ชะล่าใจไม่เช็กรถก่อนเจอสถานการณ์ฝนตกหนัก เสี่ยงเกิดอันตราย!

ชะล่าใจไม่เช็กรถก่อนเจอสถานการณ์ฝนตกหนัก เสี่ยงเกิดอันตราย!

21/06/2024

ปัญหาที่เกิด

   ในขณะที่ฝนกำลังตกทำให้สภาพถนนเกิดความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นถนนลื่นที่ส่งผลให้การยึดเกาะของยางรถลดน้อยลง เกิดแอ่งน้ำที่ทำให้เสี่ยงเกิดรถเสียหลักหรือเกิดอาการเหินน้ำ มีหลุมบ่อที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ เกิดดินถล่มในพื้นที่ที่ขึ้นบนเส้นทางภูเขา หากกำลังขับขี่อยู่บนถนนอาจทำให้ทัศนวิสัยให้การมองเห็นลดลงได้ครับ

   นอกจากสภาพบนถนนที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายแล้วยังมีสภาพอากาศที่มีผลต่อการขับขี่ของเราอีกด้วย หากมีลมแรงอาจทำให้การควบคุมรถทำได้ยาก และถ้ามีฟ้าผ่ามาด้วยอันตรายต่อทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้นะครับ

   ในด้านของการจราจรช่วงที่ฝนตกก็มีปัญหาอีกเช่นกัน อย่างที่เราเคยได้ยินกัน “ฝนตก รถติด” มันเป็นเช่นกันจริงๆ ครับ ปกติฝนไม่ตกรถก็ติดพออยู่แล้ว แต่พอฝนตกมาอีกยิ่งทำให้รถติดหนักเข้าไปอีก แบบนี้ล่ะครับ! ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้สูงมากขึ้น

จอดรถใต้ต้นไม้ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย! ส่งผลร้ายมากกว่าที่คิด คลิก

ยิ่งฝนตกยิ่งต้องล้างรถ กับ 5 เหตุผลที่ควรล้างรถในหน้าฝน คลิก

 

ระวัง!

   ดังนั้นเมื่อฝนตกแล้วเราจำเป็นจะต้องใช้รถใช้ถนนจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากเลยนะ อย่าลืมเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ เพราะอย่าลืมว่ายิ่งฝนตกยิ่งทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดน้อยลง ยิ่งจะต้องเว้นระยะจากคันหน้าให้มากกว่าเดิมเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้จะต้องเปิดไฟหน้าไม่ว่าจะฝนจะตกเวลาไหนก็ตามเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยทั้งเราและเพื่อนร่วมทาง สิ่งที่จะช่วยลดการลื่นไถลก็คือการแซง ควรหลีกเลี่ยงการแซงในขณะที่ฝนตก แม้กระทั้งเข้าโค้งก็ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง และหากฝนตกหนักมากๆ แนะนำให้แวะรถหยุดจอดพักก่อนนะครับ เพราะเราอาจมองไม่เห็นถนนได้ 

 

เตรียมพร้อมรับมือ

   ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนยิ่งต้องเตรียมความพร้อม หมั่นตรวจเช็กรถให้ดีก่อนที่จะเดินทางไปไหนมาไหนเพื่อความปลอดภัยต่อตัวเราและครอบครัวของเรานะครับ สำหรับจุดที่ต้องคอยตรวจเช็กนั้นจะมีอะไรบ้าง

เคลมประกันชั้นไหนได้บ้าง? หากเกิดเหตุขับรถตกหลุม คลิก

อันตราย! หากเกิดฝ้าขึ้นที่กระจกในขณะขับขี่รถ คลิก

 

ที่ปัดน้ำฝน

   สำคัญมากๆ เลยสิ่งนี้ ถ้าเช็กแล้วใช้งานไม่ได้หรือเสื่อมสภาพจะต้องรีบทำการเปลี่ยนทันที การเช็กถ้ามีเสียงดังเอี๊ยดๆ ในขณะที่เรากดใช้งานที่ปัดน้ำฝน เสียงแบบนี้เป็นอาการของยางที่ปัดน้ำฝนเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว โดยส่วนใหญ่แล้วจะต้องเปลี่ยนยางที่ปัดน้ำฝนทุกๆ 1 ปี

