่องไฟเลี้ยวอย่าประมาท? สัญญาณเล็กๆ ที่ช่วยชีวิตได้ คลิก

ลดความเสี่ยง

• ลดความเร็ว : เมื่อผู้ขับขี่เห็นว่าทางข้างหน้าเป็นทางแยกที่ไม่มีไฟสัญญาณเตือน แนะนำว่าให้ลดความเร็วเพื่อให้มีเวลาในการตัดสินใจหากมีสิ่งกีดขวางหรือการเคลื่อนไหวมาจากทางอื่น
• มองรอบทิศทาง : เมื่อถึงทางแยกวัดใจควรระวังและมองให้รอบทิศทางอย่างรอบคอบเพื่อตรวจสอบว่ามีรถยนต์หรือพาหนะอื่นหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้ขับผ่านทางแยกได้อย่างปลอดภัยที่สุด
• สภาพถนน : สำหรับบนถนนที่ไม่มีไฟสัญญาณเตือนอาจมีการบดบังหรือมีสิ่งกีดขวางจากบนทางเดินได้ เช่น พุ่มไม้หรืออุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ ฉะนั้นควรตรวจสอบสภาพถนนให้ดีก่อน
• ปฏิบัติตามกฎจราจร : การให้ความสำคัญกับกฎจราจรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการให้สัญญาณเลี้ยวหรือการหยุดในจุดที่ต้องหยุด

   นอกจากทางแยกวัดใจที่เป็นจุดเสี่ยงแล้ว ทางเอกทางโทก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรรู้และสำคัญเช่นกัน เพราะการเลือกปฏิบัติตามกฎจราจรที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางทั้งทางเอกทางโทจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้

ทางเอกหรือทางหลัก

   เป็นถนนที่เป็นเส้นหลัก และเป็นเส้นใหญ่สุด โดยมีจำนวนช่องทางเดินรถที่กว้างมากกว่าทางโทหรือทางอื่นๆ สำหรับทางเอกจะมีสัญลักษณ์จราจรที่ชัดเจน จะไม่มีเส้นหยุดหรือป้ายหยุดที่อยู่ตรงทางร่วม

ทางโทหรือทางรอง

   ทางโท เป็นถนนที่เป็นเส้นทางย่อย มีขนาดช่องจราจรที่แคบและเล็ก โดยจะถูกแยกจากทางเอกออกมาอย่างเช่น ตรอกซอย ลานจอดรถที่เชื่อมกับถนนหลัก ซึ่งทางโทจะสามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์เส้นหยุดหรือป้ายหยุดระหว่างทางแยก-ทางร่วม

ประมาทร่วม! คู่กรณีชนแล้วหนีหรือไม่มีประกัน ควรทำอย่างไรและประกันจะจ่ายให้เราไหม? คลิก

รู้ได้อย่างไร? ว่าเราอยู่ ทางเอก หรือ ทางโท

สังเกตการจราจร

• ทางเอก : จะมีลักษณการจราจรที่หนาแน่นกว่า โดยจะมีรถผ่านตลอดเวลาและส่วนใหญ่เส้นทางจะไปในทางหลวงหรือถนนที่เชื่อมต่อระหว่างเมือง
• ทางโท : จะมีการจราจรที่เบากว่า ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อมาจากทางเอกไปยังพื้นที่หรือแหล่งย่อยต่างๆ

จุดอับสายตาเสี่ยงเกิดอันตราย มีจุดไหนบ้างที่ต้องระวัง คลิก

ประมาทอาจถึงขั้นร้ายแรง! โทษปรับสำหรับขับรถฝ่าไฟแดง ขับแซงเส้นทึบ คลิก

สัญญาณไฟจราจร

• ทางเอก : จะมีไฟสัญญาณจราจร เพื่อควบคุมการไหลของจราจร โดยเฉพาะในเมืองหรือพื้นที่ตรงข้ามกัน
• ทางโท : จะไม่มีไฟสัญญาณเตือน หรือหากมีก็ไม่ได้มีบ่อยเท่ากับทางเอก

ลักษณะถนน

• ทางเอก : จะมีการวางผังถนนที่ดีกว่า เช่น ถนนที่กว้างกว่า มีหลายเลน มีการบำรุงรักษาที่ดี รวมถึงมีการคำนึงถึงการขนส่งที่หนัก
• ทางโท : ลักษณะของถนนจะแคบกว่า มีเลนไม่มาก หรือสภาพถนนที่ไม่ค่อยดีเท่ากับทางเอก เนื่องจากเป็นเส้นทางรองที่รองรับการจราจรที่เบาหรือน้อยกว่านั่นเอง

การตั้งชื่อถนน

• ทางเอก : ถนนหลักหรือทางหลวงมักจะมีชื่อที่ชัดเจนและบ่งบอกถึงความสำคัญ
• ทางโท : ถนนรองที่มักจะมีชื่อที่บ่งบอกถึงการเชื่อมต่อระหว่างชุมชนหรือจุดย่อยๆ