   หรือถ้าในขณะที่กำลังใช้งานอยู่แล้วมีอาการสะดุดหรือกระตุกขึ้นมา อาการแบบนี้บ่งบอกว่าที่ปัดน้ำฝนเริ่มเสื่อมสภาพแล้วเช่นกันครับ ควรทำการเปลี่ยนทันที

   นอกจากอาการเหล่านี้แล้วหากใช้งานอยู่แล้วปัดอย่างไรกระจกก็ไม่สะอาดสักที แถมยังมีคราบทิ้งไว้อีกด้วยทำให้การมองเห็นมัวหมอง หากเป็นเช่นนี้เป็นเพราะใบปัดน้ำฝนที่กดลงบนกระจกอาจเกิดการฉีกขาด ทำให้ใบปัดน้ำฝนทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ควรทำการเปลี่ยนทันที เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้เมื่อถึงเวลาต้องใช้งานจริงๆ เสี่ยงเกิดอันตรายได้เลยนะครับ ทำให้การมองเห็นน้อยลงไปได้เลย ดังนั้นจะต้องคอยเช็กอยู่บ่อยๆ 

ลุยน้ำเช็คด่วน! กับ 5 สิ่งที่ควรเช็ค คลิก

 

น้ำยาฉีดกระจก

   สงสัยหรือไม่? ในขณะที่ฝนตกอยู่แล้วทำไมต้องฉีดน้ำยาฉีดกระจกอีก ในเมื่อฝนก็เป็นน้ำและน้ำยาฉีดกระจกก็ใช้เพียงน้ำเปล่าแต่แท้ที่จริงแล้วน้ำยาฉีดกระจกมีความสำคัญมากกว่าน้ำฝนแน่นอนครับ เพราะน้ำจากน้ำฝนนั้นมีสิ่งสกปรกปนอยู่ด้วยทั้งคราบฝุ่น โคลน และดินที่ถูกพัดหรือกระเด็นติดที่หน้ารถ ซึ่งสิ่งสกปรกเหล่านี้จะกลายเป็นคราบที่ติดอยู่บนหน้ากระจก ทำให้บดบังการมองเห็นขณะที่ขับขี่อยู่เราจึงต้องใช้น้ำยาฉีดกระจกเพื่อให้คราบต่างๆ หลุดออกไป 

   หากมีการเติมน้ำยาฉีดกระจกเข้าไปแล้วแต่เมื่อกดฉีดแต่น้ำยาไม่ออก อาการแบบนี้อาจจะมีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันบริเวณหัวฉีดได้หรืออาจจะเป็นเพราะท่อลำเลียงน้ำยาแตกหรือรั่ว จึงทำให้น้ำยาไม่สามารถถูกพ่นออกมาได้ ถ้ามีอาการแบบนี้ให้นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กครับ

 

ยางรถยนต์

   ยางรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนในการเคลื่อนที่ หากเราดูแลรักษายางเป็นอย่างดีหรืออยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน เมื่อเจอสถานการณ์ที่ฝนตกหนักๆ ก็ทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น

   สำหรับการสังเกตสภาพยางสังเกตได้จากหากเราเข้าโค้งเมื่อไหร่รถจะลื่นไถลทุกที อาการแบบนี้จะต้องเปลี่ยนยางทันที ซึ่งสาเหตุมาจากดอกยางรถกำลังจะหมดจึงทำให้ไม่มีการยึดเกาะถนนนั่นเอง

ยางรถยนต์มีวันหมดอายุด้วยนะ รู้หรือไม่? คลิก

ใช้รถต้องระวัง! หากพบว่ายางรถยนต์เป็นแบบนี้ต้องเปลี่ยนด่วน คลิก

 

   หรือรู้สึกว่าเหยียบคันเร่งเท่าไหร่ก็เร่งไม่ขึ้นสักทีถ้ามีอาการแบบนี้จะเกี่ยวกับลดยางที่เริ่มอ่อน เมื่อขับขี่ช่วงฝนตกแล้วเกิดเจอน้ำท่วมถนนถ้าลมยางอ่อนอยู่เวลาขับจะรู้สึกฝืดๆ ทำให้ต้องเหยียบคันเร่งอย่างหนักอาจทำให้มีผลต่อน้ำมันทำให้เปลืองน้ำมันอย่างมาก ทางที่ดีควรที่จะเติมลมยางให้พอดีหรือมากกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อให้หน้ายางแข็งและสามารถรีดน้ำได้ดีขึ้น แต่จะต้องระวังหากเติมลมยางมากเกินไปก็ทำให้ลดประสิทธิภาพในการยึดเกาะได้เช่นกัน

 

ระบบเบรก

   เมื่อเราเหยียบเบรกจะได้ยินเสียงครืดๆ หรือเสียงแหลมๆ เป็นเพราะผ้าเบรกรถกำลังเสียดสีกับจานรองเบรกอยู่ ซึ่งเกิดจากผ้าเบรกที่กำลังจะหมด ควรทำการเปลี่ยนผ้าเบรกนะครับ

   หรือสังเกตว่าเมื่อเราเหยียบเบรกแล้วเหมือนเบรกตอบสนองช้ากว่าปกติหรือต้องกดเบรกลึกลงไปมากกว่าเดิม อาการเช่นนี้เป็นอาการบ่งบอกว่าผ้าเบรกให้จะหมดเช่นกัน ฉะนั้นควรทำการเปลี่ยนผ้าเบรกเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุที่เป็นอันตรายได้

   แต่ถ้าในขณะที่เหยียบเบรกแล้วรับรู้ได้ว่าเบรกสั่นหรือในบางครั้งที่เบรกเกิดอาการสั่นเบาๆ จนถึงพวงมาลัยหรือรถทั้งคัน อาการแบบนี้จะต้องเปลี่ยนจานรองเบรกครับ เกิดจากจานรองเบรกคดหรือบิดจากการที่เราใช้งานมากเกินไป และยิ่งช่วงที่เราขับขี่ในช่วงฝนตกแล้วต้องลุยน้ำท่วมด้วย เมื่อจานรองเบรกร้อนๆ มากระทบกับน้ำทำให้จานรองเบรกเกิดคดหรือบิดตัวได้นั่นเองครับ

ขับรถแล้วมีอาการแปลกๆ และมีไฟเบรกมือค้าง เกิดจากสาเหตุใด คลิก

 

ระบบไฟ

   ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ไฟกระพริบหรือไฟฉุกเฉิน ไฟตัดหมอก และไฟเบรก ล้วนเป็นไฟสัญญาณที่สำคัญทั้งสิ้นในช่วงที่ฝนตก ช่วยลดอุบัติเหตุในขณะที่ขับขี่ตอนฝนกำลังตกอยู่ สำหรับการสังเกตไฟเหล่านี้ว่าพร้อมใช้งานหรือไม่ เพียงเปิดไฟแต่ละสัญญาณ หากพบว่าไฟที่ควรกระพริบแล้วไม่กระพริบ หรือไฟที่ไม่ควรกระพริบแล้วดันกระพริบ รวมไปถึงได้ยินเสียงรีเลย์ (เสียงสวิตช์ไฟเปิดปิด) ถ้าแบบนี้ควรเปลี่ยนหลอดไฟสัญญาณนั้นๆ เพื่อป้องกันการลดอุบัติเหตุครับ

ใช้ผิดอาจเกิดอุบัติเหตุได้ หยุด! พฤติกรรมการใช้ไฟฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น คลิก

 

เครื่องยนต์

   ช่วงหน้าฝนสภาพเครื่องยนต์รวมไปถึงของเหลวต่างๆ จะต้องพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา หมั่นตรวจเช็กสภาพเครื่องอย่างสม่ำเสมอ สำหรับของเหลวทั้งหลายจะต้องอยู่ในระดับที่ปกติไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเครื่อง

รู้หรือไม่! ของเหลวภายในรถยนต์ที่จะต้องดูแลเป็นประจำมีอะไรบ้าง? คลิก

  • น้ำมันเกียร์
  • น้ำมันเบรก
  • น้ำมันเกียร์
  • หม้อน้ำ
  • น้ำกลั่นแบตเตอรี่

สามารถตรวจเช็กได้จากก้านวัดระดับในอยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมถึงรอยรั่วต่างๆ ว่ามีรอยหรือซึมที่จุดไหนหรือไม่ หากพบให้ทำการซ่อมแซมทันที

ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เคลมช่วงล่างได้หรือไม่? คลิก

ประกันจะคุ้มครองหรือไม่? ถ้าฝนตกน้ำท่วมหนัก คลิก

   การตรวจเช็กสภาพรถยนต์ที่กล่าวมานี้ให้พร้อมใช้งานเป็นการป้องการหรือลดการเดอุบัติเหตุในสิ่งที่เราไม่คาดคิดได้ในขณะที่กำลังขับขี่ช่วงทีฝนตก เพราะในช่วงที่ฝนตกเป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ หากรถไม่พร้อมใช้งานแล้วมาเจอสภาพอากาศแบบนี้บอกได้เลยว่าเสี่ยงมากๆ เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเราและผู้โดยสารหรือเพื่อนร่วมทางควรตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอนะครับ


All-new Honda WR-V

เริ่มต้น 799,000 บาท
ผ่อนเริ่มต้น 8,000 บาท/เดือน

ดูรายละเอียด

บทความอื่นๆ

ประมาทร่วม! คู่กรณีชนแล้วหนีหรือไม่มีประกัน ควรทำอย่างไรและประกันจะจ่ายให้เราไหม?

ประมาทร่วม! คู่กรณีชนแล้วหนีหรือไม่มีประกัน ควรทำอย่างไรและประกันจะจ่ายให้เราไหม?

12/11/2024

การประมาทร่วม เป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากการความประมาทของทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการขับขี่ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดการประมาทร่วมมักจะมาจากความประมาทเลินเล่อไม่ว่าจะเป็นการไม่ระวัง การขาดสมาธิ ความเร่งรีบ การไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างการขับรถเร็วเกินที่กำหนด ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ขับฝ่าสัญญาณไฟแดงหรือแม้กระทั่งสภาพแวดล้อมก็สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้อย่างป้ายจราจรที่ไม่ชัดเจน รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้โทรศัพท์ในขณะที่กำลังขับขี่ ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือการขับขี่ที่เป็นเวลานาน

อ่านต่อ
ระวัง! ขับรถป้ายแดงในเวลากลางคืนโดนปรับไม่รู้ตัว ยิ่งมือใหม่ที่เพิ่งออกรถขับป้ายแดงยังไงไม่ให้ผิดกฎหมาย

ระวัง! ขับรถป้ายแดงในเวลากลางคืนโดนปรับไม่รู้ตัว ยิ่งมือใหม่ที่เพิ่งออกรถขับป้ายแดงยังไงไม่ให้ผิดกฎหมาย

11/11/2024

การขับรถป้ายแดงในเวลากลางคืนอาจมีผลต่อความปลอดภัย เนื่องจากรถป้ายแดงหมายถึงรถใหม่ที่ยังไม่ผ่านการจดทะเบียนเต็มตัว ผู้ขับขี่อาจมีความไม่คุ้นชินกับรถหรือสภาพถนนในเวลากลางคืน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การมองเห็นและความชัดเจนในการมองก็อาจลดลง ทำให้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม รถป้ายแดงจะต้องมีแสงไฟและอุปกรณ์ความปลอดภัยที่จำเป็นซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้เช่นกัน

อ่านต่อ
จุดบอด... อันตรายใกล้ตัวที่คุณอาจมองข้าม

จุดบอด... อันตรายใกล้ตัวที่คุณอาจมองข้าม

04/11/2024

จุดบอดเป็นพื้นที่ที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นยานพาหนะหรือวัตถุรอบข้างได้ ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว จุดบอดมีความอันตรายสูงโดยเฉพาะในพื้นที่การจราจรหนาแน่น เทคนิคในการลดจุดบอดมีหลายอย่าง เช่น การใช้กระจกมองข้างที่มีขนาดใหญ่ขึ้น การติดตั้งเซ็นเซอร์ช่วยเตือน รวมถึงการปรับระยะการขับขี่ให้เหมาะสมและสังเกตสภาพแวดล้อมรอบๆ อย่างสม่ำเสมอ

อ่านต่อ
Uto