ใช้ผิดอาจเกิดอุบัติเหตุได้ หยุด! พฤติกรรมการใช้ไฟฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น คลิก

สัญญาณจราจร

• ทางเอก : มักจะมีสัญญาณ “ให้ทาง” กับทางเอกหรือมีการควบคุมจราจรที่เข้มงวดในทางเอกมากกว่า
• ทางโท : บางกรณีจะมีสัญญาณ “หยุด” หรือไฟสัญญาณให้หยุดเพื่อให้ทางแก่ผู้ขับขี่ที่มาจากทางเอก

ปฏิบัติอย่างไร? ทางเอกกับทางโท เมื่อเจอทางแยกวัดใจ

   เมื่อผู้ขับขี่ขับผ่านทางแยกที่ไม่มีไฟสัญญาณเตือนหรือทางแยกที่ต้องตัดสินใจเอง จะต้องให้ความสำคัญกับทางเอกและทางโทโดยการให้ความสำคัญตามลำดับดังนี้

• ทางเอกมีความสำคัญมากกว่า ควรให้สิทธิ์ไปก่อน : หากเราขับขี่อยู่บนทางเอกและเจอทางแยกวัดใจที่ไม่มีไฟสัญญาณเตือน เราจะได้สิทธิ์ไปก่อนในการขับผ่าน
• ทางโทต้องให้ทางแก่ทางเอก : เมื่อเราขับอยู่ในเส้นของทางโท เมื่อถึงทางแยกที่ไม่มีไฟสัญญาณเตือนจะต้องหยุดเพื่อให้ทางแก่ทางเอกไปก่อน เนื่องจากทางเอกเป็นหลักและมีความสำคัญมากกว่าในการให้สิทธิ์การขับขี่

ทันทำที! หากโดนชนแล้วหนี พร้อมวิธีรับมือ คลิก

ไม่ควรมองข้าม! กระจกโค้งจราจร

   สำหรับกระจกโค้งจราจรถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมากในการขับขี่บนถนน โดยยิ่งสถานการณ์ที่เราต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากอย่างทางแยกวัดใจแบบนี้ ตัวช่วยนี้ทำให้เราสามารถมองเห็นถนนได้ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นทางลาดหรือทางแยก ซึ่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ในมุมอับสายตาได้อย่างมีประสิทธภาพ

มองเห็นสิ่งกีดขวางในมุมอับสายตา

   ในลักษณะถนนที่เป็นทางโค้ง ทางแยกที่ทัศนวิสัยไม่ดี ทางลาดชัน ทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นรถยนต์หรือผู้ที่ใช้ถนนคันอื่นๆ ที่มาจากทิศทางฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน สำหรับกระจกโค้งจราจรจะช่วยขยายมุมมองให้กว้างขึ้นทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นสิ่งที่กีดขวางหรือการเคลื่อนไหวของพาหนะได้

หยุดพฤติกรรมแบบนี้! อันตรายถึงชีวิตหากไม่ขับขี่ตามกฎจราจร คลิก

ลดอุบัติเหตุ

   การติดตั้งกระจกโค้งในจุดที่จำเป็นจะช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่มาด้วยความเร็วสูงได้ โดยเฉพาะทางแยกหรือทางโค้ง เพราะผู้ขับขี่จะสามารถมองเห็นสถานการณ์หรือการเคลื่อนไหวจากฝั่งตรงข้ามได้ก่อนที่จะตัดสินใจขับผ่าน ช่วยให้เราปรับตัวได้ทันเวลาและหลีกเลี่ยงการชนกันได้

เพิ่มความปลอดภัยในการจราจรที่หนาแน่น

   สำหรับกระจกโค้งจราจรยังมีบทบาทที่สำคัญในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น เช่น บริเวณแยกถนนในเมืองหรือถนนที่มีคดเคี้ยว เมื่อถนนเส้นนั้นมีรถจำนวนมากหรือสภาพถนนที่ทำให้การมองเห็นได้ยาก กระจกโค้งจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นทั้งซ้ายและขวาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยในการตัดสินใจได้อีกด้วย

รถชนแบบนี้ใครผิด? เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถใหญ่กับรถเล็ก รถใหญ่ผิดเสมอจริงหรือ คลิก

   อย่างไรก็ตามการมีกระจกโค้งจราจรที่เป็นตัวช่วยที่เพิ่มทั้งความปลอดภัยและความมั่นในการขับขี่แล้ว และไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ที่มาจากทางเอกหรือทางโทควรเคารพและปฏิบัติตามกฎจราจรนะครับ พร้อมกับใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ด้วย เพราะถ้าเราไม่ระมัดระวังในการใช้บถนนและเราตัดสินใจช้าหรือเร็วไปก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ฉะนั้นเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและลดการเกิดอุบัติเหตุเราจะต้องมีสติ ไม่ว่าจะขับขี่ไปที่ไหนก็ตามครับ